xs
xsm
sm
md
lg

"ดีเอสไอ" ขึ้นตึกซิโน-ไทย สอบผู้ถือหุ้น "บ.ปริ้นซ์ อินเตอร์ฯ" ไขปมเอี่ยวเครือข่าย "เฉิน จื้อ"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - "ดีเอสไอ" เข้าสอบปากคำพยาน 2 ผู้ถือหุ้นชาวไทย บ.ปริ้นซ์ อินเตอร์ฯ หลังมีข้อมูลเชื่อมโยง “เครือข่ายปริ้นซ์ กรุ๊ป - เฉิน จื้อ“ ภายในอาคารซิโน-ไทย

จากกรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เรียกประชุมคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรรมทางเทคโนโลยี มอบหมาย กระทรวงยุติธรรม รับผิดชอบเรื่องปราบปราม โดยให้นโยบาย อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ใช้อำนาจตามกฎหมาย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ สืบสวนบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากพบเป็นความผิดก็มีอำนาจตามกฎหมายที่จะรับเป็นคดีพิเศษ นอกจากนี้ สั่งการ ดีเอสไอ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ บริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ตั้งอยู่ที่ ชั้น 7 อาคารซิโน-ไทยทาวเวอร์ เรื่องการจดทะเบียนต่างๆ ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่าอาจเชื่อมโยงกับเครือข่ายบริษัท ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป (Prince Holding Group) มี นายเฉิน จื้อ หรือ วินเซนต์ ชาวอังกฤษเชื้อสายกัมพูชา วัย 37 ปี ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทฯ ซึ่งถูกทางการสหรัฐกล่าวหาในคดีฉ้อโกงและฟอกเงิน จากการดำเนินศูนย์สแกมเมอร์โดยใช้แรงงานบังคับในประเทศกัมพูชา

วันนี้ (24 ต.ค.) เวลา 09.30 น. ณ อาคารชิโนไทย ทาวเวอร์ เลขที่ 32/28 ถนนสุขุมวิท 21 (ซอยอโศก) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำโดย ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผอ.กองกิจการอำนวยความยุติธรรม โดยกองกิจการยุติธรรม คณะพนักงานสืบสวนเรื่องที่ 134/2568 และ เจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เดินทางเข้าพบผู้ถือหุ้น บริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (Prince International) เพื่อบันทึกการสอบปากคำ และรับมอบพยานเอกสารตามที่ผู้ถือหุ้นประสงค์ให้ความร่วมมือชี้แจงต่อดีเอสไอ

สำหรับกระบวนการสอบปากคำพยานกับผู้ถือหุ้นบริษัท ปรินซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (Prince International) นั้น คณะพนักงานสืบสวน กองกิจการอำนวยความยุติธรรม จะได้สอบปากคำผู้ถือหุ้นชาวไทย 2 ราย ได้แก่ 1.นายปริตวาทย์ กุลศรีสุวรรณ และ 2.นายวุฒิชัย ประทุมวัลย์ ซึ่งจะสอบถามเกี่ยวกับที่มาที่ไปของการประกอบธุรกิจดังกล่าว และที่ผ่านมาผลประกอบการเป็นอย่างไรบ้าง รวมถึงกรณีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับเครือข่ายบริษัท ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป (Prince Holding Group) หรือไม่ อย่างไร และในบรรดาผู้ถือหุ้นทั้งหมดมีใครไปถือหุ้นในบริษัทอื่นหรือไม่ เป็นบริษัทใดบ้าง ซึ่งถ้าหากผู้ถือหุ้นรายใดให้การว่า “ตนเองเกี่ยวข้องกับบริษัท ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป” หรือ “ให้การว่าตนไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป” คณะพนักงานสืบสวนก็จะบันทึกคำให้การไว้ทั้งหมด เพราะบุคคลมีสิทธิ์จะให้การอย่างไรก็ได้ เช่น ถ้าบอกว่า “เคยเกี่ยวข้องกับบริษัท ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป” พนักงานสืบสวนก็จะได้สอบถามต่อว่า “เกี่ยวข้องอย่างไรบ้าง จากธุรกิจใด เกิดขึ้นในห้วงเวลาใดบ้าง และตอนนี้ยังร่วมธุรกิจกันอยู่หรือไม่ ได้ไปเป็นเครือด้วยกันหรือไม่“ เป็นต้น ส่วนถ้าหากผู้ถือหุ้นต้องการมอบพยานเอกสารใดแก่ดีเอสไอเพื่อประกอบคำให้การ ทางดีเอสไอก็ยินดีรับนำไปพิจารณาในสำนวนการสืบสวน

ทั้งนี้ บริษัท ปรินซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 1 ก.ย.65 ทุนปัจจุบัน 2 ล้านบาท ประกอบธุรกิจนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ปรากฏชื่อนาย หวัง ยู่ ถัง สัญชาติจีน (ไต้หวัน) เป็นกรรมการรายเดียว นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด เมื่อวันที่ 30 เม.ย.68 พบว่า นายหวัง ยู่ ถัง ถือหุ้นใหญ่สุด 49% ส่วนผู้ถือหุ้นชาวไทยอีก 3 ราย ได้แก่ นายพิภพ ประทุมวัลย์ ถือหุ้น 21% นายปริตวาทย์ กุลศรีสุวรรณ ถือหุ้น 20% นายวุฒิชัย ประทุมวัลย์ ถือหุ้น 10%

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 8 ก.ย.66 บริษัทมีการแจ้งเพิ่มทุนจดทะเบียนจากเดิมในปี 2565 จำนวน 1 ล้านบาท เพิ่มเป็น 2 ล้านบาท ขณะที่นายหวัง ยู่ ถัง เพิ่งเข้ามาเป็นกรรมการเมื่อวันที่ 5 ก.ย.66 และนายวุฒิชัย ประทุมวัลย์ เข้ามาเป็นกรรมการเมื่อวันที่ 10 เม.ย.67 แต่ปัจจุบัน นายวุฒิชัย ได้ยุติการเป็นกรรมการบริษัทแล้ว เหลือแค่นายหวัง ยู่ ถัง เป็นกรรมการรายเดียว


ขณะเดียวกันวัตถุประสงค์การทำธุรกิจของบริษัทเมื่อปี 2565 ซึ่งปรากฏผ่านงบการเงิน พบว่า บริษัทแห่งนี้ ประกอบกิจการขายสินค้าตามวัตถุที่ประสงค์จากประเทศญี่ปุ่น เช่น เครื่องประดับ เครื่องนุ่งห่ม อาหารแห้ง เสื้อผ้า เป็นต้น แต่ในปี 2566 แจ้งเปลี่ยนเป็นการขายปลีกสินค้าอื่นๆ ในร้านค้าทั่วไป จากนั้นเมื่อวันที่ 13 ส.ค.67 เปลี่ยนเป็นกิจกรรมของตัวแทนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ โดยได้รับค่าตอบแทนหรือตามสัญญาจ้าง กระทั่งวันที่ 15 มิ.ย.68 ได้เปลี่ยนประเภทธุรกิจเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทได้มีการนำส่งงบการเงิน 3 ปีย้อนหลัง ดังนี้

งบการเงินปี 2565 แจ้งมีสินทรัพย์รวม 1,006,266 บาท หนี้สินรวม 44,000 บาท มีรายได้รวม 6,266 บาท รายจ่ายรวม 44,000 บาท ขาดทุนสุทธิ 37,733 บาท

งบการเงินปี 2566 แจ้งมีสินทรัพย์รวม 729,345 บาท หนี้สินรวม 18,888 บาท รายได้รวม 10,000 บาท รายจ่ายรวม 1,261,810 บาท ขาดทุนสุทธิ 1,251,810 บาท

งบการเงินปี 2567 แจ้งมีสินทรัพย์รวม 1,521,851 บาท หนี้สินรวม 5,096,157 บาท รายได้รวม 858,415 บาท รายจ่ายรวม 5,072,286 บาท ขาดทุนสุทธิ 4,284,763 บาท


กำลังโหลดความคิดเห็น