ตร.รวบหนุ่มสมุทรปราการ ตระเวนขโมยหมวกกันน็อค กว่า 50 ใบ โพสต์ขายออนไลน์ อ้างแค้นเคยถูกขโมยหมวกกันน็อก
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 ต.ค. 2568 พ.ต.อ.สิรภพ อนุศิริ ผกก.สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พ.ต.ท.วิวรรรณ์ แก้วพลู รอง ผกก.สส.สภ.บางใหญ่ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.บางใหญ่ ร่วมกันจับกุม นายภาณุวัฒน์ ดวงดี อายุ 32 ปี ชาวจังหวัดสมุทรปราการ หลังนำหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรีที่ ค.86/2568 ลงวันที่ 22 ต.ค. 68 เข้าตรวจค้นบ้านพักภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง พบผู้ต้องหาอาศัยอยู่กับภรรยา
พร้อมของกลางตรวจยึดประกอบด้วย 1. หมวกกันน็อคจำนวนกว่า 50 ใบ อยู่ในบ้านพัก 2.หมวกกันน็อก ยี่ห้อ Space Crown สี น้ำเงิน-แดง-ดำ (ซึ่งสวมใสในขณะก่อเหตุลักทรัพย์) 3.เสื้อผ้าที่ใช้ในการก่อเหตุ 4.ถุงสายรุ้ง 1 ใบ (ใช้ในวันก่อเหตุลักทรัพย์) 5.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ YAMAHA รุ่น FIORE สีม่วง-ขาว หมายเลขแผ่นป้ายทะเบียน 1กข9940 อำนาจเจริญ
พ.ต.อ.สิรภพ เปิดเผยว่า คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 68 มีผู้เสียหายแจ้งความว่าเวลาประมาณ 15.15 น. ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่ ปั๊มน้ำมัน ปตท. เวสต์วิลเลจ บางใหญ่ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ แล้ววางหมวกกันน็อกยี่ห้อ “อารากิ” สีเทา–ดำ–แดง มูลค่าราว 40,000 บาทไว้บนรถ จากนั้นไปเข้าห้องน้ำและดื่มน้ำในร้าน จนกระทั่งเวลา 15.30 น. มีพลเมืองดีเข้ามาแจ้งว่า มีชายไม่ทราบชื่อขี่รถจักรยานยนต์มาจอดข้างรถของผู้เสียหาย ก่อนขโมยหมวกกันน็อกไป
เจ้าหน้าที่จึงเร่งสืบสวนจนพบว่าคนร้ายรายนี้ตระเวนขโมยหมวกกันน็อกตามปั๊มน้ำมันและห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในพื้นที่ สภ.บางใหญ่ ใช้วิธีขับรถจยย.ตระเวน หากพบรถที่แขวนหมวกกันน็อคไว้ก็จะลงมือทันที โดยเตรียมถุงกระสอบสายรุ้งไว้ที่หน้ารถเพื่อนำหมวกที่ขโมยได้ใส่กลับบ้าน ซึ่งเรื่องนี้สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างมาก เพราะแม้บางใบจะราคาไม่แพง แต่ก็เป็นของจำเป็นในการขับขี่ และบางใบมีราคาหลักหมื่น ตำรวจจึงเห็นความเดือนร้อนของประชาชนจึงเร่งติดตามจนสารมารถจับกุมคนร้าย
เบื้องต้นตรวจยึดหมวกกันน็อกได้กว่า 50 ใบ โดยในเฟซบุ๊กของผู้ต้องหายังพบโพสต์ขายหมวกกันน็อกที่ถูกขโมยหลายใบ ผู้ต้องหาอ้างว่าเคยถูกขโมยหมวกเช่นกันและไม่ได้คืน จึงเกิดความแค้นและตัดสินใจก่อเหตุ ทั้งนี้ฝากประชาชนที่เคยถูกขโมยหมวกกันน็อกสามารถมาดูของกลางที่ สภ.บางใหญ่ หากจำได้ให้แจ้งความเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้ต้องหาถูกดำเนินคดีในทุกกรรม ซึ่งแต่ละใบที่ขโมยถือเป็น ต่างกรรมต่างวาระ
นายภาณุวัฒน์ ให้การรับสารภาพว่า ตนขับขี่รถจยย.ตะเวนไปทั่ว เน้นหน้าร้านสะดวกซื้อ เช่นโลตัส หรือบิ๊กซี ถ้าเจอรถจยย.ที่จอดไว้และมีหมวกกันน็อควางอยู่ก็จะลงมือก่อเหตุ อาศัยเลือกใบสวยๆ หรือมียี่ห้อ ถ้าใบไหนล็อคไว้ก็เอาไปไม่ได้ ตนเพิ่งเคยทำแค่ 3-4 ครั้ง ใช้ถุงกระสอบสายรุ้งวางหน้ารถและเอาหมวกกันน็อคที่ขโมยมาได้ใส่ไว้ รอบนึงได้ประมาณ 4-5 ใบ เอาไปเก็บสะสมไว้เพราะชอบส่วนตัว ใบไหนไม่ถูกใจก็โพสต์ขาย ส่วนใบแพงๆก็ไม่คิดจะขาย และไม่รู้ราคาด้วย ปัจจุบันไม่ได้ทำงานอะไร ไม่ได้เสพยา และก็ไม่ได้ขโมยไปขายเป็นหลักเพื่อหาเงินมาใช้ แต่เคยขายไปเพียง 2-3 ใบผ่านทางเฟซบุ๊ก เพราะรูปทรงไม่ถูกใจ
ส่วนสาเหตุที่ตนตระเวนก่อเหตุขโมยหมวกกันน็อคเพียงเพราะตนมีปมเคยโดนขโมยหมวกกันน็อคแถวบางบัวทองเลยรู้สึกคับแค้นใจ ที่ตนถูกก่อเหตุแจ้งความแล้วไม่ได้หมวกคืน จึงตัดสินใจก่อเหตุเนื่องจากหักห้ามใจไม่ได้ และมีความชอบส่วนตัว และเก็บสะสม ซึ่งแฟนก็รู้เคยห้ามแต่ตนไม่ฟัง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการก่อเหตุ นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป


