xs
xsm
sm
md
lg

ทลาย 4 เครือข่ายยานรก ผู้ต้องหาทั้งไทย-ต่างชาติรวม 40 ราย ยึดทรัพย์เกือบพันล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



รอง ผบ.ตร.แถลงผลงานตำรวจ ปส.เปิดปฏิบัติการ “เด็ดปีกมาเฟียข้ามชาติ” จับ 4 เครือข่ายยาเสพติด ผู้ต้องหาผู้ต้องหาทั้งไทย-ต่างชาติรวม 40 ราย ยึดทรัพย์เกือบ 1 พันล้านบาท

วันนี้ ( 3 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.สํา
ราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นห้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ปส. แถลงผลปราบปรามยาเสพติด ตอกย้ำความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการ “ต้องชนะยาเสพติด” ให้ได้อย่างเด็ดขาด ภายใต้นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมข้ามชาติ กระทบต่อความมั่นคง กองบัญชาการตำรวจปราบปราบปรามยาเสพติด ซึ่ง บช.ปส.ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส. ดีอีเอ และหน่วยงานต่างประเทศ ได้เปิดปฏิบัติการ “เด็ดปีกมาเฟียข้ามชาติ” โดยสามารถจับกุมจำนวน 4 คดี ผู้ต้องหาชาวต่างชาติและไทย รวม 40 ราย ยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท

โเยคดีแรกบช.ปส.รุดช่วยหญิงพิการขาวยุโรป ก่อนตกเป็นหยื่อโรแมนซ์สแกม เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ กก.1 าบก.ปส.1 จับกุมนายเอ็นซูเบ (นามสมติ) สัญชาติในจีเรีย ซึ่งเป็นสมาชิกแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ (Romance Scam) โดยผู้ต้องหามีพฤติการณ์สร้างตัวตนปลอมเป็นชาวเกาหลี หลอกลวงหญิงชาวยุโรปที่มีความบกพร่องทางการได้ยินให้หลงรัก โดยใช้อุบายชักชวนมาท่องเที่ยวประเทศไทยและจะพาไปจดทะเบียนสมรสที่ประเทศเบลเยียม

จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาได้แอบซุกซ่อนยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเค) น้ำหนักประมาณ 5.7 กิโลกรัมไว้ในกระเป๋าเดินทางของหญิงผู้เสียหาย เพื่อหวังใช้เป็นเครื่องมือในการขนลำเลียงยาเสพติดไปยังประเทศเบลเยียม เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุมและประสานงานสถานทูตฮังการีเพื่อให้ความช่วยเหลือเหยื่อและส่งตัวกลับประเทศอย่างปลอดภัย พร้อมดำเนินคดีผู้ต้องหาตามกฎหมาย

คดีที่ 2 ทลายเครือข่ายวัตถุออกฤทธิ์ข้ามชาติ โดยบก.ปส.1 ร่วมกับสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐ (DEA) ตรวจยึดวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ที่เตรียมส่งออกไปปลายทางประเทศสหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายได้ทั้งสิ้น 11 ราย พร้อมของกลางวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 2 และ 4 รวมจำนวน 185,328 เม็ด และได้ทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด มูลค่ารวมประมาณ 500 ล้านบาท

คดีที่ 3 ปราบเครือข่ายลักลอบจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ “หมอแอร์” โเยบก.ปส.1 ร่วมกับ อย. และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ตรวจสอบการจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ที่หลุดออกจากระบบควบคุม นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาในครือข่าย รวม 25 ราย ครอบคลุมตั้งแต่แพทย์ นักกายภาพบำบัด ครู ผู้ค้ารายใหญ่และรายย่อย พร้อมยึดวัตถุออกฤทธิ์รวม 219,780 เม็ด และทรัพย์สินรวมมูลค่าประมาณ 525 ล้านบาท

และ คดีที่ 4 ทลายขบวนการ “พอตเคจีน” ลักลอบผลิต-ขายยาครบวงจร ล่อซื้อกลางพัทยา ขยายผลรวบยกแก๊ง 4 ราย ของกลางนับหมื่น โดยบก.ปส.2 บช.ปส.เปิดปฏิบัติการเด็ดหัวขบวนการชาวจีนลอบผลิต-จำหน่ายยาเสพติดรูปแบบใหม่ “พอตเค” และสารเสพ ติดหลายชนิด แพร่ระบาดหนักในแหล่งท่องเที่ยวและกรุงเทพฯ จับกุมต่อเนื่อง 3 จุดใหญ่ พัทยา-ห้วยขวาง-นนทบุรี ยึดของกลางมหาศาล ทั้งพอตเคกว่า 2 พันหัว อุปกรณ์ผลิตยาครบชุด เงินสดหลายสกุล เชื่อมโยงเป็นขบวนการดียวกัน มีการแบ่งงานเป็นระบบ ใช้คอนโดหรูซุกซ่อนและส่งของผ่านพัสดุอาหารสัตว์หวังเลี่ยงการจับกุม

โดยจุดที่ 1 ล่อซื้อกลางพัทยา รวบ “Mr.Liu” รับเงินคาหนังคาเขา เจ้าหน้าที่ได้รับเบาะแสจากสายลับว่าสามารถสั่งซื้อ “หัวพอตเค” จากชายชาวจีนชื่อเล่น “เหล่าหวาง” ผ่านแอพพลิเคชั่นเทเลแกรม โดยนัดส่งของจำนวน 100 หัว ในราคา 60,000 บาท ที่คอนโดแห่งหนึ่ง สินค้าแอบซุกในถุงอาหารแมว สร้างความแบบเนียนอย่างแยบยล แต่เมื่อคนร้ายเดินทางมารับเงิน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม Mr. Liu Yisheng สัญชาติจีน พร้อมของกลางยาเสพติดประเภทพอตเคครบ 100 หัว

จุดที่ 2 ขยายผลลุยห้วยขวาง-ดินแดง พบอุปกรณ์ผลิตและและเครือข่าย จากการตรวจสอบโทรศัพท์ของผู้ต้องหา พบเบาะแสเชื่อมโยงถึง Mr. Lu Huowen พักอยู่ที่คอนโดหรูในย่านห้วยขวาง เจ้าหน้าที่สะกดรอยตามพฤติกรรมจนมันมันใจ และแสดงตัวจับกุมได้สำเร็จ ยึดของกลางพอตเคจำนวนหนึ่ง พร้อมอุปกรณ์ผลิตเบื้องต้น และข้อมูลการรับพัสดุต้องสงสัยอีกหลายรายการ

และ จุดที่ 3 บุกคอนโดดัง นนทบุรี พบแหล่งผลิต-โกดังยา จากข้อมูลการรับพัสดุยาเสพติดในชื่อปลายทางที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่นำที่กำลังพร้อมหมายค้นเข้าตรวจสอบคอนโดย่านแคราย-รามวงศ์วาน ห้องพัก 2 ห้อง พบเป็นแหล่งเก็บ-ผลิตพอพเคอย่างชัดเจน ภายในห้องพบของกลางจำนวนมาก พร้อม

จับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 ราย คือ Li Huanghua และ Mo Languan ทั้งหมดสัญชาติจีน รวมผู้ต้องหาสัญชาติจีน 4 ราย ส่ง พงส.ดำเนินคดีตามกฎหมายและตรวจยึดของกลาง ได้แก่ หัวพอตเครวม 2,386 หัว, วัตถุออกฤทธิ์ “อิโทมิเดต” น้ำหนักรวม 716 กรัม, ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 12.2 กรัม, พอตบุหรี่ไฟฟ้าเปล่า 5,390 หัว และ เงินสดหลายสกุล รวมมูลค่านับล้านบาท

จากการสืบสวนขยายผลพบว่าเครือข่ายนี้มีการวางโครงสร้างการกระทำผิดอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ขั้นตอน ผลิต-เก็บ-ส่งสินค้า ใช้คอนโดหรูหลายแห่งเป็นฐานปฏิบัติการ ซุกซ่อนยาในพัสดุอาหารสัตว์ และอาศัยบริการขนส่งด่วนเป็นช่องทางหลีกเลี่ยงการตรวจจับ โดยเป้าหมายหลักคือการกระจายพอตเคไปยังแหล่งท่องเที่ยว เช่น พัทยา และเขตชุมชนในกรุงเทพฯ

นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ดำเนินการบูรณากาการกำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มขัน ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.-30 พ.ย.2568 เพื่อขับเคลื่อนมาตรการปราบปรามยาเสพติตในทุกมิติ ส่งผลให้สามารถจับกุมคดีเกี่ยวกับยาเสพติดได้จำนวน 48,401 คดี ผู้ต้องหา 48,260 คน พร้อมทั้งตรวจยึดของกลางจำนวนมาก ได้แก่ ยาบ้า 215.8 ล้านเม็ด เฮโรอีน 97.72 กก. 188.59 กก. โคเคน 9.21 กก. คีตามึน 1,380 กิโลกรัม ยาอี 196,152 เม็ด และอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิดรวมมลค่ากว่า
989.98 ล้านบาท

พล.ต.อ.สำราญกล่าวว่า จากการบูรณาการระหว่างตำรวจไทย หน่วยงานด้านยาเสพติดระหว่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการ “ขุดรากถอนโคน” เพื่อร่วมกันปกป้องสังคมไทยจากภัยร้ายของยาเสพติดอย่างยั่งยืน ถือเป็นภาพสะท้อนถึงขับเคลื่อนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็นระบบและยั่งยืน ทั้งนี้ ตร.ได้ขับเคลื่อนมาตรการเชิงรุกในทุกมิติ ทั้งการสืบสวน ปิดล้อม ตรวจค้น และขยายผลจับกุมเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเร่งยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำลายโครงสร้างทางการเงินของขบวนการอย่างถึงที่สุด






กำลังโหลดความคิดเห็น