เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หมู่ 6 และหมู่ 7 ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบว่าสถานการณ์น้ำยังท่วมสูงอย่างต่อเนื่อง บ้านเรือนประชาชนต้องยกของขึ้นที่สูงและเร่งสูบน้ำออก นอกจากนี้ร้านค้าทุกร้านยังคงปิดให้บริการอยู่ โดยชาวบ้านหลายหลังคาเรือนยังคงต้องการความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ “ดร.แก้ว” ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ กต.ตร.จังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า ตนได้รับการประสานงานจากผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 ตำบลเกาะเกร็ด เพื่อเข้ามาดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ําท่วม วันนี้ตนได้นําน้ำดื่มมา 100 แพ็ค และกําลังใจดีๆมามอบให้ ตนได้มีการสอบถามชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนว่าต้องการความช่วยเหลืออย่างไรบ้าง ซึ่งภายในเกาะเกร็ดมีน้ำท่วมขังค่อนข้างสูง หลายๆบ้านต้องการความช่วยเหลือเรื่องน้ําดื่มและข้าวสารอาหารแห้ง บางบ้านยังสามารถอยู่อาศัยได้แต่ต้องคอยสูบน้ำออกตลอดเวลา ส่วนพ่อค้าแม่ค้าในเกาะเกร็ดก็ไม่สามารถค้าขายได้ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าวันนี้มีแต่รายจ่าย ไม่มีรายได้เข้ามา
ตนได้พูดคุยกับทีมงานและชาวบ้านในพื้นที่ว่าทำไมเราไม่พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสทำตลาดน้ำแทน แต่ก็ต้องประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวด้วย ซึ่งวันนี้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันภายในชุมชน ว่าความรู้สึกที่ได้รับความเดือดร้อนและการช่วยเหลือที่ต้องการได้รับอะไรบ้าง ฝากถึงพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวเกาะเกร็ด อยากให้ทุกคนสู้ เพราะเราเจอวิกฤติน้ําท่วมแบบนี้เกือบทุกปี ในอนาคตหวังว่าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่มองเห็นความเดือดร้อนของชาวเกาะเกร็ดมากกว่านี้ ซึ่งตนจะช่วยเป็นกระบอกเสียงในการสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านในพื้นที่ไปถึงผู้บริหารในประเทศไทยที่เกี่ยวข้อง อยากให้ทุกคนสู้ๆ มีอะไรต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อไปได้ที่เพจ "ดร.แก้วช่วยได้"
น.ส.สุพัตรา เกตุเจริญ อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 กล่าวว่า ตอนนี้เข้าเดือนที่ 3 แล้ว ที่น้ำท่วมเกาะเกร็ด และเมื่อช่วงต้นเดือนปริมาณน้ำลดลงชาวบ้านต่างดีใจและเริ่มทำความสะอาดบ้านกัน แต่พอเข้าวันที่ 7 พ.ย. ปริมาณน้ำกลับสูงขึ้นอีก ซึ่งภายในชุมชนเกาะเกร็ดเรามีกลุ่มไลน์ที่เอาไว้แจ้งเหตุ กรณีที่เขื่อนเจ้าพระยามีการปล่อยน้ำ ตนอยากรู้ว่าสรุปแล้วจะปล่อยน้ำปริมาณเท่าไหร่ และจะปล่อยน้ำแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน เพราะชาวบ้านต้องคอยหวาดระแวงและยกของขึ้นที่สูง พวกเราต้องอดทนมานานกว่า 3 เดือนแล้ว ตนเป็นผู้ใหญ่บ้านมีค่าตอบแทนยังลำบาก และพ่อค้าแม่ค้าที่มีอาชีพค้าขายเป็นหลักในเกาะเกร็ดจะละบากขนาดไหน ชาวบ้านในนี้มีมากกว่า 1,000 ชีวิต และส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย แต่ทุกวันนี้ไม่สามารถเปิดร้านขายของได้ ทุกร้านต้องปิดหมด เนื่องจากน้ำท่วมสูง ที่ผ่านมา อบต.เกาะเกร็ด ได้เข้ามาทำทางเดินเท้าให้ แต่ก็มีปัญหาเวลาเหลือวิ่งผ่านซึ่งไม่ได้สนใจว่าชาวบ้านริมน้ำจะได้รับความเดือดร้อนอย่างไร บางบ้านประตูจะหลุด บ้านจะพัง เงินเยียวยา 9,000 บาทสำหรับบางบ้านอาจจะพอแต่ต้องยอมรับว่าบางบ้านได้รับความเสียหายหนักและเงินเยียวยาไม่สามารถช่วยเหลือได้ทั้งหมด ตนพยายามประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือให้ผู้ใช้เรือสัญจรลดความเร็วลง และช่วงทางโค้งเข้าหมู่ 6 ต้องยิ่งเพิ่มความระมัดระวัง หลายๆบ้านยกของขึ้นที่สูงไว้แต่เมื่อเจอคลื่นน้ำแรงซัดก็ทำให้ข้าวของพังลงมา ตนขอยืนยันว่าภายในชุมชนเกาะเกร็ดเราดูแลกันมาตลอด และดูแลอย่างทั่วถึง เพียงแต่ให้ความสำคัญของแต่ละบ้านไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างเช่น บ้านที่มีผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยติดเตียง อันไหนที่จะช่วยเหลือก่อนและหลัง ยืนยันว่าหน่วยงานท้องถิ่นไม่เคยทอดทิ้งพี่น้องประชาชนชาวเกาะเกร็ดแน่นอน


