ศาลอาญาจำคุก'ใบปอ" ทะลุวัง 3 ปี ร่วมกิจกรรมทำโพลเกี่ยวกับสถาบันเบื้องสูง ที่สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต ปี 65 แต่ยังเป็นนักศึกษา บริจาคอวัยวะให้สภากาชาดไทย ทำประโยชน์ให้สังคม ลดโทษ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ล่าสุดได้ประกันตัวระหว่างอุทธรณ์วงเงิน 1 แสนบาท
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (28 ต.ค.) ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ที่ห้องพิจารณาคดี 802 ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำอ.1788/2565 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา8 เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ หรือใบปอ น.ส.สุพิชฌาย์ ชัยลอม หรือเมนู (หลบหนีและศาลออกหมายจับ) และน.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง (เสียชีวิต) แกนนำกลุ่มทะลุวัง เป็นจำเลยที่ 1-3 ตามลำดับในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
จากกรณี เมื่อวันที่ 18 เม.ย.2565 พวกจำเลยร่วมกันทำโพลสอบถามความคิดเห็นประชาชนว่า “เห็นด้วยหรือไม่ที่รัฐบาลให้กษัตริย์ใช้อำนาจตามพระราชอัธยาศัย” ที่บริเวณสถานีรถไฟฟ้าหมอชิตจนถึงสนามเป้า ถนนพหลโยธิน กทม.
พวกจำเลยให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัว
ซึ่งในวันนี้มีเพียงน.ส.ณัฐนิช จำเลยที่ 1 เพียงคนเดียวที่เดินทางเข้ามาฟังคำพิพากษา พร้อมทนายความ เพื่อนและกลุ่มผู้สนับสนุนเดินทางมารวมฟังคำพิพากษาและให้กำลังใจ
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้ว ฝ่ายพยานโจทก์มีเจ้าพนักงานตำรวจสืบสวนจากหลายพื้นที่ในความรับผิดชอบ 7 ปากเบิกความสอดคล้องต้องกันว่าแม้ว่าจะไม่ทราบว่าใครเป็นผู้โพสต์ข้อความเชิญชวนในเพจทะลุวังให้ประชาชนออกมาร่วมชุมนุมและแสดงความคิดเห็นตามสถานีรถไฟฟ้าเกี่ยวกับอำนาจของสถาบัน ตามที่จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ใช่ผู้ดูแลเพจดังกล่าวและโพสต์ข้อความ แต่ยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับพวกที่เดินทางไปทำกิจกรรมและสอบถามความคิดเห็นของประชาชนกับกลุ่มทะลุวัง โดยมีสติ๊กเกอร์แจกให้กับประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมนำไปติดใต้ข้อความเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย เกี่ยวกับการใช้อำนาจของสถาบัน การกระทำของจำเลยมีเจตนาเพื่อเข้าไปมีส่วนร่วมกับกิจกรรมซึ่งย่อมเล็งเห็นผลกับพวกที่เข้าร่วมกิจกรรมตั้งข้อสงสัยกับการใช้อำนาจ
พยานโจทก์มีน้ำหนักน่าเชื่อถือรับฟังได้ว่าน.ส.ณัฐนิช จำเลยที่ 1 กระทำผิดตามฟ้อง ส่วนคำเบิกความของจำเลยไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ เห็นว่า จำเลยที่ 1 กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ประกอบมาตรา 83 ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ พิพากษาจำคุก 3 ปี
แต่อย่างไรก็ตามขณะเกิดเหตุ น.ส.ณัฐนิช จำเลยที่ 1 มีอายุน้อย ยังเป็นนักศึกษา ทำประโยชน์ช่วยเหลือสังคมโดยเป็นจิตอาสา สอนหนังสือให้ผู้พิการทางสายตา และบริจาคดวงตาและร่างกายให้กับสภากาชาดไทย เห็นสมควรลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลย 2 ปี ไม่รอลงอาญา
ภายหลังนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความทนายความของจำเลยได้เตรียมยื่นคำร้องและหลักทรัพย์เดิมจำนวน 1 หมื่นบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี
ศาลอาญาพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกัน โดยไม่มีเงื่อนไขแต่อย่างใด โดยน.ส.ณัฐนิช หรือใบปอ มีสีหน้าดีใจยิ้มแย้มและเดินทางกลับทันที


