รอง ผบช.ก.เผยตำรวจมีข้อมูลคดี "วัดนาป่าพง"แล้ว อยู่ระหว่างขอหลักฐานจากธนาคารเพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย -เล็งดำเนินคดีคนเอี่ยวโกงวัดพระบาทน้ำพุล๊อต 2 ย้ำปราบปรามแก๊งผู้วิเศษต้มตุ๋นประชาชนแน่นอน
วันนี้ (8 ต.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง บช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบคดีที่เกี่ยวข้องกับ พระคึกฤทธิ์ โสตถิผโล เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง จังหวัดปทุมธานี ว่า ภายหลังทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ได้นำพยานหลักฐานเส้นทางการเงินมามอบให้พนักงานสอบสวน ซึ่งอ้างว่าวัดนาป่าพงมีการ แจกโบนัส ให้เจ้าหน้าที่วัด 4 คน เป็นเงินรวม 6.7 ล้านบาท ที่อาจได้มาจากเงินทอดกฐินเรี่ยไรจากประชาชน รวมถึงมีการซื้อรถหรู ให้อุบาสก อุบาสิกาอีกรวมมูลค่า 50 ล้านบาทนั้น หลักฐานทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่ตำรวจเคยได้รับมาก่อนแล้ว และอยู่ระหว่างการเรียกเอกสารพยานหลักฐานใหม่ทั้งหมดจากธนาคารเพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาประมาณ 10 ปี และมีเอกสารจำนวนมาก การส่งมอบเอกสารจากแต่ละธนาคารจึงแตกต่างกันไป ทำให้พนักงานสอบสวนต้องใช้เวลาในการตรวจสอบเอกสารทั้งหมดก่อน ในขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องเรียกพระคึกฤทธิ์ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องมารับทราบข้อกล่าวหาหรือให้ข้อมูล จนกว่าจะได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนครบถ้วน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่าสำหรับคดี วัดพระบาทน้ำพุ และ อดีตพระอลงกต นั้น ได้มีการเลื่อนการประชุมร่วมกับกองปราบปรามไปเป็นวันพรุ่งนี้ โดยเชื่อว่าอีกไม่นานจะมีความชัดเจน ในการตรวจสอบ 24 ประเด็นที่ตำรวจดำเนินการอยู่ และอาจมีการแถลงข่าวอีกครั้ง
"ตำรวจสอบสวนกลางมีความตั้งใจที่จะสะสางปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายในวัดพระบาทน้ำพุ ดังนั้นจะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมในล็อตที่ 2 แน่นอน ส่วนจะเป็นใครและมีพฤติกรรมอย่างไร ขอให้พนักงานสอบสวนและชุดสืบสวนดำเนินการก่อน"พล.ต.ต. จรูญเกียรติ กล่าว
พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ยังกล่าวถึงการดำเนินคดีกับ กลุ่มผู้วิเศษว่า มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความแล้วหลายราย ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี ตำรวจต้องการให้ผู้ถูกหลอกลวงเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ เพราะหากปล่อยไว้กลุ่มคนเหล่านี้จะสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างจากการหลอกลวงประชาชนต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งจากการหารือกับ รอง ผบช.ก.ที่คุมงานสืบสวนก็ให้ความสนใจในเรื่องนี้เช่นกัน เนื่องจากเป็นเรื่องของ ขบวนการต้มตุ๋นหลอกลวง ฉ้อโกงประชาชน หากพยานหลักฐานเพียงพอจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดแน่นอน