ตำรวจ สน.มักกะสันจับกุมชายวัย 52 ปี ตระเวนลักทรัพย์หลายแห่งในพื้นที่กรุงเทพฯ สารภาพต้องการใช้เงิน
วันนี้ (19 ธ.ค.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผบช.น.ดูแลงานสืบสวน พล.ต.ต.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผบก.น.1 พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รองผบก.น.1 พ.ต.อ.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ ผกก.สน.มักกะสัน พ.ต.ท.ธนาธิป จิตราคนี รอง ผกก.สส.สน.มักกะสัน พ.ต.ท.จาตุรงค์ ติดนนท์ สว.สส.สน.มักกะสัน และชุดสืบสวน สน.มักกะสันร่วมกันจับกุม นายธนภัทร อายุ 52 ปี
พร้อมของกลาง ชุดใส่ก่อเหตุ พระของขวัญวัดพรหมธรรมนิมิตร 9 กล่อง พระ 27 องค์ พระเครื่อง 13 องค์ แว่นสายตา 1 อัน โทรศัพท์สีดำ 1 เครื่อง ไขควง 1 อัน จับกุมได้ที่หอพักแห่งหนึ่ง แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงเทพ ต่อเนื่องสถานที่รกร้างบริเวณปากซอยรามคำแหง 46 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 15.30 น.
สืบเนื่องจากกรณีเหตุลักทรัพย์ในเคหะสถานในพื้นที่ สน.มักกะสัน เมื่อวันที่ 1 พ.ย.68 ที่คลินิกแห่งหนึ่ง และ วันที่ 30 พ.ย.68 ที่ร้านแห่งหนึ่ง เขตบางกะปิ กทม. ต่อมาเกิดเหตุลักทรัพย์ต่อเนื่องในพื้นที่ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 6–11 ธันวาคม 2568 โดยคนร้ายก่อเหตุภายในบริษัท ร้านอาหาร และสถานพยาบาลสัตว์แห่งหนึ่งหลายครั้ง ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสด พระเครื่อง และเช็คเงินสด เบื้องต้นพบทรัพย์สินสูญหายรวมเป็นเงินสด 21,200 บาท เช็คเงินสด 100,000 บาท และพระเครื่อง 27 รายการ
จากนั้นชุดสืบสวน สน.มักกะสัน จึงสืบสวนติดตามจากกล้องวงจรปิดจนไปถึงหอพัก เขตคันนายาว พบ นายธนภัทร เดินอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวและขอตรวจค้น พบสิ่งของตรวจยึดจำนวน 9 รายการ ที่สวมใส่อยู่และพกอยู่กับตัว ซึ่งเชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ สอบถาม นายธนภัทร ให้การรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ในคดีข้างต้นจริง
เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจค้นที่พัก พบสิ่งของตรวจยึดอีก จำนวน 9 รายการ ต่อมา นายธนภัทร นำเจ้าหน้าที่ไปตรวจค้นที่ดินรกร้าง บริเวณปากซอยรามคำแหง 46 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
นายธนภัทรรับสารภาพว่า ก่อเหตุเนื่องจากต้องการเงินมาใช้ โดยใช้วิธีเปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับใช้ก่อเหตุ ผลการตรวจค้นพบสิ่งของตรวจยึดอีก จำนวน 2 รายการ เบื้องต้น จึงได้นำของสิ่งของตรวจยึดส่ง พนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน และได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายธนภัทรในความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


