ในโลกยุคใหม่ที่เศรษฐกิจไร้พรมแดน การนำเข้าและส่งออกสินค้าได้กลายเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ การค้าและการลงทุนระหว่างประเทศเชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อนและรวดเร็ว แต่เบื้องหลังความคึกคักของธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ กลับมีภัยเงียบที่แฝงอยู่ นั่นคือ “สินบน” โดยเฉพาะสินบนที่เกี่ยวเนื่องกับกระบวนการผ่านแดน ศุลกากร และขั้นตอนทางการค้า ซึ่งกำลังเป็นปัญหาเรื้อรังที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน
สินบนชายแดน: กลไกที่ซ่อนเร้นในกระบวนการทางการค้า
"สินบนชายแดน" คือการให้ผลประโยชน์โดยมิชอบแก่เจ้าหน้าที่รัฐ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่กระบวนการบางอย่าง เช่น การเร่งรัดขั้นตอนการผ่านศุลกากร การหลีกเลี่ยงภาษี หรือแม้กระทั่งการอนุมัติสินค้าที่ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานทางกฎหมาย โดยสถานการณ์เช่นนี้มักเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีการเคลื่อนย้ายสินค้าในปริมาณมาก เช่น ด่านศุลกากรหรือจุดผ่านแดนต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน
ผู้ประกอบการบางรายที่เลือกใช้ทางลัดด้วยการจ่ายสินบน มักหวังผลประโยชน์ในการลดต้นทุน เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน หรือลักลอบนำเข้าสินค้าต้องห้ามโดยไม่ต้องผ่านการตรวจสอบ ซึ่งไม่เพียงเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แต่ยังส่งผลกระทบเชิงลบในวงกว้าง
ผลกระทบ: จากความไม่โปร่งใส สู่ความเสียหายระดับประเทศ
แม้หลายคนอาจมองว่าสินบนเป็นเรื่องเล็ก หรือเป็นพฤติกรรมเฉพาะกลุ่ม แต่ความจริงแล้วผลกระทบจากสินบนในระบบการค้าและการลงทุนมีขนาดใหญ่และลึกซึ้งกว่าที่คิด
• รัฐสูญเสียรายได้มหาศาล จากภาษีที่ควรได้รับ
• ประชาชนเสียโอกาส เนื่องจากรายได้เหล่านั้นควรถูกนำไปพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล หรือระบบคมนาคม
• ผู้ประกอบการที่ซื่อสัตย์เสียเปรียบ เพราะไม่สามารถแข่งขันกับต้นทุนที่ไม่เป็นธรรมได้
• ความเสี่ยงต่อสังคมเพิ่มขึ้น เช่น สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานเล็ดลอดเข้ามาสร้างอันตรายต่อผู้บริโภค
ตัวอย่างที่จับต้องได้: จากทุเรียนถึงน้ำมันเถื่อน
ในบางกรณี การใช้สินบนอาจดูเหมือนเป็น “ทางลัด” ที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เช่น การส่งออกทุเรียนสดที่ต้องแข่งขันกับเวลา ผู้ส่งออกบางรายอาจเลือกใช้วิธีลัดโดยการจ่ายสินบนเพื่อให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการตรวจปล่อยสินค้า โดยไม่คำนึงถึงขั้นตอนหรือมาตรฐานที่ควรปฏิบัติ
ขณะเดียวกัน ในบางพื้นที่ เช่น ภาคใต้ของประเทศไทย ก็พบกรณีการลักลอบนำเข้าน้ำมันเถื่อน โดยกลุ่มผู้กระทำผิดใช้สินบนในการหลีกเลี่ยงการตรวจสอบสินค้า สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลให้รัฐสูญเสียรายได้ และทำลายหลักการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม
แนวทางแก้ไข: พลังร่วมจากทุกภาคส่วน
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เล็งเห็นถึงความร้ายแรงของปัญหานี้ และได้ดำเนินโครงการ “ผสานพลังต่อต้านสินบน” หรือ TaB (Together Against Bribery) เพื่อสร้างความร่วมมือแบบบูรณาการจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน
แต่เหนือสิ่งอื่นใด พลังสำคัญที่สุดคือ การมีส่วนร่วมของประชาชน ทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการสอดส่องพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยง หรือแจ้งเบาะแสเมื่อพบเห็นการทุจริต การแจ้งข้อมูลต่อสำนักงาน ป.ป.ช. คือจุดเริ่มต้นของการสร้างสังคมที่โปร่งใส และเป็นธรรมอย่างยั่งยืน
ถึงเวลา “หยุดภัยเงียบ” เพื่ออนาคตของสังคมไทย
การต่อต้านสินบนไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทุกคนในสังคม ถึงเวลาแล้วที่เราจะลุกขึ้นมาร่วมมือกัน หยุดยั้งภัยเงียบที่กัดกร่อนความมั่นคงทางเศรษฐกิจและบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ
มาร่วมกันสร้างสังคมที่ โปร่งใส ไร้สินบน เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของประเทศไทย