นอร์เทลประกาศปรับโฉมแบรนดิ้งใหม่ทั่วโลก ภายใต้ใต้คอนเซ็ปต์ “This is the Way, This is Nortel” พร้อมเปลี่ยนชื่อจากนอร์เทล เน็ทเวิร์คส์ เหลือเพียงนอร์เทล เน้นใช้การตลาดนำเทคโนโลยีเพื่อผลักดันองค์กร วางตำแหน่งเป็นผู้นำด้านวอยซ์โอเวอร์ไอพี
นายมาร์ค สตีเว่นส์ รองประธาน บริษัท นอร์เทล จำกัด (NORTEL) ประจำภูมิภาคอาเซียนและประเทศปากีสถาน เปิดเผยว่า นอร์เทลได้มีการปฏิวัติองค์กรครั้งใหญ่ โดยการปรับแบรนดิ้งหรือรี-แบรนดิ้งใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “This is the Way, This is Nortel” และใช้การตลาดนำเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่ความเป็นหนึ่งในธุรกิจด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร พร้อมกันนี้ ยังมีการเปลี่ยนชื่อจากนอร์เทล เน็ทเวิร์คส์ เหลือเพียงนอร์เทล
“ที่ให้ชื่อเพียงนอร์เทลก็เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ เพราะปกติคนก็เรียกแค่นอร์เทลอยู่แล้ว”
ตามนโยบายและการปรับรี-แบรนดิ้งของนอร์เทล ได้ออกแคมเปญโฆษณาทั้งภาพยนตร์โฆษณา และสื่อสิ่งพิมพ์ เพื่อโปรโมตเรื่องราวของนอร์เทล ทั้งเรื่องจุดแข็งทางธุรกิจ ความมั่นใจ และความปลอดภัยของระบบการสื่อสารที่นอร์เทลนำเสนอให้กับลูกค้า ซึ่งการทำโฆษณาดังกล่าวจะเป็นการสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าให้เข้าใจ และรักษาระดับการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังมีการปรับเปลี่ยนวิธีการนิยามบริษัทจาก “the network” เป็น “what people do with the network” เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้บริหารระดับประธานกรรมการบริหาร ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและผู้อำนวยการฝ่ายสารสนเทศ รวมถึงธุรกิจขนาดใหญ่ และสื่อมวลชนทั่วโลกได้รู้ถึงจุดยืนของนอร์เทล
นายอารมณ์ พรประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารตัวแทนจำหน่าย บริษัท นอร์เทล (ประเทศไทย) กล่าวว่า ธุรกิจของนอร์เทลจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักคือ 1.กลุ่มอุปกรณ์ประเภทแคร์เรียที่ขายให้กับเซอร์วิส โพรวายเดอร์นำไปสร้างเครือข่ายเพื่อให้บริการกับผู้บริโภค 2.กลุ่มเอ็นเตอร์ไพรซ์ โซลูชัน ซึ่งเป็นสินค้าหลักตัวหนึ่งของนอร์เทล และมีทีมในในไทยดูแลเรื่องการตลาด โดยจะเน้นขายผ่านคู่ค้าเป็นหลัก ซึ่งขณะนี้มีผู้แทนจำหน่ายหลักหรือดิสทริบิวเตอร์ 2 รายคือ อินแกรมไมโคร (ประเทศไทย) กับเอซีเอ แปซิฟิค กรุ๊ป
“คู่ค้าสองรายนี้เขาจะเป็นแขนขาให้เรา เพราะถ้าให้เราทำเองทั้งหมดคงลงไปไม่ถึงกลุ่มเป้าหมาย จึงต้องอาศัยคู่ค้า”
นอกจากนี้ ยังมีคู่ค้าประเภทซิสเต็ม อินติเกรเตอร์ หรือเอสไออีก 7 ราย เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น และไม่ให้ถูกโขกด้านราคา ซึ่งประกอบด้วย ล็อกซเล่ย์, เทเลดาต้า, เทเลซิส, ทรีดี เน็ทเวิร์ก, กลุ่มบริษัทสามารถ, อีซีเอสในเครือซีดีจี และโกลบัลพาร์ตเนอร์ อย่างไอบีเอ็ม
นายอารมณ์กล่าวว่า กลยุทธ์ของนอร์เทลคือต้องการผลักดันโซลูชันที่เป็นคอนเวอร์เจนซ์ออกสู่ตลาด และผลิตภัณฑ์ที่พยายามผลักดันมากที่สุดคือผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเรียลไทม์ วิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ เนื่องจากองค์ที่มีสาขาจำนวนมาก หรือหน่วยงานราชการสามารถจัดประชุมพร้อมกันได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเดินทางไปประชุม ซึ่งสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้
ส่วนตำแหน่งหรือโพสิชันทางการตลาดของนอร์เทลคือ เป็นผู้นำในตลาดวอยซ์ โอเวอร์ ไอพี (VoIP) ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดโลกอยู่แล้ว แลต้องการให้เป็นผู้นำในตลาดประเทศไทยด้วย ทั้งนี้ การที่จะสร้างให้นอร์เทลเป็นที่หนึ่งในตลาด VoIP คือ การโฟกัสที่ 2 กลุ่มหลักคือ 1.กลุ่มที่เป็นอินสตอเบสที่สามารถอัปเกรตเครือข่ายได้ 2.กลุ่มองค์กรขนาดกลางและเล็กหรือเอสเอ็มอี
“การเข้าไปทำตลาด VoIP ต้องเจาะเข้าไปที่ผู้ดูแลโครงข่าย เนื่องจากคนเหล่านี้จะเป็นไอที แมน หากเข้าไปคุยเรื่องเทคโนโลยีอื่นจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่พูดเรื่องไอทีเข้าใจง่าย”
Company Related Links :
NORTEL
นายมาร์ค สตีเว่นส์ รองประธาน บริษัท นอร์เทล จำกัด (NORTEL) ประจำภูมิภาคอาเซียนและประเทศปากีสถาน เปิดเผยว่า นอร์เทลได้มีการปฏิวัติองค์กรครั้งใหญ่ โดยการปรับแบรนดิ้งหรือรี-แบรนดิ้งใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “This is the Way, This is Nortel” และใช้การตลาดนำเทคโนโลยีเพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่ความเป็นหนึ่งในธุรกิจด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร พร้อมกันนี้ ยังมีการเปลี่ยนชื่อจากนอร์เทล เน็ทเวิร์คส์ เหลือเพียงนอร์เทล
“ที่ให้ชื่อเพียงนอร์เทลก็เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ เพราะปกติคนก็เรียกแค่นอร์เทลอยู่แล้ว”
ตามนโยบายและการปรับรี-แบรนดิ้งของนอร์เทล ได้ออกแคมเปญโฆษณาทั้งภาพยนตร์โฆษณา และสื่อสิ่งพิมพ์ เพื่อโปรโมตเรื่องราวของนอร์เทล ทั้งเรื่องจุดแข็งทางธุรกิจ ความมั่นใจ และความปลอดภัยของระบบการสื่อสารที่นอร์เทลนำเสนอให้กับลูกค้า ซึ่งการทำโฆษณาดังกล่าวจะเป็นการสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าให้เข้าใจ และรักษาระดับการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังมีการปรับเปลี่ยนวิธีการนิยามบริษัทจาก “the network” เป็น “what people do with the network” เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้บริหารระดับประธานกรรมการบริหาร ผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและผู้อำนวยการฝ่ายสารสนเทศ รวมถึงธุรกิจขนาดใหญ่ และสื่อมวลชนทั่วโลกได้รู้ถึงจุดยืนของนอร์เทล
นายอารมณ์ พรประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารตัวแทนจำหน่าย บริษัท นอร์เทล (ประเทศไทย) กล่าวว่า ธุรกิจของนอร์เทลจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักคือ 1.กลุ่มอุปกรณ์ประเภทแคร์เรียที่ขายให้กับเซอร์วิส โพรวายเดอร์นำไปสร้างเครือข่ายเพื่อให้บริการกับผู้บริโภค 2.กลุ่มเอ็นเตอร์ไพรซ์ โซลูชัน ซึ่งเป็นสินค้าหลักตัวหนึ่งของนอร์เทล และมีทีมในในไทยดูแลเรื่องการตลาด โดยจะเน้นขายผ่านคู่ค้าเป็นหลัก ซึ่งขณะนี้มีผู้แทนจำหน่ายหลักหรือดิสทริบิวเตอร์ 2 รายคือ อินแกรมไมโคร (ประเทศไทย) กับเอซีเอ แปซิฟิค กรุ๊ป
“คู่ค้าสองรายนี้เขาจะเป็นแขนขาให้เรา เพราะถ้าให้เราทำเองทั้งหมดคงลงไปไม่ถึงกลุ่มเป้าหมาย จึงต้องอาศัยคู่ค้า”
นอกจากนี้ ยังมีคู่ค้าประเภทซิสเต็ม อินติเกรเตอร์ หรือเอสไออีก 7 ราย เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้น และไม่ให้ถูกโขกด้านราคา ซึ่งประกอบด้วย ล็อกซเล่ย์, เทเลดาต้า, เทเลซิส, ทรีดี เน็ทเวิร์ก, กลุ่มบริษัทสามารถ, อีซีเอสในเครือซีดีจี และโกลบัลพาร์ตเนอร์ อย่างไอบีเอ็ม
นายอารมณ์กล่าวว่า กลยุทธ์ของนอร์เทลคือต้องการผลักดันโซลูชันที่เป็นคอนเวอร์เจนซ์ออกสู่ตลาด และผลิตภัณฑ์ที่พยายามผลักดันมากที่สุดคือผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเรียลไทม์ วิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ เนื่องจากองค์ที่มีสาขาจำนวนมาก หรือหน่วยงานราชการสามารถจัดประชุมพร้อมกันได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายเดินทางไปประชุม ซึ่งสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้
ส่วนตำแหน่งหรือโพสิชันทางการตลาดของนอร์เทลคือ เป็นผู้นำในตลาดวอยซ์ โอเวอร์ ไอพี (VoIP) ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดโลกอยู่แล้ว แลต้องการให้เป็นผู้นำในตลาดประเทศไทยด้วย ทั้งนี้ การที่จะสร้างให้นอร์เทลเป็นที่หนึ่งในตลาด VoIP คือ การโฟกัสที่ 2 กลุ่มหลักคือ 1.กลุ่มที่เป็นอินสตอเบสที่สามารถอัปเกรตเครือข่ายได้ 2.กลุ่มองค์กรขนาดกลางและเล็กหรือเอสเอ็มอี
“การเข้าไปทำตลาด VoIP ต้องเจาะเข้าไปที่ผู้ดูแลโครงข่าย เนื่องจากคนเหล่านี้จะเป็นไอที แมน หากเข้าไปคุยเรื่องเทคโนโลยีอื่นจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่พูดเรื่องไอทีเข้าใจง่าย”
Company Related Links :
NORTEL


