"สนธิญา" ร้อง "บิ๊กเต่า" ตรวจสอบเงินบริจาคกว่า 200 ล้านบาทของมูลนิธิ "กันจอมพลังช่วยสู้" -โควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล 2 แสนใบต่องวด ชี้หากพบผิดให้ดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่เลือกปฏิบัติ
วันนี้ (3 พ.ย. ) ที่ บริเวณด้านหน้าแดนเนรมิตเก่า ถนนพหลโยธิน นายสนธิญา สวัสดี เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินงานของ "มูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้" ซึ่งมี นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง เป็นผู้ก่อตั้งและเกี่ยวข้องในฐานะกรรมการบริหารหรือประธานมูลนิธิ
นายสนธิญา กล่าวว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางตรวจสอบความถูกต้องของการดำเนินงานในทุกมิติ ทั้งการรับเงินบริจาค การใช้เงินภายในองค์กร และการได้รับสลากกินแบ่งรัฐบาลในลักษณะโควตาจำนวนมาก ซึ่งเป็นประเด็นที่สังคมกำลังตั้งคำถาม โดยเฉพาะกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ ได้รับ โควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลกว่า 200,000 ใบต่อหนึ่งงวด ซึ่งถือเป็นจำนวนสูงผิดปกติ เมื่อเทียบกับผู้ค้ารายย่อยทั่วไปที่ได้รับไม่เกิน 2,000 ใบต่อราย จึงต้องตรวจสอบว่ามีการอนุมัติจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลตามขั้นตอนหรือไม่ และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของระเบียบราชการหรือไม่
นายสนธิญา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบเรื่อง แหล่งที่มาของเงินบริจาคกว่า 200 ล้านบาท ที่ประชาชนทั่วประเทศมอบให้มูลนิธิ ว่ามีการบริหารจัดการและรายงานต่อกระทรวงมหาดไทยตามระเบียบว่าด้วยการจัดตั้งมูลนิธิ พ.ศ. 2545 หรือไม่ เพราะกฎหมายกำหนดให้ทุกมูลนิธิต้องรายงานผลการดำเนินงาน รายรับ–รายจ่ายต่อ นายทะเบียนมูลนิธิทุกเดือนมีนาคมของปีถัดไป หากมูลนิธินี้ไม่ส่งรายงานหรือไม่มีเอกสารยืนยันการบริหารที่โปร่งใส ย่อมเข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมาย และต้องถูกตรวจสอบเช่นเดียวกับทุกกรณีที่ผ่านมา
นายสนธิญา ยังกล่าวพาดพิงถึงคดีของ ทนายตั้ม และ พระอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ว่า ทั้งสองกรณีถือเป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนว่า ไม่ว่าผู้ใดจะมีชื่อเสียงหรือทำคุณงามความดีเพียงใด หากดำเนินการผิดกฎหมายก็ต้องรับผิดเช่นเดียวกัน ดังนั้น กัน จอมพลัง ซึ่งเคยระบุว่าไม่ได้มีตำแหน่งในมูลนิธิ แต่จากข้อมูลที่ตรวจสอบพบว่าเป็น กรรมการหรือประธานมูลนิธิตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ถือเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องชี้แจงให้ชัดเจน
"รู้สึกไม่สบายใจกับความไม่ชัดเจนในการให้ข้อมูลของ กัน จอมพลัง เพราะก่อนหน้านี้ระบุว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับมูลนิธิ แต่จากเอกสารกลับปรากฏชื่อเป็นผู้บริหาร ซึ่งสร้างความสับสนให้กับประชาชนที่ร่วมบริจาคเงินสนับสนุนกว่า 200 ล้านบาท ถ้ากัน จอมพลัง ยอมรับแต่แรกว่ามีตำแหน่งเป็นกรรมการหรือประธานมูลนิธิ ก็ไม่มีปัญหา แต่เมื่อข้อมูลไม่ตรงกัน จึงต้องให้หน่วยงานรัฐเข้าตรวจสอบ เพื่อป้องกันการบิดเบือนและสร้างความเชื่อมั่นให้สังคม"นายสนธิญา กล่าว
นายสนธิญา กล่าวด้วยว่าในส่วนของประเด็น โควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล 200,000 ใบต่องวดนั้น ได้รับการร้องเรียนจากผู้ค้าหวยรายย่อยหลายจังหวัด ทั้งจังหวัดเลย สมุทรสาคร และนครศรีธรรมราช ว่าขอรับสลากเพียง 2,000 ใบก็ยังไม่ได้ แต่กลับมีข่าวว่ามูลนิธิกันจอมพลังได้รับจำนวนมหาศาล ซึ่งไม่สอดคล้องกับระเบียบของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล
นายสนธิญา อ้างอิงถึงคำสั่งของ พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ที่ระบุชัดว่า ผู้ที่จะรับช่วงโควตาสลากได้ ต้องเป็นผู้สืบสันดานหรือมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกับผู้ถือสิทธิ์เดิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1629 จึงตั้งคำถามว่า กัน จอมพลัง มีความเกี่ยวพันเป็นญาติพี่น้องกับใครในกองสลากหรือไม่ เพราะตามระเบียบแล้วจะมอบโควตาให้กับบุคคลทั่วไปโดยไม่มีสายสัมพันธ์ทางกฎหมายไม่ได้
นายสนธิญา กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 5 พ.ย.ที่จะถึงนี้ ตนจะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นดังกล่าว หากไม่สามารถชี้แจงได้ ก็จะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมถึงยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อให้ตรวจสอบระบบการจัดสรรโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลทั้งหมด
นอกจากนี้ นายสนธิญา ยังเปิดเผยว่า ตามข้อบังคับของมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ มีการระบุไว้ว่า หากมูลนิธิถูกยกเลิก ทรัพย์สินทั้งหมดจะตกเป็นของ “มูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า” ซึ่งเป็นอีกประเด็นที่ต้องตรวจสอบว่าเป็นไปตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาคหรือไม่ หากประชาชนรู้ตั้งแต่ต้นว่าเมื่อมูลนิธิถูกยกเลิก ทรัพย์สินทั้งหมดจะตกไปเป็นของมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า พวกเขาจะยังร่วมบริจาคหรือไม่ เรื่องนี้ต้องโปร่งใส เพราะเงินกว่า 200 ล้านบาทนั้นเป็นเงินของประชาชน พร้อมยืนยันว่า ตนไม่ได้มีความขัดแย้งส่วนตัวกับ กัน จอมพลัง และมองว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ที่ตั้งใจทำงานเพื่อสังคม แต่เมื่อมีข้อสงสัยเกิดขึ้น ก็ต้องเปิดให้ตรวจสอบได้อย่างเท่าเทียม
"ผมก็เคยถูกตรวจสอบมาตลอด ไม่เคยมีปัญหา เพราะหากทำถูกต้องก็ไม่มีอะไรต้องกลัว คนที่ทำงานเพื่อสังคมต้องพร้อมถูกตรวจสอบเสมอ" นายสนธิญากล่าว
นายสนธิญา ระบุเพิ่มเติมว่า ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่า กัน จอมพลัง ได้รับโควตาสลากจริงหรือไม่ จึงจำเป็นต้องให้ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ ออกมาชี้แจงต่อสาธารณะ และหากไม่สามารถตอบคำถามได้อย่างโปร่งใส ก็ควรแสดงความรับผิดชอบทางตำแหน่ง สิ่งที่ตนทำวันนี้ ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อประชาชนผู้ค้าหวยรายย่อยที่ต้องการโอกาสเท่าเทียม คนรวยไม่ควรได้สิทธิพิเศษมากกว่าคนจน
                    

