"เอกวิทย์ " กรรมการ ป.ป.ช. ส่งทนายแจ้งความเอาผิด "พ.ต.อ.ภาคภูมิ" อดีตลูกน้อง"บิ๊กโจ๊ก" กล่าวหาพัวพันรับสินบนทองคำแท่ง 246 บาทแลกล้มคดี ยันไม่เคยมีทองแท่ง-ไม่เคยไปสมาคมชาวปักษ์ใต้ ซ้ำไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว
วันนี้ (29 ธ.ค.) ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้มอบอำนาจให้ทีมทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ พ.ต.อ.เอกภาคภูมิ พิศมัย อดีตนายตำรวจคนสนิทของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือบิ๊กโจ๊ก อดีต รอง ผบ.ตร.ในข้อหา "แจ้งความเท็จและกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา" กรณีกล่าวหานายเอกวิทย์ พัวพันคดีพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ติดสินบน คณะกรรมการ ป.ป.ช.เป็นทองคำแท่ง 246 บาทแลกเคลียร์คดีที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ป.ป.ช.
ทนายความนายเอกวิทย์เปิดเผยว่า การเข้าแจ้งความในครั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ได้ไปแจ้งความกล่าวหาว่า นายเอกวิทย์ มีการเรียกรับสินบนเป็นทองคำแท่ง น้ำหนักรวม 246 บาท ซึ่งขอยืนยันว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่เป็นความจริง นายเอกวิทย์ ในฐานะกรรมการ ป.ป.ช. มีการแสดงบัญชีทรัพย์สินอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน อีกทั้งกระบวนการคัดเลือกเข้ามาดำรงตำแหน่งใน ป.ป.ช. นั้นมีความเข้มงวดและผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียด
ทนายความนายเอกวิทย์กล่าวต่อว่า การที่ พ.ต.อ.ภาคภูมิ ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีอื่นอยู่แล้ว ออกมากกลับคำให้การเช่นนี้ มองว่าเป็นปัญหาความขัดแย้งภายในของฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง ซึ่งตนไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า หากมีการกล่าวหาว่ารับสินบน ตัวผู้แจ้งความเองก็ต้องมีความผิดฐานให้สินบนเจ้าพนักงานด้วย แต่หากเป็นเรื่องไม่จริง ก็จะเข้าข่ายความผิดฐานแจ้งความเท็จทันที
"ท่านเอกวิทย์ไม่เคยมีทองคำแท่งตามที่ถูกกล่าวหา ไม่เคยเดินทางไปที่สมาคมชาวปักษ์ใต้ และที่สำคัญคือไม่เคยรู้จักกับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ เป็นการส่วนตัว เคยพบกันเพียงครั้งเดียวในขั้นตอนการไต่สวนตามหน้าที่เท่านั้น" ทนายความกล่าว
ส่วนกรณีที่ทางฝั่งคู่กรณีอ้างว่ามีหลักฐานเด็ดนั้น ทางทีมทนายความยืนยันว่าไม่มีความกังวลใจและพร้อมที่จะต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรมอย่างถึงที่สุด เนื่องจากเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์และหลักฐานที่มีอยู่


