MGR Online - เลขาธิการ ปปง. ยึดอายัดทรัพย์สิน เครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติโยง "ลี ยงพัด" กับพวก เพิ่มเติม 350 ล้านบาท รวม 4 ครั้ง ยอดทะลุ 650 ล้านบาท
วันนี้ (31 ต.ค) นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. และโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. แถลงว่า ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เสนอคณะรัฐมนตรีกำหนดให้เรื่องการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็น “วาระแห่งชาติ” และได้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีขึ้น โดยมี พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานอนุกรรมการด้านการปราบปราม และ นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานอนุกรรมการด้านการป้องกัน นั้น
สืบเนื่องจากการสืบสวนขยายผลและบูรณาการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามนโยบายของรัฐบาล ในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับขบวนการสแกมเมอร์ที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งผู้กระทำความผิดมีพฤติการณ์ใช้โทรศัพท์หลอกลวงประชาชน (แก๊ง Call Center) นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. ในฐานะกรรมการ และอนุกรรมการในคณะกรรมการดังกล่าว ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 48 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 สั่งยึดและอายัดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (เพิ่มเติม) ในรายคดีกลุ่มบุคคลที่ใช้โทรศัพท์หลอกลวงประชาชน รายนายทวีศักดิ์ฯ กับพวก ประเภทห้องชุด ที่ดิน และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร จำนวน 11 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 350 ล้านบาท (คำสั่ง ย.270/2568)
กรณีดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากการสืบสวนขยายผลตามนโยบายของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี โดยพบข้อมูลการหลอกลวงผู้เสียหายมีความเชื่อมโยงกันหลายคดี มีข้อมูลเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับบุคคลสัญชาติจีนที่ถือหนังสือเดินทางกัมพูชา และพบเงินในบัญชีเงินฝากจำนวนมาก รวมถึงมีธุรกรรมทางการเงินเชื่อมโยง นายพัด สุภาภา หรือ ลี ยงพัด กับพวก และครอบครัว ซึ่งเป็นบุคคลที่ทางการไทยได้ถอนสัญชาติไปแล้ว
ทั้งนี้ รายคดีดังกล่าวได้มีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินมาแล้ว จำนวน 4 ครั้ง รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ดำเนินการแล้วประมาณ 300 ล้านบาท ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 ซึ่งศาลแพ่งได้มีคำสั่งให้นำทรัพย์สินทั้งหมดไปคืนหรือชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหาย จำนวน 559 ราย ปัจจุบัน สำนักงาน ปปง. อยู่ระหว่างดำเนินการคืนทรัพย์สินให้กับผู้เสียหาย
ในการนี้ สำนักงาน ปปง. อยู่ระหว่างพิจารณาเพื่อกล่าวโทษนายทวีศักดิ์ฯ กับพวก ในความผิดอาญาฐานฟอกเงิน พร้อมทั้งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องในการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย เพื่อนำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามที่ได้มีคำสั่งยึดและอายัดข้างต้น ไปคืนหรือชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหายต่อไป
 
                    

