xs
xsm
sm
md
lg

ข้อดีข้อเสีย และคำแนะนำในการใช้โปรแกรม MSN

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


หลังจากสื่อต่าง ๆ ลงข่าวประเด็นโปรแกรม Instant Messaging กันไปมากโข จนทำให้หลาย ๆ คนที่อยู่นอกแวดวง IM เริ่มไม่มั่นใจว่ามันดีหรือไม่ดีอย่างไร

วันนี้ในฐานะคนไอที เราเชื่อว่า การใช้โปรแกรม MSN หรือโปรแกรมใด ๆ ก็ตาม มันมีสิ่งที่ดีงามที่น่าพูดถึง และสิ่งที่ต้องระวังนอกเหนือจากการถูกหลอกแฝงอยู่ค่ะ


ประเด็นแรกที่อันตรายสำหรับคนใช้โปรแกรม Instant Messaging (IM) ก็คือ ไวรัสค่ะ เดี๋ยวนี้มีไวรัสบางตัวที่สามารถแพร่กระจายผ่านโปรแกรม IM ได้แล้ว ยกตัวอย่างเช่น Bropia ซึ่งทางหน้าไซเบอร์บิสได้รายงานไปแล้วเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา นอกจากนั้น เราพบว่า ตัวเลขการส่งผ่านโค้ดไวรัสโดยอาศัยโปรแกรม IM เพิ่มมากขึ้น ซึ่งตัวเลขดังกล่าวได้มาจากการสำรวจโดย WebSense บริษัทที่ดูแลด้านซีเคียวริตี้ และการทำฟิชชิ่งบนโลกอินเทอร์เน็ต WebSense รายงานว่า รูปแบบการโจมตีของโค้ดไวรัสที่โจมตีโปรแกรม IM นั้นจะส่งไฟล์โปรแกรมเล็ก ๆ มายังเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ผ่านทางโปรแกรม IM ซึ่งถ้าหากเราหลงคลิก Accept รับไฟล์ไปแล้ว มันจะดึงเราไปให้เข้าไปยังเว็บไซต์ที่มีโค้ดไวรัสแฝงอยู่ จากนั้นโค้ดไวรัสก็จะโหลดลงสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราในที่สุด

หนทางป้องกันก็คือ อย่าไปคลิก Accept รับไฟล์ที่เราไม่แน่ใจว่ามันเป็นไฟล์อะไร และให้ถามผู้ส่งก่อน ว่าเขาส่งอะไรมาให้เราหรือเปล่า ถ้าเขาบอกว่าเปล่า ก็ยกเลิกการรับไฟล์นั้นทิ้งไปเสียนะคะ

ปัญหาสำคัญอีกข้อหนึ่งคือ ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงไอทีมักจะไม่ทราบเลยว่าโลกนี้มีกลโกงที่ชื่อว่าฟิชชิ่ง (Phishing) อยู่ด้วย โดยมีอยู่ถึง 67 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต และมักเป็นกลุ่มพนักงานออฟฟิศ ในจำนวนนี้มีอยู่ถึง 4 เปอร์เซ็นต์ที่ยอมรับว่าเคยตกหลุมพราง "ฟิชชิ่ง" ไปแล้วด้วยล่ะค่ะ


ฟิชชิ่งก็คือรูปแบบกลโกงแบบใหม่ โดยผู้ที่สร้างกลลวงฟิชชิ่งเหล่านี้จะสร้างเว็บไซต์ที่มีหน้าตาคล้ายคลึง หรือเหมือนกับเว็บไซต์ธนาคาร สถาบันการเงินต่าง ๆ ออกมา 1 เว็บ เมื่อได้เว็บตัวก็อปปี้มาแล้ว เขาเหล่านั้นก็จะส่งอีเมลไปยังเหยื่อ (ซึ่งก็คือเรา ๆ ท่าน ๆ ล่ะค่ะ) พร้อมกับบอกให้เราเข้าไปอัปเดตข้อมูลในเว็บไซต์นั้น ๆ ให้หน่อย ซึ่งพอเราคลิกเข้าไปก็เจอกับหน้าตาของเว็บที่คุ้นเคย เราก็หลงเชื่อนึกว่าเป็นเว็บจากธนาคารจริง ๆ (ตอนนี้ล่ะค่ะ เหยื่อติดเบ็ดแล้ว) ก็ป้อนข้อมูลของเราลงไป (จบกัน) ซึ่งจากนั้นเขาก็แค่เอาข้อมูลทางการเงินของเราไปทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้มากมายแล้วล่ะค่ะ

ความน่ากลัวของการติดกับดักฟิชชิ่งก็คือ เราอาจสูญเสียเงินทอง ข้อมูลส่วนตัว และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งนอกจากขีวิตจะไม่สงบสุขแล้ว คนรอบข้างคงต้องมาทุกข์กับเราด้วยอย่างแน่นอน

ด้านดีก็มีมาก

พูดถึงด้านไม่ดีมาแล้ว จะไม่พูดถึงด้านดี ๆ ของโปรแกรม IM ก็กระไรอยู่นะคะ แน่นอนค่ะ ว่าโปรแกรม IM ถูกพัฒนาขึ้นจากแนวความคิดที่จะใช้มันเป็นอุปกรณ์เสริม ช่วยในการทำงานของคนยุคใหม่ มันจึงมาพร้อมฟีเจอร์มากมาย เช่น การรับส่งไฟล์ การสนทนา การประชุมทางไกล ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายให้มากทีเดียว จริงไหมคะ

ผู้เขียนเคยมีเพื่อนเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ ก็คุยกันผ่าน MSN นี่ล่ะค่ะ ไม่เห็นต้องใช้โทรศัพท์ทางไกลเลย สะดวกดี ประหยัดด้วยค่ะ ถ้าติดกล้องเว็บแคมเข้าไปหน่อย ก็สามารถเห็นหน้าฝ่ายตรงข้ามได้อีกด้วย

สำหรับองค์กรระดับใหญ่ ก็สามารถใช้โปรแกรม IM ในการติดต่อสื่อสารกันระหว่างสำนักงานใหญ่ กับสาขาย่อยที่กระจายอยู่ตามมุมโลกได้อย่างสะดวกสบายเช่นกันค่ะ ที่สำคัญ มันเร็วกว่าอีเมลด้วยค่ะ

นอกจากนั้น เรายังได้ไปค้นหาทิปดี ๆ สำหรับคนชอบใช้ IM มาฝากกันค่ะ ซึ่งได้มาจากเว็บของไมโครซอฟท์นั่นเอง

คำแนะนำดี ๆ 10 ข้อสำหรับการใช้งาน IM อย่างปลอดภัย

1. ห้ามให้ข้อมูลส่วนตัว เช่น หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขเครดิตการ์ด พาสเวิร์ด ล็อกอิน ฯลฯ แก่คนที่เราคุยด้วยเด็ดขาด

2. สนทนากับบุคคลที่อยู่ใน Contact List หรือ Buddy List เท่านั้น

3. ไม่ควรออกไปพบปะกับบุคคลแปลกหน้าที่คุณพบทาง IM เด็ดขาด

4. ไม่ควรดาวน์โหลดไฟล์หรือรับไฟล์จากคนแปลกหน้าที่คุณไม่รู้จัก

5. โปรแกรม IM จะมีการให้คุณตั้งชื่อที่คุณต้องการใช้และปรากฏอยู่ในหน้าจอ ไม่ควรตั้งชื่อที่บ่งบอกถึงข้อมูลส่วนบุคคลของตัวเองมากนัก เช่น หยินมี่_Big Brother (ขอยืมมาเป็นตัวอย่างนะคะ เห็นตอนนี้กำลังดังในบอร์ด BB) แต่ควรตั้งให้ห่างไกลจากข้อมูลส่วนตัวให้มาก ๆ ไปเลย

6. พยายามตรวจสอบและจำกัดการใช้งาน IM ที่บ้าน กรณีที่ลูก ๆ เล่นอินเทอร์เน็ตได้ด้วย นอกจากนั้น MSN Premium Service ก็มีบริการให้คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองสกรีนคอนแท็คลิสต์ของลูก ๆ ได้ด้วย ว่ามีใครไม่น่าไว้ใจบ้างหรือเปล่า และคุณยังสามารถเรียกดูรายงานการใช้อินเทอร์เน็ตของบุตรหลานในแต่ละสัปดาห์ได้ด้วย

7. สำหรับใครในคอนแท็คลิสต์ที่ดูไม่ชอบมาพากล ก็มีปุ่ม Delete ให้ลบค่ะ

8. ไม่แนะนำให้ส่งข้อความส่วนตัวผ่านโปรแกรม IM ในระหว่างทำงาน เนื่องจากเจ้านายของคุณมีสิทธิในการเข้าถึงข้อความเหล่านั้น ถ้าเขาเรียกดูขึ้นมา คุณอาจยิ้มไม่ออกก็ได้นะคะ

9. ในการใช้งานโปรแกรม IM ส่วนมาก ระบบจะทำการล็อกออนคุณทันทีที่เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ผู้ใช้สะดวกสบาย ไม่ต้องป้อนพาสเวิร์ดบ่อย ๆ แต่ถ้าคุณต้องใช้งานคอมพิวเตอร์สาธารณะ เวลาจะเลิกใช้ IM ควรล็อกเอาท์ออกมาด้วย และอย่าให้ระบบทำการล็อกออนคุณโดยอัตโนมัติเด็ดขาด มิเช่นนั้น ใครที่มานั่งเครื่องคุณเวลาคุณไม่อยู่ ก็จะสวมรอยเป็นคุณได้อย่างเนียน ๆ

10. ข้อสุดท้าย โปรแกรม MSN มีความสามารถในการระบุสถานะของคุณ ณ ปัจจุบัน เช่น Away, be right back, busy ฯลฯ ใช้มันให้เป็นประโยชน์นะคะ

อย่างไรก็ดี สำหรับประเทศไทย เรามักได้ยินข่าวเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือต่าง ๆ เหล่านี้ไปประกอบอาชญากรรม ถึงตรงนี้ เราก็อยากฝากข้อแนะนำเล็ก ๆ สำหรับคนที่ใช้ MSN เพื่อความปลอดภัยละกันนะคะ นั่นคือบางทีเราก็ไม่จำเป็นต้องคุยกับคนที่ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวอย่างสนิทสนมก็ได้ค่ะ อย่าไว้ใจใครง่าย ๆ ยิ่งถ้าเราเป็นผู้หญิงด้วยแล้ว บางทีก็ต้องรู้จักใช้เหตุและผล แล้วก็เรื่องของมารยาท มาวิเคราะห์ด้วยนะคะ ว่าคนแปลกหน้าที่คุยกับเราอยู่อีกฟากหนึ่งนั้นเป็นผู้ที่เราสมควรคุยด้วยหรือเปล่า

รักตัวเองและพ่อแม่ผู้ปกครองให้มาก ๆ ดีกว่าค่ะ

Company Related Links :
MSN
 

***********
เพิ่มข้อมูลฟิชชิ่งแล้วค่ะ

กำลังโหลดความคิดเห็น