xs
xsm
sm
md
lg

โฆษกศาลขี้เเจง ศาลชุมพรจำคุกสาวเมาซิ่งบีเอ็มฯ ชน 3 แม่ลูกดับ เเค่ 4 ปี 7 เดือน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรมชี้แจงคดีสาวเมาขับรถชนคนตาย
โฆษกศาลยุติธรรมขี้เเจง สาวเมาขับรถบีเอ็มฯ ชนตาย 3 ศพโดนจำคุกเค่ 4 ปี 7 เดือน ระบุศาลจังหวัดชุมพรลงโทษเกินกึ่งหนึ่งแล้ว เเต่เพราะจำเลยรับสารภาพจึงเป็นเหตุลดโทษ แม้จะบรรเทาผลร้าย  ก็ไม่รอลงอาญา

วันนี้ (5 พ.ย.) นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม ได้เปิดเผย ประเด็นศาลจังหวัดชุมพรมีคำพิพากษาสั่งจำคุก 4 ปี 7 เดือน โดยไม่รอลงอาญา หญิงสาววัย 30 ปี เมาขับรถยนต์หรู BMW พุ่งชนแม่ลูก 3 คนเสียชีวิต ซึ่งมีการวิพากวิจารณ์ถึงการลงโทษของศาลว่าเบาไปหรือไม่ว่า จากการประสานข้อมูลจากศาลจังหวัดชุมพร ขอสรุปข้อเท็จจริงคดีรถบีเอ็ม ชนรถจักรยานยนต์ 3 แม่ลูก ดังนี้

1. คดีนี้พนักงานอัยการเป็นโจทก์ โดยมีสามีและบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตายทั้งสามเป็นโจทก์ร่วม โจทก์ร่วมเรียกค่าเสียหายรวมเป็นเงิน 24,205,000 บาท

2. จำเลยและผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์ร่วม ตกลงกันทำสัญญาประนีประนอมยอมความชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งจำเลยจะเยียวยาค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจำนวน 5,500,000 บาท โดยเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ชำระแล้วจำนวน 300,000 บาท และเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2568 ชำระอีกจำนวน 200,000 บาท ส่วนที่เหลืออีกจำนวน 5 ล้านบาทจะผ่อนชำระให้ไม่น้อยกว่าเดือนละ 30,000 บาทเข้าบัญชีธนาคารของโจทก์ร่วม

3. คดีนี้ เดิมจำเลยให้การปฏิเสธบางข้อหาโดยอ้างว่าผู้ตายมีส่วนประมาทร่วม ต่อมาถอนคำให้การเดิมและให้การใหม่เป็นรับสารภาพตามฟ้องของโจทก์

4. หลังเกิดเหตุบริษัทฟอลคอลประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยรถยนต์ที่จำเลยขับ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ร่วมแล้ว 4,500,000 บาท

5. คดีนี้ศาลจังหวัดชุมพร สั่งให้พนักงานคุมประพฤติกระทรวงยุติธรรม สืบเสาะและพินิจจำเลย (คือกระบวนการสืบค้นข้อมูลส่วนตัวของจำเลย เช่น ประวัติด้านต่างๆ รวมถึงประวัติด้านการศึกษา อาชีพ การประทำความผิด พฤติกรรมส่วนตัว การชดใช้เยียวยา ซึ่งจะสอบข้อมูลจากผู้เสียหายด้วย) เพื่อนำมาประกอบการทำคำพิพากษา

6. ศาลจังหวัดชุมพรมีคำพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (2)(4) (8), 43 ทวิ วรรคหนึ่ง, 78 วรรคหนึ่ง, 157, 157/1 วรรคสองและวรรคห้า, 158/1 วรรคสอง, 160 วรรคหนึ่ง, 160 ตรี วรรคสี่ พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 42 วรรคหนึ่ง, 64 ประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา 104, 162


การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน, ฐานเป็นผู้ขับขี่เสพเมทแอมเฟตามีนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ฐานขับรถโดยประมาท, ฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ฐานขับรถในลักษณะที่ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตหรือร่างกายของผู้อื่น, ฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 แต่ความผิดฐานเป็นผู้ขับขี่เสพเมทแอมเฟตามีนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายเป็นบทหนักมีอัตราโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือ ของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 6 ปี โดยให้เพิ่มโทษกึ่งหนึ่งตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 160 ตรี/2 วรรคสองด้วย เป็นจำคุก 9 ปี, ฐานขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแล้วไม่หยุดให้ความช่วยเหลือและแจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ให้จำคุก 2 เดือน, ฐานขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถ ให้ปรับ 1,000 บาท

จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กระทงละกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คงจำคุก 4 ปี 6 เดือน, ฐานขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแล้วไม่หยุดให้ความช่วยเหลือและแจ้งเหตุต่อเจ้าพนักงานตำรวจคงจำคุก 1 เดือน, ฐานขับรถโดยไม่ได้รับใบอนุญาตคงปรับ 500 บาท รวมจำคุก 4 ปี 7 เดือน และปรับ 500 บาท


พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีประกอบรายงานการสืบเสาะและพินิจจำเลยแล้วเห็นว่าภายหลังเกิดเหตุจำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ร่วมแล้วเป็นเงิน 650,000 บาท แม้เป็นจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับความเสียหายที่โจทก์ร่วมได้รับ แต่การที่จำเลยตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ร่วม 5,500,000 บาท ถือได้ว่าจำเลยได้พยายามบรรเทาความเสียหายให้แก่โจทก์ร่วม ซึ่งนับเป็นการรู้สำนึกในการกระทำผิด จึงได้นำมาประกอบการกำหนดโทษจำเลยให้เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว

แต่การที่จำเลยขับรถด้วยความประมาท ใช้ความเร็วสูง ทั้งเป็นการขับในขณะเมาสุรากับมีสารเสพติดเมทแอมเฟตามีนอยู่ในร่างกาย อันเป็นการขาดสำนึกและขาดความรับผิดชอบต่อผู้ร่วมใช้ถนน จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตทำให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตายถึง 3 คน ภายหลังเกิดเหตุจำเลยยังหลบหนีไม่หยุดให้การช่วยเหลือพร้อมทั้งแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียง พฤติการณ์แห่งคดีนับเป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่มีเหตุรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลย ริบของกลางคือรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูหมายเลขทะเบียน กจ 44 ศรีนครศรีธรรมราช

7. อนึ่ง ฐานขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 ทวิ วรรคหนึ่ง, 157/1 วรรคห้า กฎหมายกำหนดอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี

8. ภายหลังจากอ่านคำพิพากษาแล้ว เนื่องจากศาลลงโทษจำคุกโดยไม่รอการลงโทษ จำเลยจึงใช้สิทธิยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ ซึ่งสอบถามโจทก์ร่วมแล้วไม่คัดค้านการขอให้ปล่อยชั่วคราวของจำเลย ศาลจังหวัดชุมพรจึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวได้ โดยให้ติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับติดตามตัว (EM) กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ หากมีการเปลี่ยนหรือย้ายที่อยู่อาศัยต้องแจ้งให้ศาลทราบ และให้เรียกหลักประกันวงเงิน 150,000 บาท เมื่อมีการติดอุปกรณ์ EM และวางเงินตามจำนวนที่ศาลกำหนดแล้ว จำเลยจึงได้รับการปล่อยชั่วคราวไปในวันนี้เพื่อใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อไป ซึ่งการอุทธรณ์นั้นมิได้เป็นสิทธิเฉพาะในส่วนของจำเลยอย่างเดียว หากโจทก์หรือโจทก์ร่วมยังไม่เห็นด้วยกับผลคำพิพากษาก็สามารถใช้สิทธิอุทธรณ์ได้เช่นเดียวกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น