รอง ผบช.สอท. เผยย้ำให้ความเป็นทำทุกฝ่าย กรณี “โจ๊ก” ยื่นหนังสืออ้างตำรวจไซเบอร์จะดำเนินคดีพัวพันเว็บพนันซ้ำ
วันนี้ (20 พ.ย.) ที่กองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง รอง ผบช.สอท. กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท. เพื่อขอความเป็นธรรม หลังอ้างว่ามีตำรวจไซเบอร์จะดำเนินคดีซ้ำ ในคดีพัวพันเว็บพนันออนไลน์ “bnk Master” เครือข่ายมินนี่ ทั้งที่คดีอยู่ในอำนาจการสอบสวนของ ป.ป.ช. แต่กลับมีความพยายามแยกสำนวนคดีออกมาใหม่เพื่อดำเนินคดีซ้ำอีกรอบ ว่า เรื่องดังกล่าวนั้น ฝ่ายอำนวยการ โดยให้ฝ่ายกฏหมาย สอท. ที่มีความชำนาญ ตรวจสอบ ตั้งแต่ สอท.1 ถึง สอท.5 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งบางเรื่องอยู่ ใน สอท.1 ที่กำลังติดตามอยู่ ตอนนี้เราได้ให้ฝ่ายกฎหมาย สอท.ตรวจสอบอย่างละเอียด จะดำเนินการให้ทุกอย่างรวดเร็วสุด ย้ำให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนเรื่องที่ทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อ้างว่ามีตำรวจไซเบอร์ หวังดีนำข้อมูลส่งให้นั้นทาง สอท.จะดำเนินการอย่างไร พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่รู้ รายละเอียดทั้งหมดขอตรวจสอบก่อน หากมีความคืบหน้าอย่างไรจะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบอีกครั้ง
นอกจากนี้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ ยังกล่าวถึงความสำคัญของการป้องกันเว็บพนันออนไลน์ว่า เรื่องนี้ถือเป็นวาระสำคัญระดับชาติ โดยตำรวจทุกระดับ ตั้งแต่นายสิบไปจนถึงพลตำรวจเอกต้องทำงานร่วมกัน แต่ในมุมของตนเอง เรื่องนี้ยังเป็นวาระระดับนานาชาติ เนื่องจากประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศอนุญาตให้เล่นการพนันได้ แต่ประเทศไทยไม่สามารถอนุญาตให้เล่นการพนันได้ เราได้รับรายงานการเปิดเว็บพนันจำนวนมากหลายหมื่น URL ต่อเดือน แม้ตำรวจไซเบอร์จะปิดการเข้าถึงได้ แต่การปิดจริงๆ ต้องอาศัยความร่วมมือกับทุกแพลตฟอร์ม และเครือข่ายออนไลน์ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงสิ่งไม่ดีได้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ กล่าว พร้อมเน้นว่า นอกจากเป็นหน้าที่หลักของตำรวจแล้ว ประชาชนและแพลตฟอร์มออนไลน์ก็ต้องร่วมมือกัน


