ผบ.ตร.ประชุมบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำชับเข้ม 8 ข้อ ดูแลประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ รุกปราบสแกมเมอร์ ต่างด้าวผิดกฎหมาย ย้ำแนวทางแต่งตั้งวาระ 68 ยึดกฎหมายและข้อวินิจฉัยก.พ.ค.ตร. พัฒนางานสอบสวนเร่งด่วน
วันนี้ (7 พ.ย.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กำชับในที่ประชุมบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2568 ซึ่งมี รอง ผบ.ตร., จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.), ผู้ช่วย ผบ.ตร., รอง จตช., ผู้บัญชาการหน่วยต่าง ๆ ร่วมประชุม ณ ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย ผบ.ตร.ย้ำนโยบายเร่งด่วนและนโยบายสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กำชับให้ทุกหน่วยป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างเด็ดขาด เนื่องจากรัฐบาลประกาศเป็นวาระแห่งชาติ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจในการปฏิบัติร่วมกันหน่วยงานอื่น เพื่อการปราบปรามอาชญากรออนไลน์ หรือสแกมเมอร์ ให้ประสบผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ
ผบ.ตร.มีข้อสั่งการและกำชับ 8 ข้อ ในการขับเคลื่อนภารกิจการดูแลความสงบเรียบร้อย บริการประชาชนที่เข้าถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง, การปราบปรามอาชญากรรมเชิงรุก, การพัฒนางานสอบสวน, การแต่งตั้งตำรวจ วาระปี 2568 รวมถึงการดูแลสวัสดิการตำรวจและครอบครัว ฯลฯ ดังนี้
1 .ให้ข้าราชการตำรวจทุกนายที่ร่วมปฏิบัติภารกิจในการดูแลความสงบเรียบร้อย และรักษาความปลอดภัยในกรณีที่ประชาชนจะเดินทางเข้าถวายสักการะพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป ให้ปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย และให้ความช่วยเหลือ ดูแลประชาชนด้วยความเป็นมิตร
2. ให้คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายการบริหารราชการ ผบ.ตร. ประจำปีงบประมาณ 2569 กำหนดกรอบการติดตาม และขับเคลื่อน นโยบาย "6 เร่งรัด" อาทิ ขับเคลื่อนส่งเสริมโครงการพระราชดำริ พัฒนางานสอบสวน กวดขันเสริมสร้างวินัยจราจร ปรับปรุงสวัสดิการตำรวจและครอบครัว ฯลฯ ให้เห็นความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม แล้วรายงานทุก 3 เดือน
3. ให้ศูนย์พัฒนางานสอบสวน ตามคำสั่ง ตร.ที่ 458/2568 รวบรวมติดตามประเด็นจากคณะกรรมการ คณะทำงานที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุง พัฒนางานสอบสวน ที่มีอยู่หลายคณะ เพื่อนำข้อสังเกตมาปรับปรุง เสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการ กำหนดไทม์ไลน์ เป็นระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว
4. ให้ศูนย์อำนวยการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) เป็นกลไกหลักของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการขับเคลื่อนงาน โดยกำหนดแผน มาตรการ ให้ทุกหน่วยปฏิบัติ ในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่รัฐบาลกำหนดเป็น "วาระแห่งชาติ" โดยรายงานให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและรัฐบาล ทุก 7 วัน และ 1 เดือน อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกภาคส่วนทราบว่า “ตำรวจไทย แก้ไขปัญหา สแกมเมอร์และคอลเซ็นเตอร์ อย่างจริงจัง ต่อเนื่อง"
5. ให้ศูนย์อาชญากรรมพิเศษ จัดทีมรวบรวมผลการปฏิบัติงานของแต่ละศูนย์ฯ ที่สามารถนำไปใช้ในการกำหนด ทิศทางการทำงานของศูนย์และรายงานผลการปฏิบัติงาน ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทราบ ทุก 7 วัน
6. ให้ศูนย์อำนวยการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปชก.ตร.) เป็นเจ้าภาพหลักในการขับเคลื่อนงานแก้ไขปัญหาบุคคลต่างด้าวทำผิดกฎหมาย กำหนดแผนให้ทุกหน่วยบูรณาการกำลังในการปฏิบัติร่วมกัน พร้อมรายงานผลการปฏิบัติทุก 7 วัน และ 1 เดือน
7. การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจในวาระประจำปี 2568 ให้หัวหน้าหน่วยซึ่งเป็นผู้มีอำนาจสั่งแต่งตั้ง ดำเนินการให้เป็นไปตามแนวทางที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการไว้ รวมถึงให้ปฏิบัติตามขั้นตอนในการพิจารณาให้ถูกต้อง ตามกฎหมาย และแนวทางที่คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ได้เคยวินิจฉัยในประเด็นต่าง ๆ ไว้ อย่างเคร่งครัด
8. ให้เร่งรัดการพิจารณาให้ความช่วยเหลือข้าราชการตำรวจและหน่วยงานตำรวจที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม และสาธารณภัยอื่น ๆ โดยเร็ว


