ป.ป.ช.ส่งคดี "วัดนาป่าพง" กลับให้ ปปป. เดินหน้าต่อ ประสานอัยการสูงสุดเนื่องจากบางคดีเกิดนอกราชอาณาจักร รอเส้นเงินฝั่ง "พระอาจารย์คึกฤทธิ์" กว่า 20 บัญชี เชื่อมีหมายจับเร็ว ๆ อย่างแน่นอน
วันนี้ ( 15 ต.ค.) พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เปิดเผย ความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนเส้นทางการเงินของพระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโลและวัดนาป่าพงว่า ตอนนี้คดีทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ได้ส่งสำนวนคดีกลับมาให้ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)เป็นผู้ทำเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการประสานอัยการสูงสุดเพราะ เหตุเกิดทั้งในและนอกราชอาณาจักร และหลักฐานที่เอามาให้ก็เป็นหลักฐานเดียวกับที่พนักงานสอบสวนได้รวบรวมไว้ ตอนนี้กำลังรอรายการเดินบัญชีวัดที่ได้มีการขอไปก่อนหน้า
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่าส่วนทนาย 2 ฝ่ายที่มาร้องดำเนินคดี เกี่ยวกับรถ เส้นเงินนั้นทาง กองปราบได้ตรวจสอบเบื้องต้นและได้ยกสำนวนมาให้ บก.ปปป. ดำเนินการส่วนบัญชีที่ขอไปก่อนหน้ากว่า 20 บัญชี เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินงาน ขอให้เวลากับเจ้าหน้าที่หน่อย เรื่องนี้เกิดมาเป็น 10 ปีแล้ว เส้นเงินเลยต้องใช้เวลา ทั้งนี้ผู้บัญชาการได้เน้นย้ำการทำคดีว่าขอให้ทำงานแบบตรงไปตรงมาและเร็วที่สุด เราพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่าส่วน นางกัญญาภัค ชไนเดอร์ หรือ สีกาสีกายุที่เข้ามาพบพนักงานสอบสวนหลายครั้งนั้น เพราะมีข้อมูลหลายอย่างเกี่ยวข้องกับต่างประเทศทั้งเอกสารการถือหุ้นโดยใช้เงินมูลนิธิ และเอกสารอีกหลายอย่างที่อยู่กับสีกายุ และสีกายุยังยินดีเดินทางมาทุกเมื่อเมื่อมีการเรียกมาสอบจากพนักงานสอบสวน ส่วนการพิจารณาหมายจับจะมีในเร็ววันนี้หรือไม่นั้นต้องแล้วแต่ข้อมูลทางการเงินและรายการเดินบัญชีที่ได้มา เบื้องต้นจากข้อมูลที่ทนายนำมาให้นั้นเป็นข้อมูลที่น่าสนใจพนักงานสอบสวนเลยขอตัวจริงมา ยืนยันเราไม่ได้หยุดทำและทำต่อเนื่องเชื่อมั่นว่าเคสนี้จะมีคำตอบไม่ช้าก็เร็วอย่างแน่นอน