xs
xsm
sm
md
lg

รวบ 2 ญี่ปุ่น เครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติ ยึดทรัพย์กว่า 2 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ป.ป.ส. ร่วมมือระดับสากล ทลายเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ รวบ 2 ชาวญี่ปุ่น พบเชื่อมโยงนายทุนเกาหลี ขยายผลยึดทรัพย์กว่า 2 ล้านบาท

ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดและทำลายเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐาน โดยเน้นย้ำเรื่องการประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ และการใช้มาตรการยึดทรัพย์สินเพื่อตัดวงจรทางการเงินอย่างเด็ดขาดนั้น

วันนี้ (25 พ.ย.) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 22 - 23 พ.ย.68 สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ ศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) , หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (นสร.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมประสานความร่วมมือระดับสากลกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่น เปิดปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติครั้งสำคัญ

สืบเนื่องจากเมื่อเดือน ก.ย.68 นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.ปปส.กทม. ได้ประสานงานแลกเปลี่ยนข่าวสารจากการเข้าร่วมประชุมความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อติดตามเครือข่ายการค้ายาเสพติด แก๊งค์ยากูซ่า ที่มีพฤติการณ์เชื่อมโยงเครือข่ายยาเสพติด 3 ประเทศ โดยเครือข่ายแก๊งยากูซ่าชาวญี่ปุ่นมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในประเทศไทย และลักลอบนำยาเสพติดไปจำหน่ายในประเทศเกาหลี จึงได้ประสานชุดปฏิบัติการข่าวและปราบปรามยาเสพติด 6 สำนักปราบปรามยาเสพติด เพื่อทำการสืบสวน ขยายผล พิสูจน์ทราบ

การสืบสวนติดตามพฤติการณ์มาตั้งแต่เดือน มิ.ย.68 พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติที่มีบทบาทสำคัญในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดและส่งออกกัญชา โดยมีพื้นที่เคลื่อนไหวหลักใน กทม. จ.ชลบุรี และ จ.ภูเก็ต จึงมีการประสานการปฏิบัติติดตามตัวนักค้ารายสำคัญไปยัง นายคณิศร ภาพีรนนท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สืบสวน ขยายผล จนกระทั่งนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา และสามารถจับกุมได้ 2 ราย

โดยเมื่อวันที่ 22 พ.ย. เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมตัวชายชาวญี่ปุ่น 2 ราย ได้ในพื้นที่กรุงเทพฯ จุดแรกบริเวณหน้าโรงแรมย่านหลักสี่ และจุดที่สองภายในห้องพักคอนโดมิเนียมหรูย่านพระราม 3 จากนั้น วันที่ 23 พ.ย. ได้ขยายผลนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นที่พักอาศัยในพื้นที่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี แม้การตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายภายในบ้านพัก แต่เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด รวมจำนวน 19 รายการ อาทิ รถยนต์ , รถจักรยานยนต์ , คอมพิวเตอร์พกพา , แท็บเล็ต , สมุดบัญชีธนาคาร และเงินสด (ธนบัตรสกุลเยนและเงินบาท) รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 2,000,000 บาท


จากการตรวจสอบประวัติและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศ พบข้อมูลสำคัญว่าผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่นทั้งสองราย มีความเชื่อมโยงกับ ผู้ร่วมขบวนการชาวเกาหลีอีก 1 ราย (อยู่ระหว่างการสืบสวน) โดยมีบทบาทเชื่อมโยงเส้นทางการเงินและการสั่งการร่วมกับกลุ่มผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่น

พ.ต.ต. สุริยา สิงหกมล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวสรุปว่า การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างหน่วยงานไทย ตำรวจญี่ปุ่น ครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการจัดการปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการพบความเชื่อมโยงของตัวละครสำคัญทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวเกาหลีในเครือข่ายเดียวกัน ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การขยายผลปราบปรามและยึดทรัพย์สินเครือข่ายที่เหลือต่อไป เพื่อไม่ให้กลุ่มอาชญากรเหล่านี้ใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
กำลังโหลดความคิดเห็น