ตำรวจกองปราบเปิดปฏิบัติการ “ตัดแขนขาแก๊งคอลเซ็นเตอร์” ลุยค้น 15 จุดใน 4 จังหวัด รวบ 15 สมาชิกขบวนการสารพัดตุ๋นประชาชน
วันนี้ ( 19 ต.ค. ) พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ป.สั่งการ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.พัฒษพงศ์ เสณีแสนเสนา สว.กก.3 บก.ป.นำกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 15 จุดในพื้นที่ จ. อุบลราชธานี, ขอนแก่น,บึงกาฬและ กทม. พร้อมจับกุมสมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 15 ราย ในข้อหา "ร่วมกันปลอมเอกสารราชการ, ใช้เอกสารราชการปลอม,ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฟอกเงิน,เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงิน อิเล็กทรอนิกส์ของตนโดยประการที่รู้ว่าจะ นำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดอาญาอื่นใด, สนับสนุนการกระทำ ความผิดฐาน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ, และสนับสนุนการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นคนอื่น"
สืบเนื่องจากตำรวจ กก.3 บก.ป.ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่า ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์จำนวน 3 กลุ่ม ก่อเหตุหลอกลวงโดยคดีที่ 1 แอบอ้างเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง หลอกให้เปลี่ยนภาษาในแอปพลิเคชันธนาคาร สุดท้ายเงินในบัญชีถูกโอนออก จำนวน 2 ครั้ง รวม 497,840 บาท คดีนี้มีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องจำนวน 7 ราย
คดีที่ 2 แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการ AIS และต่อสายให้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยหลอกว่าผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดและต้องโอนเงินมาเพื่อตรวจสอบ ผู้เสียหายหลงเชื่อสูญเงิน จำนวน 604,008 บาท คดีนี้มีผู้ต้องหาจำนวน 11 ราย
คดีที่ 3 ผู้เสียหายถูกเพจปลอม ใช้ชื่อ “coffee amazon thailand” ชวนลงทุนในหุ้นบริษัท ปตท. (OR) ให้ทำการแอดไลน์ บุคคลที่ใช้ชื่อบัญชีว่า “PTT& Amazon official” คนร้ายอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการของบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก ทำการอธิบายรูปแบบการลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว สามารถสร้างผลกำไรได้ 12 – 30% ของเงินทุนในระยะสั้น จากนั้นได้กรอก ลิงก์เว็บไซต์ปลอม “the-trader5.cc” ให้โอนเงินลงทุน ทั้งหมด 6 ครั้ง รวมเป็นเงิน 703,400 บาท คดีนี้มีผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องจำนวน 8 ราย
จากการสอบสวนผู้ต้องหารับว่าแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน ตั้งแต่บัญชีรับโอนจากผู้เสียหาย การผ่องถ่ายเงินต่อ จนถึงการถอนเงินสด นอกจากนี้จากการสืบสวนพบเป็นกลุ่มเดียวกับขบวนการฟอกเงินคอลเซ็นเตอร์จากประเทศเพื่อนบ้าน มีเส้นทางการเงินหลายชั้น จึงนำตัวส่งสภ.วารินชำราบจ.อุบลราชธานี, สภ.เมืองขอนแก่นและ สน.มักกะสัน ดำเนินคดี พร้อมเร่งจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือต่อไป