ซันฯเปิดตัวอย่างเป็นทางการ Solaris 10 ระบบปฏิบัติการสำหรับระบบเซิร์ฟเวอร์และเวิร์คสเตชั่น ที่พวกเขามั่นใจว่าจะทำให้ซันฯกลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิมได้อีกครั้ง
บริษัทซันไมโครซิสเต็มส์ (Sun Microsystems) เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2004 ว่า ซันฯเปิดตัว Solaris 10 เวอร์ชั่นหนึ่งของระบบปฏิบัติการยูนิกซ์สำหรับการใช้งานบนระบบเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องทำงานภายใต้ภาระการประมวลผลหนักๆ เช่น ในศูนย์ข้อมูล, ธนาคาร, บริษัทสื่อสาร และหน่วยงานรัฐบาล และจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการประมาณปลายเดือนมกราคม 2005 เป็นต้นไป
ซันฯเผยว่า บริษัทฯใช้เงินในการวิจัยและพัฒนา Solaris 10 ไปกว่า 500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 20,200 ล้านบาท) ซึ่งผลที่ได้รับกลับมาก็คือฟีเจอร์ใหม่มากกว่า 600 ตัว ตามการรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters)
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ซันฯคาดหวังในตัว Solaris 10 ค่อนข้างมาก พวกเขาเชื่อว่า Solaris 10 จะช่วยให้ซันฯแตกต่างและเหนือกว่าคู่แข่ง อย่างไอบีเอ็ม (IBM), เอชพี (Hewlett-Packard, HP) และเดลล์ (Dell) ได้ หลังประสบปัญหาจากความผิดพลาดในยุคด็อทคอมเฟื่องฟูเมื่อปลายทศวรรษที่ 1990
"Solaris 10 คือสิ่งที่ซันฯเชื่อว่าเป็นจุดแข็งเหนือคู่แข่งอย่างเดลล์และอื่นๆ" โทนี่ เอียมส์ (Tony Iams) นักวิเคราะห์จากดีเอชบราวน์แอสโซซิเอเทส (D.H. Brown Associates) กล่าวและว่า "เวอร์ชั่นนี้มีฟังก์ชั่นใหม่ๆที่สนใจอยู่หลายตัว ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ใช้ ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะผู้ใช้เซิร์ฟเวอร์ที่รันโปรเซสเซอร์ Opteron ของเอเอ็มดี (Advanced Micro Devices; AMD)"
รอยเตอร์รายงานว่า สายผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ของซันฯเพิ่มเปิดรับโปรเซสเซอร์ Opteron เมื่อ 2 ไตรมาสที่แล้ว จุดเด่นของ Opteron คือความสามารถในการรันแอพพลิเคชั่นได้ทั้งแบบ 32 และ 64 บิต เทียบกับโปรเซสเซอร์ Pentium และ Xeon ของอินเทล (Intel) ที่สนับสนุนการประมวลผลแบบ 32 บิตแต่เพียงอย่างเดียว
สำหรับโปรเซสเซอร์ ซันฯระบุว่า Solaris 10 จะสนับสนุน Sparc ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของซันฯเอง รวมไปถึงโปรเซสเซอร์บนสถาปัตยกรรม x86 ของอินเทล, เอเอ็มดี และรายอื่นๆ
"เราเพิ่งเขี่ยลูกเปิดเกม" จอห์น โลเอียโคโน (John Loiacono) หัวหน้ากลุ่มซอฟต์แวร์ บริษัทซันฯ กล่าวถึงความต้องการระบบคอมพิวเตอร์ราคาประหยัดหรือตลาดลีนุกซ์เซิร์ฟเวอร์ "เราช้ากว่าคนอื่น 4 ปี"
Solaris 10 ยังเป็นสัญลักษณ์สำหรับการเปลี่ยนแปลงของซันฯที่กำลังเคลื่อนไปในทางที่เป็นแพ็คเกจมากขึ้น คือไม่มองผลิตภัณฑ์ของตัวเองแค่กลุ่มฮาร์ดแวร์อย่างเดียว แต่มองครอบคลุมถึงกลุ่มซอฟต์แวร์และบริการที่ต้องทำตลาดควบคู่กันไปด้วย
"ซันฯกำลังให้ความสำคัญกับซอฟต์แวร์มากขึ้น" เอียมส์กล่าว
นักวิเคราะห์กล่าวว่า รายงานผลการประกอบการที่ออกมาในเดือนที่แล้วแสดงให้เห็นว่าซันฯกำลังมีปัญหาด้านการเงิน ซึ่งซันฯเลือกแก้ปัญหาโดยการทำตลาดแบบแพ็คเกจ คือรวมฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์, สตอเรจ และเซอร์วิส เข้าไว้ด้วยกัน โดยลูกค้าจ่ายเงินตามการใช้งานจริง หรือ pay-as-you-go นอกจากนั้นยังขยายสายผลิตภัณฑ์โดยเปิดกว้างมากขึ้นสำหรับโปรเซสเซอร์ของอินเทลและเอเอ็มดี
สำหรับฟีเจอร์ เอียมส์ยกให้ "Container" และ "DTrace" เป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุด
Container เป็นเทคโนโลยีที่ให้ลูกค้าสามารถแบ่งพาร์ติชั่นของระบบได้กว่า 8,000 พาร์ติชั่น ซึ่งแต่ละพาร์ติชั่นแยกทำงานอิสระจากกัน พร้อมไฟร์วอลล์สมบูรณ์แบบ ส่วน DTrace เป็นการติดตามการทำงานของระบบแบบไดนามิก เพื่อค้นหาข้อบกพร่องต่างๆ เช่น คอขวดและบั๊ก เพื่อวิเคราะห์และปรับแต่งระบบให้เหมาะสมกับสภาพการทำงานนั้นๆโดยอัตโนมัติและรวดเร็ว
"จากการทดสอบพบว่า Solaris 10 และ DTrace ช่วยให้ระบบมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นกว่า 500% ทีเดียว" โลเอียโคโนกล่าว
นอกจากแอพพลิเคชั่นของซันฯเองแล้ว Solaris 10 ยังสนับสนุนการทำงานร่วมกับลีนุกซ์แอพพลิเคชั่นด้วย ตามการเปิดเผยของซันฯ
หุ้นซันฯปิดที่ 5.09 ดอลลาร์ เพิ่ม 0.23 ดอลลาร์หรือ +4.73% ที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก เมื่อวันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2004
Company Related Links :
Sun Microsystems
Intel
AMD
IBM
HP
Dell
บริษัทซันไมโครซิสเต็มส์ (Sun Microsystems) เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2004 ว่า ซันฯเปิดตัว Solaris 10 เวอร์ชั่นหนึ่งของระบบปฏิบัติการยูนิกซ์สำหรับการใช้งานบนระบบเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องทำงานภายใต้ภาระการประมวลผลหนักๆ เช่น ในศูนย์ข้อมูล, ธนาคาร, บริษัทสื่อสาร และหน่วยงานรัฐบาล และจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการประมาณปลายเดือนมกราคม 2005 เป็นต้นไป
ซันฯเผยว่า บริษัทฯใช้เงินในการวิจัยและพัฒนา Solaris 10 ไปกว่า 500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 20,200 ล้านบาท) ซึ่งผลที่ได้รับกลับมาก็คือฟีเจอร์ใหม่มากกว่า 600 ตัว ตามการรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters)
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่า ซันฯคาดหวังในตัว Solaris 10 ค่อนข้างมาก พวกเขาเชื่อว่า Solaris 10 จะช่วยให้ซันฯแตกต่างและเหนือกว่าคู่แข่ง อย่างไอบีเอ็ม (IBM), เอชพี (Hewlett-Packard, HP) และเดลล์ (Dell) ได้ หลังประสบปัญหาจากความผิดพลาดในยุคด็อทคอมเฟื่องฟูเมื่อปลายทศวรรษที่ 1990
"Solaris 10 คือสิ่งที่ซันฯเชื่อว่าเป็นจุดแข็งเหนือคู่แข่งอย่างเดลล์และอื่นๆ" โทนี่ เอียมส์ (Tony Iams) นักวิเคราะห์จากดีเอชบราวน์แอสโซซิเอเทส (D.H. Brown Associates) กล่าวและว่า "เวอร์ชั่นนี้มีฟังก์ชั่นใหม่ๆที่สนใจอยู่หลายตัว ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อผู้ใช้ ทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะผู้ใช้เซิร์ฟเวอร์ที่รันโปรเซสเซอร์ Opteron ของเอเอ็มดี (Advanced Micro Devices; AMD)"
รอยเตอร์รายงานว่า สายผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ของซันฯเพิ่มเปิดรับโปรเซสเซอร์ Opteron เมื่อ 2 ไตรมาสที่แล้ว จุดเด่นของ Opteron คือความสามารถในการรันแอพพลิเคชั่นได้ทั้งแบบ 32 และ 64 บิต เทียบกับโปรเซสเซอร์ Pentium และ Xeon ของอินเทล (Intel) ที่สนับสนุนการประมวลผลแบบ 32 บิตแต่เพียงอย่างเดียว
สำหรับโปรเซสเซอร์ ซันฯระบุว่า Solaris 10 จะสนับสนุน Sparc ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของซันฯเอง รวมไปถึงโปรเซสเซอร์บนสถาปัตยกรรม x86 ของอินเทล, เอเอ็มดี และรายอื่นๆ
"เราเพิ่งเขี่ยลูกเปิดเกม" จอห์น โลเอียโคโน (John Loiacono) หัวหน้ากลุ่มซอฟต์แวร์ บริษัทซันฯ กล่าวถึงความต้องการระบบคอมพิวเตอร์ราคาประหยัดหรือตลาดลีนุกซ์เซิร์ฟเวอร์ "เราช้ากว่าคนอื่น 4 ปี"
Solaris 10 ยังเป็นสัญลักษณ์สำหรับการเปลี่ยนแปลงของซันฯที่กำลังเคลื่อนไปในทางที่เป็นแพ็คเกจมากขึ้น คือไม่มองผลิตภัณฑ์ของตัวเองแค่กลุ่มฮาร์ดแวร์อย่างเดียว แต่มองครอบคลุมถึงกลุ่มซอฟต์แวร์และบริการที่ต้องทำตลาดควบคู่กันไปด้วย
"ซันฯกำลังให้ความสำคัญกับซอฟต์แวร์มากขึ้น" เอียมส์กล่าว
นักวิเคราะห์กล่าวว่า รายงานผลการประกอบการที่ออกมาในเดือนที่แล้วแสดงให้เห็นว่าซันฯกำลังมีปัญหาด้านการเงิน ซึ่งซันฯเลือกแก้ปัญหาโดยการทำตลาดแบบแพ็คเกจ คือรวมฮาร์ดแวร์, ซอฟต์แวร์, สตอเรจ และเซอร์วิส เข้าไว้ด้วยกัน โดยลูกค้าจ่ายเงินตามการใช้งานจริง หรือ pay-as-you-go นอกจากนั้นยังขยายสายผลิตภัณฑ์โดยเปิดกว้างมากขึ้นสำหรับโปรเซสเซอร์ของอินเทลและเอเอ็มดี
สำหรับฟีเจอร์ เอียมส์ยกให้ "Container" และ "DTrace" เป็นสิ่งที่น่าสนใจที่สุด
Container เป็นเทคโนโลยีที่ให้ลูกค้าสามารถแบ่งพาร์ติชั่นของระบบได้กว่า 8,000 พาร์ติชั่น ซึ่งแต่ละพาร์ติชั่นแยกทำงานอิสระจากกัน พร้อมไฟร์วอลล์สมบูรณ์แบบ ส่วน DTrace เป็นการติดตามการทำงานของระบบแบบไดนามิก เพื่อค้นหาข้อบกพร่องต่างๆ เช่น คอขวดและบั๊ก เพื่อวิเคราะห์และปรับแต่งระบบให้เหมาะสมกับสภาพการทำงานนั้นๆโดยอัตโนมัติและรวดเร็ว
"จากการทดสอบพบว่า Solaris 10 และ DTrace ช่วยให้ระบบมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นกว่า 500% ทีเดียว" โลเอียโคโนกล่าว
นอกจากแอพพลิเคชั่นของซันฯเองแล้ว Solaris 10 ยังสนับสนุนการทำงานร่วมกับลีนุกซ์แอพพลิเคชั่นด้วย ตามการเปิดเผยของซันฯ
หุ้นซันฯปิดที่ 5.09 ดอลลาร์ เพิ่ม 0.23 ดอลลาร์หรือ +4.73% ที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก เมื่อวันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2004
Company Related Links :
Sun Microsystems
Intel
AMD
IBM
HP
Dell