ตำรวจ ปอศ. เตรียมเรียก"เวย์ ไทเทเนี่ยม" สามี "นานา"สอบปากคำทุกมิติว่าเอี่ยวร่วมกระทำผิดด้วยหรือไม่ เร่งประสานผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเครื่อง ledger-nano-x ว่ามีทรัพย์สินมูลค่าเท่าไหร่ ได้มาจากการฉ้อโกงหรือไม่
วันนี้ ( 4 พ.ย.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. กล่าวถึงความคืบหน้าคดี นางไรบีนา อินทชัย หรือ "นานา ไรบีนา" ฉ้อโกงหลอกลงทุนว่า เมื่อวานได้สอบปากคำ นางไรบีนา ตามขั้นตอนกฎหมายโดยมีทนายความของเจ้าตัวร่วมรับฟังด้วย เบื้องต้นยังคงให้การปฏิเสธ และยังไม่ขอให้การในรายละเอียดเนื่องจากต้องจัดเตรียมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ จำนวนมาก จึงขอทำเอกสารประกอบคำให้การมามอบให้ในภายหลัง ทางพนักงานสอบสวนจึงนำตัวส่งฝากขังยังศาลอาญา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ด้าน พ.ต.อ.นิตติโชติ เพ็ญจำรัส รอง ผบก.ปอศ. กล่าวว่า ตัวเอกสารสลิปการโอนเงิน ที่ตรวจพบ เป็นเอกสารที่มีการดัดแปลงแก้ไข แล้วนำไปแสดงหรืออ้างกับผู้เสียหายท่านหนึ่งว่ามีการโอนเงินไปลงทุนกับบุคคลอีกท่านหนึ่งจริง แต่เมื่อเราตรวจสอบก็พบว่าเป็นเอกสารปลอม ซึ่งในส่วนผู้เสียหายที่ถูกกระทำเช่นนี้ เบื้องต้นพบ 1 ราย เป็นบุคคลทั่วไปไม่ใช่ดารา แต่ไม่ขอเปิดเผย เนื่องจากอยู่ระหว่างตรวจสอบหลักฐานอิเล็กทรอนิกส์ที่เรายึดมาตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อดูว่านอกเหนือจากหลักฐานเหล่านี้ยังมีหลักฐานอื่นเพิ่มเติมอีกหรือไม่
พ.ต.อ.นิตติโชติ กล่าวต่อว่าส่วนเอกสารการโอนหุ้น เป็นการนำมากล่างอ้างกับผู้เสีบหายท่านหนึ่งเฉย ๆ ว่า ได้มอบหุ้นร้านตัดผมให้กับผู้เสียหายท่านนี้แล้ว แต่เราตรวจสอบพบว่า เอกสารหุ้นดังกล่าวไม่ใช่ของนางไรบีนาจริง เพียงมีการทำสัญญาโอนหุ้นกันไว้จริง แต่ตัวหุ้นที่นำมาแสดงนั้นไม่ใช่ของนางไรบีนา ซึ่งในส่วนนี้เรากำลังตรวจสอบว่ามีการโอนหุ้นให้จริงหรือไม่ เพราะตัวนางไรบีนาเอง ทราบว่าก็มีหุ้นอยู่ในธุรกิจร้านตัดผมดังกล่าวด้วยเช่นกัน
พ.ต.อ.นิตติโชติ กล่าวอีกว่าส่วนเครื่อง ledger-nano-x (hardware wallet) หรือเครื่องเก็บเงินดิจิทัล ที่ตรวจยึดมานั้นอยู่ระหว่างประสานผู้เชี่ยวชาญ และ คนใกล้ชิดมาร่วมตรวจสอบ ว่ามีอะไรอยู่บ้าง และหากพบว่าทรัพย์สินที่อยู่ภายในเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดก็จะต้องตรวจยึดไว้ ซึ่งขณะนี้เจ้าตัวอ้างอยู่ว่าเป็นของผู้อื่น
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการเชิญตัว นายปริญญา อินทชัย หรือ เวย์ ไทเทเนี่ยม สามี มาให้ปากคำด้วยหรือไม่ พ.ต.อ.นิตติโชติ ตอบว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างติดต่อประสานมาเข้าให้ปากคำ ยังไม่ถึงขั้นออกหมายเรียก แต่ว่าเราก็เตรียมการจะออกหมายเรียก นายปริญญา ไว้อยู่แล้ว
พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ กล่าวเสริมในประเด็นนี้ว่า ตามที่มีกระแสข่าวว่า นายปริญญา เคยมาพบพนักงานสอบสวนก่อนหน้านี้ ตนขอยืนยันตรงนี้ว่าไม่เป็นความจริง และ ในส่วนของตัวนายปริญญา นั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างพิจารณาตรวจสอบทุกมิติ ว่าตัวเขานั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ในลักษณะไหน มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงทรัพย์เพียงอย่างเดียว หรือ เกี่ยวข้องไปจนถึงฉ้อโกงทรัพย์ที่เป็นการกู้ยืม หรือ อาจจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย แต่หากพบว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดก็ต้องว่าไปตามขั้นตอนกฎหมาย ส่วนจะดำเนินการอย่างไรก็คงพิจารณาจากอัตราโทษเป็นหลัก อาทิ อัตราโทษต่ำกว่า 3 ปี ต้องทำเช่นไร อัตราโทษมากกว่า 3 ปี ต้องดำเนินการอย่างไร มันมีขั้นตอนทางกฎหมายอยู่แล้ว
พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าทั้งคู่หย่าร้างกันแล้วหรือไม่ ในส่วนนี้ตนไม่ทราบ เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา แต่ยืนยันว่าไม่มีผลทางคดี เพราะเรายึดหลักพยานหลักฐานเส้นทางการเงินและพฤติการณ์ของแต่ละบุคคลเป็นหลัก แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่พบหลักฐานเส้นทางการเงินพาดพิงไปถึง นายปริญญา เฉพาะในกรณีที่ผู้เสียหายมาร้องทุกข์แล้วตอนนี้ แต่ในกรณีของผู้เสียหายรายอื่น ๆ นอกเหนือจากกลุ่มแรกนายปริญญา จะเกี่ยวข้องไหม ยังบอกไม่ได้ เพราะยังไม่มีผู้เสียหายรายใหม่เข้ามา จึงอยากฝากไปถึงผู้ที่ถูกกระทำเช่นนี้รายอื่น ๆ ถ้ามีก็ให้รีบเข้ามา เราจัดทีมสอบสวนรองรับไว้แล้ว
พ.ต.อ.นิตติโชติ ยอมรับว่า ขณะนี้เองก็มีผู้เสียหายบางรายพาดพิงไปถึงนายปริญญา เพียงแต่ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบพยานหลักฐานให้แน่ชัดก่อนว่าเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน หากพบว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดจริงก็จะต้องดำเนินการทางกฏหมายเช่นเดียวกัน ขณะที่ในส่วนของมูลค่าความเสียหายแม้ตอนนี้จะมีจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะตั้งเป็นคดีพิเศษแล้วให้ทางดีเอสไอช่วยทำ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าเร็ว ๆ นี้จะมีการออกหมายเรียกนายปริญญา หรือไม่ พ.ต.อ.นิตติโชติ ตอบว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นออกหมายเรียก ต้องพิจารณาตรวจสอบพยานหลักฐานให้แน่ชัดก่อน และหากพบว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ก็ต้องมาดูที่อัตราโทษความผิดว่ามากน้อยแค่ไหน หากเป็นฉ้อโกง ก็อาจจะต้องออกหมายเรียกก่อน 2 ครั้ง ถ้า 2 ครั้งไม่มาก็ต้องออกหมายจับ แต่หากเจ้าตัวประสงค์จะมาเข้าพบพนักงานสอบสวนก่อนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจหรือเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงต่าง ๆ ทางเราก็ยินดี มาได้ตลอดไม่จำเป็นต้องในเวลาราชการ เพียงแต่ขอให้ประสานมาก่อน จะได้จัดเตรียมพนักงานสอบสวนไว้รองรับ
เมื่อถามว่ายังสามารถติดต่อ นายปริญญา ได้อยู่หรือไม่ พ.ต.อ.นิตติโชติ ยืนยันว่า ยังสามารถติดต่อได้อยู่ แต่เป็นการติดต่อผ่านทนายความ
เมื่อถามว่า กรณีที่นางไรบีนา มีอาการป่วยขณะถูกคุมขัง พ.ต.อ.นิตติโชติ ชี้แจงว่า เป็นลักษณะเครียด แพนิค มากกว่า รวมถึงมีอาการหัวใจเต้นผิดปกตินิดหน่อย ซึ่งเป็นเรื่องปกติของคนที่ไม่เคยเข้าไปอยู่ในห้องควบคุมตัว หรือถูกดำเนินคดี แต่หลักๆน่าจะกังวลเป็นห่วงเรื่องลูกมากกว่า ส่วนยาเขาก็เตรียมมาเองเป็นยาคลายเครียด พอรับประทานยาก็ดีขึ้น ไม่ถึงขั้นจะต้องเข้าโรงพยาบาล
เมื่อถามว่าจะมีการขยับข้อหาเป็นฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ กล่าวว่า องค์ประกอบของข้อหาฉ้อโกงประชาชน กฎหมายระบุไว้ว่าจะต้องมีการโฆษณาเผยแพร่ประกาศให้บุคคลทั่วไปได้ทราบ แต่ในเคสของนางไรบีนา เป็นการเจาะจงกลุ่มเพื่อน ไม่ได้ประกาศให้กลุ่มคนทั่วไปทราบ ดังนั้นหลักฐาน ณ วันนี้จึงยังไม่เข้าองค์ประกอบ เพียงแต่เป็นการครบองค์ประกอบของความผิด พรบ.กู้ยืมเงินที่มาจากการฉ้อโกงประชาชน


