ตำรวจ บก.น.5 จับหนุ่มวัย 32 คาคอนโดย่านวงศ์สว่าง ผลิตแบงก์ยูโรปลอมจ่ายค่าจ้างเด็กเอ็นเตอร์เทน ตรวจปัสสาวะยังพบสารเสพติด
วันนี้ (8 พ.ย.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง รองผบช.น. พร้อมกำลังได้ร่วมกันจับกุม นายกัปกัลป์ หรือ โซ อายุ 32 ปี โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือไอซ์) ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย , มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรรัฐบาลไทยปลอมและธนบัตรต่างประเทศปลอม อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอมฯ
พร้อมด้วยของกลาง ทั้ง ยาเสพติด เมทแอมเฟตามีน หรือไอซ์ บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบกดปิดดึงเปิด และ ธนบัตรปลอม ฉบับละ 1 พันบาท ฉบับละ 500 บาท และ ธนบัตรยูโรปลอม อีกหลายฉบับ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนการจับกุมผู้ต้องหาในคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับแจ้งจาก นางสาวอริญรดา (สงวนนามสกุล) ว่าได้รับการว่าจ้างให้ไปเอ็นเตอร์เทน จากนายกัปกัลป์ ภายในคอนโดแห่งหนึ่งย่านวงศ์สว่าง เมื่อเสร็จจากการว่าจ้างแล้ว นายกัปกัลป์ จึงได้จ่ายเงินเป็นธนบัตรเป็นแบงค์ยูโร ฉบับละ 100 ยูโร จำนวน 3 ฉบับ รวมเป็นเงิน 300 ยูโร จากนั้น น.ส.อริญรดา ได้นำเงินไปแลกเป็นเงินไทย จึงทราบว่าเป็นธนบัตรยูโรปลอม จึงได้แจ้ง ด.ต.มงคล สิทธิขจรสกุล เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำ กก.สส.บก.น.5 ทราบ และได้แจ้งว่า นายกัปกัลป์ มียาเสพติดอยู่ภายในห้องดังกล่าว
ต่อมา ด.ต.มงคล ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จึงเดินทางไปตรวจสอบยังสถานที่ดังกล่าว เมื่อเดินทางไปถึงได้ประสานเจ้าหน้าที่นิติบุคคล คอนโด ให้นำพาเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นไปตรวจสอบห้องของ นายกัปกัลป์ เมื่อไปถึงห้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เคาะประตูห้อง พบนายกัปกัลป์ เปิดประตูออกมาและแสดงตนว่าเป็นเจ้าของห้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวและได้แจ้งวัตถุประสงค์ ในการตรวจสอบพร้อมได้แสดงบัตรประจำตัว ปปส. ของ พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทร ผกก.สส.บก.น.5 ให้กับ นายกัปกัลป์ จนเป็นที่พอใจและยินยอมให้เข้าตรวจค้น ก่อนทำการตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้ นายกัปกัลป์ ทราบแล้วและ นายกัปกัลป์ เป็นผู้นำการตรวจค้น
ผลการตรวจค้น พบยาเสพติดประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน หรือไอซ์) ลักษณะเป็นก้อนเกล็ดสีขาวอยู่ในถุง ชนิดกดปิดดึงเปิดแบบใส จำนวน 2 ถุง พบอยู่บนชั้นวางของในห้องน้ำ นายกัปกัลป์ รับว่ายาไอซ์เป็นของตนเอง และรับว่าตนเสพยาไอซ์จริง สอบถาม นายกัปกัลป์ ได้ซื้อยาไอซ์ในราคากรัมละ 1,800 บาท จำนวน 2 ถุง มาจากชายต่างชาติในสถานบันเทิงย่านอาซีเอ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นตัว นายกัปกัลป์ พบธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 2 ฉบับ ฉบับละ 500 บาท จำนวน 1 ฉบับ และพบเงินต่างประเทศสกุลยูโร ฉบับละ 100 ยูโร จำนวน 5 ฉบับ พบอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหน้าซ้ายตัวที่ นายกัปกัลป์ สวมใส่อยู่ โดยนายกัปกัลป์ รับว่าทั้งหมดเป็นธนบัตรปลอมและตัวเองทราบมาก่อนแล้วว่าเป็นธนบัตรปลอม ซึ่งได้มาจากชายต่างชาติในย่านอาร์ซีเอและตัวเองได้ใช้เงินยูโร เป็นเงินค่าจ้างให้กับหญิงที่ตัวเองว่าจ้างมาเอ็นเตอร์เทนไปแล้ว โดยใช้ธนบัตรปลอมเป็นจำนวนเงิน 300 ยูโร เจ้าหน้าตำรวจจึงได้ยึดของกลางทั้งหมดและได้แจ้งข้อกล่าวหา
นายกัปกัลป์ สมัครใจตรวจปัสสาวะเบื้องต้น จากการตรวจยาเสพติด ด้วยชุดตรวจ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ONCB 051 MARQUIS REAGENT ผลการตรวจพบเป็นบวก พบสารเสพติดเมทแอมเฟตามีน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัว นายกัปกัลป์ฯ ส่งตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ผลการตรวจพบเป็นบวก พบสารเสพติดเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบและเข้าใจดีแล้ว จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาทำการตรวจนับและบันทึกจับกุม ที่ กก.สส.บก.น.5 เพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถามนายโซ รับสารภาพว่า ตอนเคยไปดวลเหล้ากับนักท่องเที่ยวชาวจีนที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านอาร์ซีเอ โดยกลุ่มชาวจีนได้ทำตัวอวดรวย โดยการใช้ธนบัตรต่างประเทศปลอมพันแก้วเหล้า เมื่อใครดื่มก็จะได้เงินจำนวนนั้นไปตนก็ได้ไปดื่ม เพื่อเอาเงินดังกล่าว ที่ชาวจีนแจก แต่มาทราบภายหลังว่าธนบัตรดังกล่าวเป็นธนบัตรปลอม จากนั้นตนได้เก็บธนบัตรปลอมนี้ไว้ และได้นำมาเป็นตัวอย่าง ในการปลอมธนบัตร โดยเริ่มจากการเสิร์ชข้อมูลใน แชทจีพีที ว่าธนบัตรมีกระดาษอะไรที่ใกล้เคียงกับธนบัตรของจริงจึงไปพบว่าเป็นกระดาษฝ้ายที่มีลักษณะใกล้เคียง ตนจึงได้สั่งกระดาษฝ้ายมาและทำการลองปริ้นที่ตู้ถ่ายเอกสารรุ่นเก่า เป็นแบบหยอดเหรียญ เพราะเนื่องจากว่าเครื่องถ่ายเอกสารรุ่นใหม่ไม่สามารถปริ้นธนบัตรได้ แต่เมื่อทำสำเร็จธนบัตรก็ไม่เหมือน จึงใช้วิธีการพับแบงค์ในการจ่ายเงินให้


