xs
xsm
sm
md
lg

”ทนายอั๋น“ เปิดเส้นทางการเงินขบวนการฮั้ว สว. "อั้งยี่-ฟอกเงิน" โยง 2 สว.ตัวจริง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - "ทนายอั๋น บุรีรัมย์" แฉเส้นทางการเงินขบวนการฮั้ว สว. 8 ผู้ต้องหา "อั้งยี่-ฟอกเงิน" พบข้อมูลเอี่ยว 2 สว.ตัวจริง - 6 เครือข่ายพรรคการเมืองดัง

วันนี้ (4 ธ.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ "ทนายอั๋น บุรีรัมย์" เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ดำเนินการเพื่อคุ้มครองความเป็นอิสระและความโปร่งใสในการพิจารณาคดีพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมเปิด "เส้นทางการเงิน" ของกระบวนการฮั้ว สว. ในคดี "อั้งยี่-ฟอกเงิน" โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ในฐานะโฆษกดีเอสไอ เป็นผู้แทนรับเรื่อง

นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนทราบว่า กกต. ได้มีการส่งหนังสือจี้สอบถามอธิบดีดีเอสไอว่าระหว่างการทำสำนวนคดี "อั้งยี่-ฟอกเงิน สว." ทางดีเอสไอได้มีการสอบสวนคนในพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ หรือได้มีการแจ้งข้อหาบุคคลใดของพรรคหรือไม่ ซึ่งตนมองว่าเป็นการแทรกแซงการทำคดีหรือไม่ เพราะอธิบดีฯ ก็ต้องมีการตอบหนังสือ ให้รายละเอียดต่าง ๆ อีกทั้งตนเชื่อว่าสำนวนคดีฮั้ว สว. ตามกฎหมาย กกต. (ผู้ต้องหา 229 ราย) อาจจะมีการล้มคดีภายหลังการยุบสภาได้ นอกจากนี้ ในช่วงเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เห็นเป็นข่าว ได้มีพยานตัวหลักในจังหวัดขอนแก่น มากลับคำให้การกับดีเอสไอ อย่างไรก็ดี ตนทราบว่าในอนาคตจะมีคนแถวภาคเหนือมากลับคำให้การอีกแน่นอน

นายภัทรพงศ์ กล่าวอีกว่า ตนเคยได้มาเปิดเผยภาพเส้นทางการเงินของคนคนหนึ่ง ที่มีการโอนให้เจ้าหน้าที่ กกต. และทราบว่าเจ้าหน้าที่รายนี้โดนไล่ออกแล้ว เมื่อเปิดเส้นทางการเงินครั้งที่ 2 ทางดีเอสไอก็ได้มีการออกหมายเรียกผู้ต้องหา 8 คน จึงหวังว่าครั้งนี้จะเกิดแรงสะเทือนวงการ ซึ่งตัวละครที่อยู่ในเส้นทางการเงินครั้งนี้เป็นตัวละครทางสายใต้ โดยเฉพาะ ม. และ อ. ซึ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาตัวจริง ดังนั้น ตนอยากจะถามว่าจะตัดจบแค่ 8 คนนี้หรือ ในเมื่อทั้ง 8 คนนี้มีเส้นเงินโยงใยกัน และโยงไปเครือข่ายอื่นในภาคอีสานด้วย


นายภัทรพงศ์ กล่าวต่อว่า สำหรับพฤติการณ์ของบุคคลในเส้นทางการเงินที่ตนนำมาเปิดเผยในวันนี้ ล้วนมีความเชื่อมโยงตั้งแต่ก่อนเลือก สว. ระหว่างเลือก สว. และภายหลังเสร็จสิ้นการเลือก สว. ยกตัวอย่าง น. มีการรับโอนทั้งหมด 165 ครั้ง จำนวน 1.3 ล้านบาท โอนออกไป 480 ครั้ง จำนวน 1.6 ล้านบาท ขณะที่อักษรย่อ ม. เป็นตัวการหลักสายใต้ ปัจจุบันเป็น สว. พบข้อมูลว่ามีการรับโอนทั้งหมด 162 ครั้ง แต่โอนออกไป 269 ครั้ง ซึ่งยอดเงินในการรับโอน รวม 17 ล้านบาท แต่โอนเงินออกไป 16 ล้านบาท ทั้งนี้ ในวันที่ดีเอสไอประกาศข่าวว่าจะออกหมายเรียกผู้ต้องหา 8 ราย ว่ากันว่า อักษรย่อ ม. และ อ. ที่เป็น สว.ตัวจริงที่อยู่ระหว่างประชุมกรรมาธิการฯ ถึงกับหน้าดำคร่ำเครียด เดินออกจากห้องประชุม แต่อีกสองวันกลับหน้าตายิ้มแย้ม อ้างบอกว่าเคลียร์ได้แล้ว

นายภัทรพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนทราบข้อมูลจากสายลับว่ามีการประชุมของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ อั้งยี่-ฟอกเงิน สว. ที่ดีเอสไอและอัยการประชุมกันจริง แต่มีสายข่าวทางสีน้ำเงินว่าต้องการตัดจบที่ 8 คนเท่านั้น จะล้มคดีกัน แต่ตนต้องขอบคุณดีเอสไอและอัยการที่ไม่ยอม และดึงไว้ไม่ให้ตัดจบแค่ 8 คน เพราะจำนวนผู้เกี่ยวข้องในเส้นทางการเงินมีเยอะกว่านี้ และตนขอให้เกียรติประชาชนบ้าง อย่าล้มคดี เพราะมันยังมีผู้เกี่ยวข้องมากกว่านี้


กำลังโหลดความคิดเห็น