MGR Online - "ดีเอสไอ" บุกจับเจ้าของบัญชีเทเลแกรม “กลุ่มรส-นิยม” เผยแพร่คลิปลามก อนาจารเด็กออนไลน์ มีเหยื่อทั้งในและนอกประเทศ อายุต่ำสุด 10 ขวบ
วันนี้ (22 ต.ค.) อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (รมว.ยธ.) พร้อมด้วย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ , ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ , นพ.ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และ ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ร่วมแถลงผลจับกุมผู้ต้องหา 1 ราย เจ้าของบัญชีเทเลแกรม “กลุ่มรส-นิยม” พร้อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ สื่อลามกอนาจาร มากกว่า 75,367 ไฟล์
พล.ต.ท.รุทธพล เผยว่า วานนี้ (21 ต.ค.) กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ส่วนคดีละเมิดทางเพศเด็ก กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่จากองค์กร LIFT International ตำรวจฝรั่งเศสผู้เชี่ยวชาญด้านคดีละเมิดทางเพศเด็กออนไลน์ ประจำสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย องค์กร OUR RESCUE โดยนำสุนัข K9 ลงพื้นที่ จ.กระบี่
ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากองค์กร LIFT International ว่าพบการเผยแพร่โฆษณาชักชวนผู้สนใจเข้าร่วมกลุ่มเพื่อรับชมภาพและคลิปวิดีโอลามกอนาจารเด็ก อายุต่ำกว่า 18 ปี ผ่านแพลตฟอร์ม Telegram และ VK ในส่วนคดีละเมิดทางเพศเด็ก กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ดำเนินการสืบสวนหาหลักฐาน พบการกระทำผิดเกี่ยวกับการละเมิดทางเพศเด็กและแสวงหาประโยชน์จากการเผยแพร่รูปภาพ และคลิปวิดีโอสื่อลามกอนาจารเด็กผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในแพลตฟอร์มเทเลแกรมในชื่อกลุ่ม “งานตัวอย่างกลุ่มรส - นิยม” และแพลตฟอร์ม VK ใช้ชื่อบัญชี “รส นิยม”
พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวอีกว่า สำหรับสื่ออนาจารดังกล่าวได้เผยแพร่ภาพและคลิปลามกของเด็กหญิงที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ซึ่งมีการโฆษณาเชิญชวน พร้อมประกาศในกลุ่มว่ามีการอัปเดตสื่อใหม่มากกว่า 5,000 ไฟล์อย่างต่อเนื่องเพื่อเปิดรับสมาชิก โดยเรียกเก็บเงินค่าเข้าร่วมกลุ่มตั้งแต่ 200 - 400 บาท สมาชิกสามารถเข้าดูได้ทุกกลุ่ม และสามารถดาวน์โหลดเก็บไว้ได้ อันเป็นการกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับสื่อลามกอนาจารเด็ก ที่มีการกระทำผ่านสื่อออนไลน์ อาจเข้าข่ายการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้ อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 287/1 และมาตรา 287/2
ส่วนทาง ร.ต.อ.เขมชาติ ระบุว่า จากการสืบสวนทราบตัวผู้ต้องหา คือ นายเฉลิมพล (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ซึ่งมีพฤติการณ์เป็นเจ้าของบัญชีเทเลแกรม คัดลอกภาพและคลิปสื่อลามกจากแหล่งอื่น แล้วนำมาเผยแพร่ในกลุ่มเทเลแกรมของตน และส่งต่อสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อการค้า และเป็นผู้ดูแลการเงิน และผลประโยชน์ต่างๆ และเข้าตรวจค้นในพื้นที่
ร.ต.อ.เขมชาติ ระบุอีกว่า ผลการตรวจค้นพบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนหนึ่ง ภายในมีสื่อลามกอนาจาร มากกว่า 75,367 ไฟล์ รวมถึงบัญชี Telegram และ VK ที่ใช้เผยแพร่และส่งต่อสื่อลามกอนาจารดังกล่าว โดยพบว่ามีกลุ่มเครือข่ายย่อยในสังคมออนไลน์มากถึง 228 กลุ่ม จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อ้างว่าได้รวบรวมคลิปจากหลายแหล่งที่มาและได้รับการส่งต่อจากสมาชิกอีกที โดยมีรายได้จากการกระทำความผิดเดือนละ 8,000 บาท ทำมาแล้ว 5 เดือน ส่วนผู้เสียหายมีทั้งเด็กไทยและเด็กต่างชาติ โดยในส่วนของเด็กไทยนั้นมีมากถึง 500 คน สามารถยืนยันตัวตนได้ประมาณ 50 คน อายุต่ำสุดที่พบคือ 10 ปี ส่วนเด็กต่างชาตินั้นอยู่ในระหว่างการขยายผล
เบื้องต้นพบความผิดฐาน "ครอบครอง หรือส่งต่อ สื่อลามกที่มีเด็ก เพื่อหาผลประโยชน์ทางเพศให้ตนเองหรือผู้อื่น ผลิตนำเข้า ส่งออก จำหน่าย แจกจ่าย ให้เช่าหรือ เผยแพร่ สื่อลามกที่มีเด็ก เพื่อการค้า หรือเพื่อให้คนทั่วไปได้เห็นมีส่วนเกี่ยวข้องทางการค้ากับสื่อลามกที่มีเด็กในทุกลักษณะ เช่น ช่วยขาย ช่วยโฆษณา หรือเผยแพร่ โฆษณาหรือเผยแพร่ข้อมูล ว่ามีคนทำหรือขายสื่อลามกเด็ก หรือบอกช่องทางให้ผู้อื่นหาซื้อได้ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลหรือภาพที่เป็นสื่อลามก ซึ่งประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ เผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ที่รู้ว่าเป็นสื่อลามก"
นพ.ไตรยฤทธิ์ กล่าวเสริมว่า หากใครก็ตามตกเป็นผู้เสียหายจากการถูกถ่ายคลิปลามกอนาจารในคดีนี้และยืนยันได้ว่าไม่มีส่วนร่วมกับการกระทำความผิด สามารถติดต่อมาที่กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่อขอรับเงินเยียวยาของผู้เสียหายในคดีอาญาได้ เบื้องต้นจะได้ค่าเยียวยาความเสียหายเฉลี่ยประมาณ 30,000 บาท และหากพบว่าถูกล่อลวง ก็จะมีค่าเยียวยาความเสียหายที่เพิ่มขึ้น เมื่อรวมกับค่ารักษาพยาบาลทั้งดูแลร่างกายและสภาพจิตใจ เบ็ดเสร็จก็จะได้รายละประมาณ 110,000 บาท
โดยที่ผ่านมา กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพได้ให้การช่วยเหลือคดีจากเหยื่อสื่อลามกอนาจารกว่า 500 รายต่อปี เฉลี่ยแล้วในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีประมาณทั้งสิ้น 5,000 ราย ขึ้นทางกรมฯ ได้ดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาความเสียหายไปแล้วกว่า 70 ล้านบาท