ระบบบิลลิ่งพ่นพิษ บอร์ดทีโอทีสั่งปลด “ชัยเชวง” พ้นตำแหน่งซีทีโอ หลังเกิดปัญหาในการใช้งานจริง เป็นการล้อมคอกหลังวัวหาย เพราะเคยมีการท้วงติงตั้งแต่ขั้นตอนการประมูล แต่ผู้บริหารทีโอทีไม่เคยรับฟัง
นายธีรวิทย์ จารุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที กล่าวว่า บอร์ดทีโอทีมีมติให้ปรับนายชัยเชวง กฤตยาคม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ออกจากความรับผิดชอบ โดยให้ทำหน้าที่ที่ปรึกษาของบริษัท และให้ทำงานตามที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น โดยจะแต่งตั้งผู้บริหารคนอื่นเข้ามารับผิดชอบแทน
“การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการทำงานสมกับที่เป็นบริษัทเอกชน เนื่องจากนายชัยเชวงไม่สามารถดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนที่วางไว้ได้ ซึ่งเป็นไปตามหลักการบริหาร”
แหล่งข่าวจากทีโอที กล่าวว่า การปลดนายชัยเชวงครั้งนี้ เพราะระบบบิลลิ่งใหม่ที่เริ่มใช้เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมามีปัญหาเข้าขั้นวิกฤต โดยมีการร้องเรียนจากลูกค้าและพนักงานศูนย์บริการอย่างมากเช่น
1.รับชำระเงินจากลูกค้าใช้เวลา 4-5 นาทีต่อใบแจ้งหนี้ 1 ฉบับ แต่ถ้าระบบมีปัญหาใช้เวลาออกใบกำกับภาษีให้ลูกค้าจะใช้เวลา 10-15 นาทีต่อใบแจ้งหนี้ 1 ฉบับ
2.ไม่มีเจ้าหน้าที่ประสานงานกับทางศูนย์กรณีระบบขัดข้อง ซึ่งหากระบบขัดข้องบ่อยๆ โอกาสทุจริตก็มีความเป็นไปได้สูง
3.ไม่สามารถอัปเดตข้อมูลตามสถานภาพที่แท้จริงได้ ซึ่งส่งผลเสียในด้านการให้บริการลูกค้าโดยตรง และเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง เช่น บริการเพย์แอตโพสต์ของไปรษณีย์ไทย ที่ให้บริการรับชำระเงิน พบว่าบริการของทีโอทีช้ากว่าเป็นเท่าตัว
สำหรับระบบบิลลิ่งใหม่นั้น นายชัยเชวงเป็นประธานคณะกรรมการประกวดราคา ซึ่งปรากฏว่าบริษัท เทเลเมติคส์ ได้โครงการไปด้วยมูลค่า 1,190 ล้านบาท โดยในช่วงนั้นสหภาพฯ ทศท ชุดเก่าที่นายมิตร เจริญวัลย์ เป็นประธาน ได้ทำหนังสือร้องเรียนถึงนายสิทธิชัย ส่งพิริยะกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ถึงประเด็นที่บริษัท เทเลเมติคส์ ที่ชนะการประมูลบิลลิ่งมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ปรึกษาที่ ทศท.ได้จ้างให้ทำทีโออาร์ และ Benchmark ทำให้ในการพิจารณาเกิดความไม่ชอบมาพากลขึ้น ในทำนองเขี่ยผู้เข้าร่วมประมูลบางรายตกไปโดยที่ซอฟต์แวร์ระบบบิลลิ่งของบริษัทที่ถูกเขี่ยตกเป็นซอฟต์แวร์ที่บริษัท เอไอเอส ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือที่มีฐานลูกค้ากว่า 15 ล้านรายในปัจจุบันใช้งานอยู่ด้วยซ้ำ แต่นายชัยเชวงก็ออกมายืนยันถึงความโปร่งใสและความถูกต้องในการประมูลครั้งนั้น
Company Related Links :
TOT
AIS
นายธีรวิทย์ จารุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที กล่าวว่า บอร์ดทีโอทีมีมติให้ปรับนายชัยเชวง กฤตยาคม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ออกจากความรับผิดชอบ โดยให้ทำหน้าที่ที่ปรึกษาของบริษัท และให้ทำงานตามที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น โดยจะแต่งตั้งผู้บริหารคนอื่นเข้ามารับผิดชอบแทน
“การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการทำงานสมกับที่เป็นบริษัทเอกชน เนื่องจากนายชัยเชวงไม่สามารถดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามแผนที่วางไว้ได้ ซึ่งเป็นไปตามหลักการบริหาร”
แหล่งข่าวจากทีโอที กล่าวว่า การปลดนายชัยเชวงครั้งนี้ เพราะระบบบิลลิ่งใหม่ที่เริ่มใช้เมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมามีปัญหาเข้าขั้นวิกฤต โดยมีการร้องเรียนจากลูกค้าและพนักงานศูนย์บริการอย่างมากเช่น
1.รับชำระเงินจากลูกค้าใช้เวลา 4-5 นาทีต่อใบแจ้งหนี้ 1 ฉบับ แต่ถ้าระบบมีปัญหาใช้เวลาออกใบกำกับภาษีให้ลูกค้าจะใช้เวลา 10-15 นาทีต่อใบแจ้งหนี้ 1 ฉบับ
2.ไม่มีเจ้าหน้าที่ประสานงานกับทางศูนย์กรณีระบบขัดข้อง ซึ่งหากระบบขัดข้องบ่อยๆ โอกาสทุจริตก็มีความเป็นไปได้สูง
3.ไม่สามารถอัปเดตข้อมูลตามสถานภาพที่แท้จริงได้ ซึ่งส่งผลเสียในด้านการให้บริการลูกค้าโดยตรง และเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง เช่น บริการเพย์แอตโพสต์ของไปรษณีย์ไทย ที่ให้บริการรับชำระเงิน พบว่าบริการของทีโอทีช้ากว่าเป็นเท่าตัว
สำหรับระบบบิลลิ่งใหม่นั้น นายชัยเชวงเป็นประธานคณะกรรมการประกวดราคา ซึ่งปรากฏว่าบริษัท เทเลเมติคส์ ได้โครงการไปด้วยมูลค่า 1,190 ล้านบาท โดยในช่วงนั้นสหภาพฯ ทศท ชุดเก่าที่นายมิตร เจริญวัลย์ เป็นประธาน ได้ทำหนังสือร้องเรียนถึงนายสิทธิชัย ส่งพิริยะกิจ กรรมการผู้จัดการใหญ่ถึงประเด็นที่บริษัท เทเลเมติคส์ ที่ชนะการประมูลบิลลิ่งมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับบริษัทที่ปรึกษาที่ ทศท.ได้จ้างให้ทำทีโออาร์ และ Benchmark ทำให้ในการพิจารณาเกิดความไม่ชอบมาพากลขึ้น ในทำนองเขี่ยผู้เข้าร่วมประมูลบางรายตกไปโดยที่ซอฟต์แวร์ระบบบิลลิ่งของบริษัทที่ถูกเขี่ยตกเป็นซอฟต์แวร์ที่บริษัท เอไอเอส ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือที่มีฐานลูกค้ากว่า 15 ล้านรายในปัจจุบันใช้งานอยู่ด้วยซ้ำ แต่นายชัยเชวงก็ออกมายืนยันถึงความโปร่งใสและความถูกต้องในการประมูลครั้งนั้น
Company Related Links :
TOT
AIS