ศาลอาญากำหนดวันนัดสืบพยาน สำนวนคดีตึกสตง.ถล่มใหม่อีกรอบ อาจเลื่อนวันนัดสืบพยานให้เร็วขึ้น โจทก์ร่วมหวั่นไม่รอบคอบ
วันนีั (22 ธ.ค.) ศาลอาญากำหนดนัดสืบพยาน คดีหมายเลขดำ อ.2201/2568 (ตึกสตง.ถล่มช่วงเหตุแผ่นดินไหว) ที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 ฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต กับพวก 23 ราย จำเลยในความผิดฐานเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม ทำการก่อสร้าง อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญาจากกรณีที่ ตึก สตง.ถล่ม
สำหรับจำเลยในคดีดังกล่าว ประกอบด้วย บริษัท ฟอรัม อาร์คิเทค จำกัด จำเลยที่ 1, นายสุชาติ ชุติปภากร จำเลยที่ 2, นายพิมล เจริญยิ่ง จำเลยที่ 3, บริษัท ไมนฮาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด โดยนายธีระ วรรธนะทรัพย์ และนายเซ็น เยา ฮุย (CHEN YAO HUI) จำเลยที่ 4, นายธีระ วรรธนะทรัพย์ จำเลยที่ 5, นายสุพล อัครอารีสุข จำเลยที่ 6, นายชัยณรงค์ เสียงไพรพันธ์ จำเลยที่ 7, นายอภิชาติ รักษา จำเลยที่ 8, บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด โดยนายปฏิวัติ ศิริไทย จำเลยที่ 9, นายปฏิวัติ ศิริไทย จำเลยที่ 10
โดยวันนี้นายเจษฎา ก้อนแก้ว ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ร่วมที่ 1 นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานอนุกรรมการคลินิกช่าง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยฯ วิศวกรที่ถูกแอบอ้างชื่อและปลอมลายเซ็นเป็นผู้ควบคุมงาน กิจการร่วมค้า PKW ให้สัมภาษณ์ว่า เดิมทีศาลเคยนัดตรวจพยานหลักฐานและระบุวันสืบพยานเป็นช่วงเดือนกรกฎาคม 2569 ไปแล้ว แต่ที่ศาลเรียกเข้ามานัดกำหนดนัดสืบพยาน คดีสตง.ใหม่ ไม่แน่ใจว่าทำไมถึงนัดกำหนดนัดสืบพยาน คดีสตง.ใหม่ แต่ก็มีเงื่อนไขที่เป็นไปได้ คือ ทางเลือกที่ 1 เป็นตามวันนัดสืบพยานเดิม ที่หลายคนคิดว่าอาจจะนัดไกลไปและทำให้คดีล่าช้า อีกเงื่อนไขหนึ่งศาลอาจจะเร่งให้เร็วขึ้นเนื่องจากมีการวิจารณ์ว่าค่อนข้างล่าช้า ศาลเลยจะให้เกิดความรวดเร็ว แต่ก็อาจจะกระทบหลายอย่าง เนื่องจากเอกสารในคดีมีมากถึง 200,000 แผ่น ตนในฐานะผู้รับมอบอำนาจ จนถึงวันนี้ยังไม่เห็นเอกสารประกอบเลย เพราะมีจำนวนมาก ปัจจุบันยื่นคำร้องขอตรวจเอกสารล่วงหน้า 10 วัน ก็ยังไม่ได้รับการตรวจเลย เพราะเหตุว่าเอกสารอยู่ระหว่างการคัดถ่าย
นายเจษฎา กล่าวอีกว่า มีประเด็นว่าถ้าคดีเร็วเกินไป ในส่วนของโจทก์ร่วมเช่นผู้เสียหายที่เสียชีวิตในตึก อาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากทนายไม่ได้ดูเอกสารอย่างครอบคลุม การเลื่อนคดีให้เร็วจะเป็นผลดีเรื่องความรวดเร็ว แต่จะมีผลเสียแก่โจทก์ซึ่งอาจจะมีความผิดพลาดในการสืบคดี หรือควรจะออกเป็นทางเลือกที่ 3
นายเจษฎา กล่าวอีกว่า ถ้าวันนี้มีการกำหนดวันนัดสืบพยานใหม่ ควรจะต้องขอศาลมีกำหนดพิเศษโดยให้เอกสารทั้งหมดอยู่ในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าถึงเอกสารได้อย่างรวดเร็ว เพราะการถ่ายเอกสารเป็นแสนแผ่นให้แก่ทีม ค่าใช้จ่ายก็เป็นล้านแล้ว และไม่ง่ายแม้ในตอนนี้ทีมทนายโจทก์จะรวมช่วยเหลือเรื่องเอกสาร แต่ก็ยังยากลำบากอยู่ หากทำได้จะเป็นประโยชน์กับทางจำเลยที่สามารถเข้าถึงพยานหลักฐานต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
เมื่อถามว่าเคยพูดคุยกับฝั่งจำเลยหรือไม่ นายเจษฎา กล่าวว่า ตนไม่ขอก้าวล่วงเพราะอยากให้พูดโดยตรงมากกว่า จะเห็นจากคำให้การของจำเลยยืนยันว่า ทำถูกต้องทุกอย่าง ไม่เคยบอกว่าตัวเองมีความผิดพลาด เรื่องการชดใช้จากสาเหตุกระทำผิดยังไม่มีในส่วนนี้ ซึ่งศาลก็ให้ปล่อยชั่วคราวไปบ้างแล้ว เหลือเพียงชุดเดียวที่ยังไม่ให้ปล่อยชั่วคราวคือทีมที่เกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงเอกสาร ตอนนี้เชื่อว่าถ้ามีหลักทรัพย์ตามแนวทางของศาลน่าจะได้ปล่อยชั่วคราว เพราะตัวหลักของเรื่องนี้ได้ปล่อยชั่วคราวไปแล้ว
เมื่อถามว่าส่วนที่ศาลอาจจะมองเรื่องบางรายกระทำความผิดหลายกรรม เลยไม่ให้ปล่อยชั่วคราว นายเจษฎา กล่าวว่า ตนมองว่า ประเด็นสำคัญแห่งคดีคือตึกถล่ม ไม่ใช่การปลอมแปลงเอกสาร ประเด็นอยู่ตรงที่อาคารสร้างผิดมาตรฐาน ส่วนการปลอมแปลงเอกสาร โทษแต่ละครั้งไม่หนัก ถ้าคุยกันจบสารภาพรอลงอาญาง่ายกว่า
เมื่อถามว่าวันนี้จะได้ข้อสรุปวันนัดสืบพยานใหม่หรือไม่ นายเจษฎา กล่าวว่า ตอบยาก เพราะก่อนหน้านี้ใช้เวลา 2-3 วันยังหาวันที่ลงตัวยาก คดีที่ล่าช้าไม่ใช่ความผิดของใคร แต่มีทนายความหลายทีม ผู้เสียหายกับจำเลยมีจำนวนมาก การล่าช้าจึงเป็นเรื่องปกติ แต่ในความคิดตนกำหนดนัดเดิมเป็นวันที่ทุกคนสะดวกร่วมกัน เพราะการกำหนดวันนัดมีการดูวันว่างของแต่ละคน การกำหนดวันนัดใหม่ไม่แน่ใจว่าจะกระทบกับวันว่างของทนายความแต่ละทีมหรือไม่ เชื่อว่าวันนี้คุยกันยังไม่จบ หรือถ้าจบก็จะมีการเปลี่ยนแปลงตารางนัดของคดีอื่นอย่างแน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าครั้งที่แล้วศาลอาญาได้กำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 23 ก.ค.2569 เเต่ก็มานัดกำหนดนัดสืบพยาน คดีสตง.ใหม่ในวันนี้


