"ศาลยุติธรรม"สานต่อ"โครงการเยาวชนไทยหัวใจเดียวกัน"เปิดรับสมัครรุ่นที่ 10 มุ่งส่งเสริมให้เยาวชนชายแดนใต้ นำความรู้พัฒนาประเทศชาติอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ (27 ต.ค.) นายธีรทัย เจริญวงศ์ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า จังหวัดชายแดนใต้ เป็นพื้นที่ที่เผชิญกับปัญหาความขัดแย่งทางสังคมและเหตุความไม่สงบที่ยืดเยื้อ ผลักดันให้เด็กและเยาวชนจำนวนมากตกอยู่ในสถานะที่เปราะบาง อาจถูกดึงดูดเข้าสู่วงจรแห่งความรุนแรงหรือถูกชักจูงไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งปัญหาเชิงโครงสร้างที่ฝังรากลึกในพื้นที่ไม่เพียงแต่เป็นต้นตอของความขัดแย้งเท่านั้น แต่ยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ขัดขวางการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และการยกระดับคุณภาพชีวิต การแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนจึงไม่อาจสำเร็จได้ด้วยการพึ่งพาแต่เพียงการใช้กำลังหรือมาตรการด้านความมั่นคง แต่ต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กและเยาวชนผ่านการให้ความรู้ เสริมสร้างรากฐานความเข้มแข็งทางสังคม เพื่อนำพาพื้นที่ชายแดนใต้ก้าวข้ามผ่านความขัดแย้ง
สำนักงานศาลยุติธรรม โดยกองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ ขอเชิญชวนน้อง ๆ อายุระหว่าง 15-18 ปี ที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า ในสถาบันการศึกษา ซึ่งมีที่ตั้งในจังหวัดชายแดนใต้ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ อำเภอจะนะ อำเภอนาทวี อำเภอเทพา และอำเภอสะบ้าย้อย หรือมีภูมิลำเนาในพื้นที่ดังกล่าว สมัครเข้าร่วมโครงการเยาวชนไทย หัวใจเดียวกัน รุ่นที่ 10 โดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์กองสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ สำนักงานศาลยุติธรรมhttps://iprd.coj.go.th และเฟซบุ๊กเยาวชนไทยหัวใจเดียวกัน
นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำสำนักประธานศาลฎีกาและโฆษกศาลยุติธรรม ประธานคณะทำงานดำเนินการโครงการเยาวชนไทยหัวใจเดียวกัน เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าว ฯได้เริ่มดำเนินการครั้งแรกรุ่นที่ 1 ในปี พ.ศ. 2555 เว้นช่วงสถานการณ์โควิด -19 ปัจจุบันได้ก้าวสู่รุ่นที่ 10 แล้ว ซึ่งหลักสูตรเน้นทั้งวิชาการและกิจกรรมจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ครอบคลุมกฎหมายหลากหลายด้าน
อาทิ ความรู้เกี่ยวกับศาลยุติธรรม หลักกฎหมายทั่วไป กฎหมายสำหรับเด็กและเยาวชน การไกล่เกลี่ย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กฎหมายอาญาและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ กฎหมายลิขสิทธิ์ กฎหมายแพ่ง และกฎหมายอิสลามรวมถึงการแนะแนวทางอาชีพนักกฎหมาย นอกจากนี้เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการยังได้มีโอการเดินทางไปทัศนศึกษาณ สถานที่สำคัญ เช่น ศาลฎีกา ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่ดีในชีวิตของพวกเขาอีกด้วย
“ประธานศาลฎีกา ได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ของโครงการนี้ ที่เยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับโดยพิจารณาจากความสำเร็จของรุ่นที่ผ่านมาจึงดำริให้สานต่อโครงการเยาวชนไทย หัวใจเดียวกัน
โดยมุ่งเสริมวัคซีนทางปัญญาให้แก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ วัคซีนนี้มิใช่เพื่อป้องกันโรคทางกายแต่เป็นการสร้างภูมิคุ้มกันทางความคิดและจิตใจที่แข็งแกร่ง เพื่อให้พวกเขาสามารถเติบโตเป็นผู้นำทางสังคมที่มีความพร้อมและสามารถนำความรู้ ประสบการณ์ รวมถึงแรงบันดาลใจที่ได้รับ กลับไปสร้างเครือข่าย พัฒนาชุมชนท้องถิ่นของตนเอง” นายสุริยัณห์ กล่าว
ทั้งนี้ โครงการเยาวชนไทย หัวใจเดียวกัน ตั้งแต่รุ่นที่ 1 ถึงรุ่นที่ 9 มีเยาวชนผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการรวมทั้งสิ้น 1,207 คน ขณะที่มีเยาวชนในพื้นที่ชายแดนใต้แสดงความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการมากกว่า 4,812 คน แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จและการตอบรับที่ดีตลอดมา


