MGR Online - ปปง. หารือ ก.ล.ต. บูรณาการข้อมูลขยายผลยึดอายัดทรัพย์ 10,165 ล้านบาท จากเครือข่ายสแกมเมอร์ ผลักดันยกระดับตรวจสอบธุรกรรมการเงิน
สืบเนื่องจากสำนักงาน ปปง. เดินหน้าบูรณาการข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้น หลังคณะกรรมการธุรกรรมมีมติยึดและอายัดทรัพย์สินในคดีสำคัญ มูลค่ารวมกว่า 10,165 ล้านบาท ซึ่งเชื่อมโยงเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติ และได้ส่งข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมในตลาดทุนให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
วันนี้ (4 ธ.ค.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. พร้อมด้วย นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการและคณะผู้บริหาร ปปง. ประชุมหารือร่วมกับ นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นางวรัชญา ศรีมาจันทร์ รองเลขาธิการ ก.ล.ต. , นายธวัชชัย พิทยโสภณ รองเลขาธิการ ก.ล.ต. และ น.ส.สุชา บุณยเนตร ผู้ช่วยเลขาธิการ ก.ล.ต. เพื่อร่วมกันพิจารณาข้อมูลเชิงลึกของเครือข่ายผู้กระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของ ปปง.
โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนและสินทรัพย์ดิจิทัล และประสานความร่วมมือเกี่ยวกับการยึดและอายัดทรัพย์เครือข่ายผู้กระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นอกจากนี้ ยังได้หารือเพื่อผลักดันการปรับปรุงกฎหมายและกฎเกณฑ์โดยเร็ว เพื่อยกระดับการมีเครื่องมือในการตรวจสอบการทำธุรกรรมและ การตรวจสอบเส้นทางเงินผ่านผู้ประกอบธุรกิจที่ทำหน้าที่ตัวกลาง (Travel Rule) การตรวจสอบผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริง (Ultimate-Beneficiary)
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการจัดโครงสร้างในเชิงธุรกิจ ที่ซับซ้อน และการสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรฐานการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (KYC/CDD) เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน รวมทั้งเพื่อให้เกิด การแลกเปลี่ยนข้อมูลที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพระหว่างทั้ง 2 หน่วยงาน
เลขาธิการ ปปง. กล่าวเพิ่มเติมว่า การหารือครั้งนี้ถือเป็นขั้นตอนสำคัญในการปิดช่องโหว่ที่อาจถูกใช้เป็นเส้นทางฟอกเงิน พร้อมทั้งเสริมความเข้มแข็งให้กับระบบกำกับดูแลและการคุ้มครองประชาชนในตลาดทุนและการลงทุนของประเทศ โดยสำนักงาน ปปง. พร้อมสนับสนุนข้อมูลและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้แก่หน่วยงานกำกับดูแล เพื่อร่วมกันสร้างระบบการเงินและตลาดทุนที่ปลอดภัย โปร่งใส และไม่เปิดช่องให้อาชญากรใช้เป็นเส้นทางฟอกเงิน ทั้งนี้ สำนักงาน ปปง. และ ก.ล.ต. จะร่วมกันดำเนินการตามกรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อคุ้มครองประชาชนและยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของระบบการลงทุนให้มีความยั่งยืนในระยะยาว


