อัยการอาญาตลิ่งชัน ยื่นฟ้อง“มงคล”อัยการเก๊ ข้อหาผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ -เเต่งเป็นอัยการโดยไม่มีสิทธิ เผยเคยเเต่งหลอก รอง ปธ.ศาลอุทธรณ์ งานกฐินพระราชทาน เจ้าตัวสู้ประเด็นเขตอำนาจ ศาลนัดไต่สวน 4 พ.ย.นี้
วันนี้ (30 ต.ค.) ที่ศาลอาญาตลิ่งชัน ถนนเลียบทางรถไฟ อัยการสำนักงานอาญาตลิ่งชัน 2 ได้นำตัว นายมงคล ปรีสุขเกษม มายื่นฟ้องต่อศาล ความผิด โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือ
ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, สวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน สำนักงานอัยการสูงสุดโดยไม่มีสิทธิ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ
คำฟ้องสรุปว่า จำเลยได้ทราบระเบียบคณะกรรมการอัยการดังกล่าว โดยจำเลยไม่ได้เป็นข้าข้าราชการฝ่ายอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 6 ส.ค.2566 จำเลยสวมเครื่องแบบข้าราชการ อัยการ แบบพิธีการเครื่องแบบปกติขาว โดยประดับเครื่องหมายอินทรธนูมีลายปักดิ้นสีทองลายช่อชัยพฤกษ์ 9 ช่อมีรูปพระไพศรพณ์ทำด้วยโลหะสีทองประทับอยู่บนอินทรธนู ซึ่งเป็นเครื่องแบบพิธีการข้าราชการอัยการ ตั้งแต่ตำแหน่งอัยการประจำกองหรืออัยการจังหวัดผู้ช่วยขึ้นไป และประดับใช้เครื่องหมายแสดงสังกัดรูปพระมหาพิชัยมงกฎประดิษฐานเหนือพระแว่น สุริยกานต์ และตราชรูปพระชรรค์รองรับด้วยช่อชัยพฤกษ์อันเป็นเครื่องแบบอัยการ ของสำนักงานอัยการ สูงสุดตามโดยไม่ได้รับอนุญาตจ โดยไม่มีสิทธิสวมเครื่องแบบและประดับใช้เครื่องหมาย เพื่อให้พระสงฆ์ และบุคคลอื่นผู้ร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ ที่วัดใหม่ปืนเกลียว อ.เมืองนครปฐม จ.นครปรปฐม เชื่อว่าตนมีสิทธิสวมเครื่องแบบ อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จำเลยได้นำภาพถ่าย ซึ่งสวมเครื่องแบบอัยการซึ่งเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ในระบบอินเทอร์เน็ต ผ่านทางแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก (www.facebook.com) ชื่อบัญชี "Monako) Preesukasem" ซึ่งเป็นเครือข่ายการสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูลทางระบบคอมพิวเตอร์ (Intemet) โดยตั้งค่าให้สมาชิกที่เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊กของจำเลยเข้าถึงได้ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ที่พบเห็นภาพถ่ายเข้าใจผิดว่าจำเลยเป็นข้าราชการฝ่ายอัยการ และมีสิทธิสวมเครื่องแบบและประดับใช้เครื่องหมาย โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่สำนักงานอัยการสูงสุดนอกจากนี้จำเลยยังกระทำความผิดอีกหลายกรรมอาทิเช่น
เมื่อวันที่ 7 ก.ย.2566 จำเลยนำเข้า ภาพถ่ายของจำเลยติดบนบัตร พล.ปตอ.เลขบัตรที่ 01 ซึ่งสวมเครื่องแบบอัยการ แบบพิธีการเครื่องแบปกติขาว เเละนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยโพสต์ลงเฟซบุ๊ก
วันที่ 9 ก.ย.จำเลยสวมเครื่องแบบ
อัยการเครื่องแบบปกติขาวเพื่อให้บุคคลอื่นผู้ร่วมงานศพวัดโสมนัสราชวรวิหาร เชื่อว่ามีสิทธิสวมเครื่องแบบอัยการ เเละยังนำเข้าภาพถ่ายโพสต์ทางเฟซบุ๊ก
วันที่ 13 ต.ค.จำเลยสวมเครื่องแบบอัยการ เพื่อให้พระสงฆ์ และบุคคลอื่นผู้ร่วมงานพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระระราชกุศลเนื่องในวันนวมินทรมหาราช 13 ต.ค.2566 บริเวณลานหน้าพระร่วงโรจนฤทธิ์ ตำบลพระปฐมเจดีย์ เเละโพสต์เฟซบุ๊ก
เมื่อวันที่15 พ.ย.จำเลยได้สวมเครื่องเเบบอัยการเพื่อให้รองประธานศาลอุทธรณ์ และบุคคคลอื่นผู้ร่วมงานพิธีถวาย ผ้าพระกฐินพระราชทาน วัดมหาพฤฒาราม ซึ่งศาลอุทธรณ์เป็นเจ้าภาพ เชื่อว่ามีสิทธิสวมเครื่องแบบอัยการ เเละนำโพสต์ลงเฟซบุ๊กเเละจำเลยยังมีการกระทำลักษณะนี้อีกหลายครั้ง
ต่อมาวันที่ 25 ก.ค.เจ้าพนักงานจับจำเลยได้ตามหมายจับนำตัวส่งพนักงานสอบสวน เเละยึดของกลางไว้ทำการสอบสวน ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ
อัยการโจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลหากจำเลยขอปล่อยตัวชั่วคราว ขอให้อยู่ในดุลพินิจศาลศาลประทับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำ 2720/2568
โดยในชั้นพิจารณาจำเลยไม่ให้การ โดยอ้างว่า ขณะกระทำความผิดจำเลยอยู่ในสังกัดของทหาร คดีจึงอยู่ในอำนาจของศาลทหาร
ศาลนัดไต่สวนคำร้องเขตอำนาจศาลในวันที่ 4 พ.ย.เวลา 09.00 น.
ภายหลังจำเลยยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขออนุญาตปล่อยชั่วคราวศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวตีราคาประกัน 15,000 บาท ก่อนเดินทางกลับทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับนายมงคลยังมีคดีกระทำผิดเช่นเดียวกันอีก 2 สำนวน ในพื้นที่สน. ปากเกร็ดและสน. สำราญราษฎร์


