MGR Online - เลขาธิการ ป.ป.ส. ย้ำชัด "น้ำกระท่อมผสมยา" อันตรายถึงชีวิต สั่งเข้มงวดจับกุมโรงงานเถื่อน หวั่นเกิดแหล่งมั่วสุมทำลายอนาคตเยาวชน
วันนี้ (17 ธ.ค.) น.ส.อารีภักดิ์ เงินบำรุง รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ส. เปิดเผยว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ได้ยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะในเรื่องของโทษภัยของใบกระท่อมและน้ำต้มกระท่อม ที่มุ่งเน้นการจัดการปัญหา ทั้งการกวาดล้างโรงงานผลิตน้ำกระท่อมเถื่อน ซึ่งเป็นต้นตอของการกระจายสิ่งผิดกฎหมายและการแก้ไขปัญหาแหล่งมั่วสุม ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงที่ชักจูงเยาวชนไปในทางที่ผิด พร้อมเตือนสังคมถึงอันตรายของการนำใบกระท่อมไปต้มผสมยาแก้ไอหรือสารเคมี ซึ่งนอกจากจะผิดกฎหมาย ยังเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่นำพาเยาวชนก้าวไปสู่ยาเสพติดที่รุนแรงกว่า
น.ส.อารีภักดิ์ เผยว่า สืบเนื่องจากกรณีที่สำนักงาน ปปส. ภาค 6 ร่วมกับหน่วยงานภาคี บุกทลายแหล่งผลิตน้ำกระท่อมในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ซึ่งมีพฤติการณ์เปิดเป็นโรงงานขนาดย่อม ลักลอบต้มน้ำกระท่อมบรรจุขวดผสมยาแก้ไอ (Diphenyl) หรือ สี่คูณร้อย จำหน่ายให้แก่เด็กและเยาวชนจำนวนมาก จากกรณีดังกล่าว พ.ต.ต. สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. มีความห่วงใยและได้มีข้อสั่งการเร่งด่วนให้สร้างการรับรู้แก่ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน ให้ตระหนักถึงภัยคุกคามจากการลักลอบผลิตในลักษณะโรงงานเถื่อน มักมีการผสมยาแก้ไอ ยาแก้ปวด หรือสารเคมีอันตราย ทำให้ผู้ดื่มเกิดอาการมึนเมา ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบประสาทและสมอง เสี่ยงต่อภาวะช็อก หมดสติ และอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ซึ่งการกระทำดังกล่าว นอกจากจะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.พืชกระท่อม ที่ห้ามจำหน่ายให้แก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีแล้ว ยังถือเป็นความผิดที่มีบทลงโทษร้ายแรงตาม พ.ร.บ.อาหาร และ พ.ร.บ.ยา อีกด้วย
น.ส.อารีภักดิ์ เผยอีกว่า ปัญหาที่น่ากังวล คือ หวั่นเกิดแหล่งมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น และนำไปสู่ปัญหาสังคมอื่นๆ ตามมา เช่น การทะเลาะวิวาท การชักจูงกันทำเรื่องผิดกฎหมาย และที่สำคัญคือ เป็นพื้นที่ที่เอื้อให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ นำพาเยาวชนก้าวไปสู่การทดลองใช้ยาเสพติดชนิดอื่นที่มีความรุนแรงกว่า เช่น ยาบ้า หรือ ไอซ์ ในอนาคต
ทั้งนี้ ขอสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องว่า การบังคับใช้กฎหมายกับร้านค้าที่ "ต้ม-ผสม-ขาย" น้ำกระท่อม เป็นอำนาจหน้าที่ของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในพื้นที่ ซึ่งสามารถเข้าจับกุมและดำเนินคดีได้ทันที โดยมีบทลงโทษที่รุนแรงถึงขั้นจำคุก ได้แก่ ความผิดตาม พ.ร.บ.ยา มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 2 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000 ถึง 20,000 บาท
"สำนักงาน ป.ป.ส. ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็น แหล่งมั่วสุม ของเยาวชน หรือพบเห็นโรงงาน หรือ ร้านค้า ที่ลักลอบต้มน้ำกระท่อมผสมยาขายในชุมชน สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ป.ป.ส. 1386 ที่พึ่งทุกปัญหายาเสพติด ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยของลูกหลานและสังคม" โฆษกสำนักงาน ป.ป.ส. กล่าวทิ้งท้าย


