”เกษม“อดีตผู้พิพากษา ชี้ทางออกการเมืองไทยเสนอ เเก้กฎหมายเปิดโอกาส ขรก.ประจำขึ้นบริหารประเทศบ้าง เหตุนักการเมืองบริหารขัดขากันเอง เสียโอกาสชาติ
วันนี้ (18 พ.ย.) นายเกษม ศุภสิทธิ์ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพัทยา ได้ให้ความเห็น เเละมีความห่วงใยในชาติบ้านเมืองในฐานะที่เคยเป็นข้าราชการประจำรับราชการในตำแหน่งผู้พิพากษามาเป็นระยะเวลารวม 21 ปี ซึ่งปัจจุบันเป็นข้าราชการบำนาญศาลยุติธรรมว่า วันนี้เราสามารถสรุปกันได้แล้วปัญหาของสภาพบ้านเมืองในปัจจุบันนี้ ข้าราชการฝ่ายการเมือง ไม่สามารถนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้ ซึ่งหากย้อนหลังไป 20- 30 ปี จนถึงปัจจุบันความขัดแย้งของบ้านเมือง ยังคงมีอยู่
รัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้นำด้านบริหารไม่สามารถนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้ เพราะมีแต่เรื่องเเก่งแย่งและแย่งชิงอำนาจกัน และไม่ว่าพรรคการเมืองใดจะขึ้นมาเป็นผู้นำทางการเมือง ก็จะถูกอีกฝ่ายดำเนินการขัดแข้ง ขัดขาไม่ให้มีการบริหารชาติบ้านเมืองได้ ก่อให้เกิดความล้าหลังของบ้านเมือง และสูญเสียโอกาสของคนในชาติ เพราะประเทศชาติขาด“ ผู้นำ ที่รักชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง”
จาก สภาพปัญหาดังกล่าวข้างต้น ตนจึงขอเสนอแนวความคิดในการที่จะฝากบ้านเมืองไว้กับข้าราชการประจำ ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการทหาร ตำรวจ หรือฝ่ายปกครอง หรือข้าราชการฝ่ายอื่นๆ ที่ถูกบ่มเพาะอุดมการณ์ ความรักชาติบ้านเมือง มาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับราชการ และถูกบ่มเพาะอุดมการณ์ ระเบียบวินัย และข้อปฏิบัติ นับ 10 ปี และข้าราชการประจำเป็นพลังในการทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง
ตนเห็นว่า มีข้าราชการประจำที่มีความรู้ความสามารถ และมีความรักชาติบ้านเมือง และมีความพร้อมที่จะก้าวขึ้นมาทำงานเป็นผู้นำของประเทศได้ เพราะมีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถในการบริหารประเทศ มากกว่าข้าราชการฝ่ายการเมือง เพียงแต่ข้าราชการประจำเหล่านั้น“ ไม่มีโอกาส”ที่จะได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ เพราะมีข้อห้ามทางกฎหมาย จึงไม่สามารถก้าวมาเป็นผู้นำที่จะนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้
ดังนั้นคิดนอกกรอบว่า กฎหมายควรกำหนดทางเลือกให้ให้ข้าราชการประจำ ได้มีโอกาสที่จะก้าวเป็นผู้นำและมีโอกาสเข้ามาบริหารประเทศได้ เมื่อบุคคลนั้นมีความเหมาะสม เพราะข้าราชการประจำเหล่านั้นถูกบ่มเพาะด้วยอุดมการณ์ ถูกบ่มเพาะมาด้วยจิตวิญญาณของความรักชาติบ้านเมือง และถูกบ่มเพาะความเป็นผู้นำที่มีในองค์กร ซึ่งแตกต่างจากข้าราชการฝ่ายการเมืองที่ไม่ได้ถูกบ่มเพาะในเรื่องของอุดมการณ์ หรือจิตวิญญาณในการรักชาติบ้านเมือง และวันนี้พิสูจน์แล้วว่าข้าราชการฝ่ายการเมืองไม่สามารถนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองได้
ส่วนในเรื่องของกฎหมายที่จะเปิดช่อง ให้ข้าราชการประจำได้มีโอกาสก้าวมาเป็นผู้นำของประเทศได้นั้น เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาในประเด็นข้อกฎหมายดังกล่าวต่อไป เพียงแต่ผู้เขียนต้องการ จุดประกายประเด็นนี้ ให้กับคนในสังคมได้มีทางเลือกใหม่ของประเทศชาติ เท่านั้น
โดยข้อคิดเห็นดังกล่าวข้างต้น เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของตนด้วยหวังว่าจะให้ชาติบ้านเมืองมีความเจริญรุ่งเรืองเพราะบ้านเมืองจะเจริญได้ด้วย ผู้นำ ที่มีความ
ฉลาด มีวิสัยทัศน์ และมีความรักชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง“ และหากสภาพปัญหานี้ยังคงดำรงอยู่เช่นนี้ต่อไป ตนเชื่อว่าอีก 20 ปีข้างหน้าประเทศชาติบ้านเมืองก็จะไม่สามารถก้าวข้ามปัญหาเหล่านี้ไปได้ เพราะหากมีพรรคข้าราชการประจำ จะเป็นพรรคที่ดูแลชาติบ้านเมือง


