บรรยากาศล่าสุดวันนี้ (27 ธ.ค.68) เมื่อเวลา 11.00 น. ภายหลังผู้สมัคร สส. จากพรรคการเมืองต่าง ๆ ได้เสร็จสิ้นขั้นตอนการจับฉลากหมายเลขเบอร์เลือกตั้ง และการยื่นใบสมัครอย่างเป็นทางการ ภายในห้องประชุมชั้น 4 อาคารศูนย์โอท็อป องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี ก่อนจะทยอยเดินลงมาบริเวณด้านล่างของอาคาร
ทันทีที่ผู้สมัคร สส. แต่ละพรรคเดินลงมาถึงด้านล่าง ได้มีประชาชน ผู้สนับสนุน และทีมงานที่มารอให้กำลังใจอยู่ก่อนแล้ว ส่งเสียงตะโกนเชียร์ดังสนั่นไปทั่วบริเวณอาคาร บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนานและครึกครื้น โดยแต่ละพรรคต่างตะโกนสโลแกนของพรรค รวมถึงชื่อพรรค แข่งกันอย่างเป็นกันเอง สร้างสีสันให้กับวันรับสมัครเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ ยังมีการถ่ายภาพร่วมกัน แจกดอกไม้ มอบดอกกุหลาบ และพวงมาลัยให้กับว่าที่ผู้สมัคร สส. ของแต่ละพรรค ท่ามกลางรอยยิ้ม เสียงปรบมือ และการให้กำลังใจจากผู้สนับสนุนอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความคึกคักของสนามเลือกตั้งในจังหวัดนนทบุรีตั้งแต่วันแรก
บรรยากาศโดยรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ภายใต้การดูแลความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ถือเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการแข่งขันทางการเมืองที่เข้มข้นในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ก่อนจะเข้าสู่ช่วงการหาเสียงเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในลำดับต่อไป
ด้าน นายกัณวีร์ สืบแสง หัวหน้าพรรคพลวัต กล่าวว่า บรรยากาศการรับสมัครในจังหวัดนนทบุรีวันนี้เป็นไปอย่างคึกคัก โดยพรรคพลวัตได้ส่งผู้สมัครในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีรวม 6 เขต ได้แก่ เขต 1, 2, 3, 4, 6 และ 7 ซึ่งทุกคนได้รับกำลังใจจากประชาชนเป็นอย่างดี พร้อมยืนยันว่าการวางแผนนโยบายของพรรคเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งระดับประเทศและในจังหวัดนนทบุรี
นายกัณวีร์ ระบุว่า พรรคพลวัตมีนโยบายหลัก 3 ด้าน โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเมือง ได้แก่ การผลักดันการเมืองอัจฉริยะ เพื่อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ การสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อเพิ่มรายได้ให้ประชาชน และการรายงานปัญหาของประชาชนเข้าสู่ระบบการแก้ไขอย่างจริงจัง พร้อมย้ำว่าพรรคมุ่งเดินหน้าเปลี่ยนแปลงประเทศไปพร้อมกับประชาชน จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาอาชญากรรม โดยเฉพาะการปราบปรามขบวนการคอลเซนเตอร์อย่างเป็นรูปธรรม
ขณะที่ นายวิเชียร เจริญนนทสิทธิ์ ผู้สมัคร สส. พรรคกล้าธรรม เขต7 เปิดเผยว่า วันนี้ตนเองลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 7 และได้หมายเลขเบอร์ 6 โดยระบุว่าตนเองอาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลบางบัวทองมาเป็นเวลานาน และทำงานร่วมกับชุมชนอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
นายกวิเชียร กล่าวว่า การตัดสินใจลงสมัครครั้งนี้ เนื่องจากต้องการเป็นตัวแทนของประชาชนในพื้นที่ โดยยึดแนวทาง “ทำมากกว่าพูด” ตามนโยบายของพรรค พร้อมให้ความสำคัญกับปัญหาของเกษตรกร ซึ่งขณะนี้ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย รวมถึงคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน พร้อมย้ำว่า นโยบายที่นำเสนอเป็นนโยบายที่มาจากความต้องการจริงของชุมชน และพร้อมทำงานอย่างเต็มที่หากได้รับความไว้วางใจ
ทั้งนี้ นายวิเชียร ยังกล่าวขอบคุณพี่น้องประชาชนในเขต 7 ที่เดินทางมาให้กำลังใจและส่งเสียงเชียร์อย่างอบอุ่น พร้อมยืนยันความพร้อมในการทำงา


