นายกรัฐมนตรี เผย หากกัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงทั้งหมด ไทยก็พร้อมเจรจา กรณีสหรัฐอเมริกาเสนอเป็นตัวกลางในการลงนามสันติภาพ ลั่นหากกัมพูชามีการรุกล้ำอธิปไตย ไม่มีวันยอม
วันนี้ (8 ต.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีการเปิดเผยจากสื่อต่างประเทศ ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เสนอเป็นตัวกลางในการลงนามสันติภาพระหว่างไทย-กัมพูชา ว่า คนที่เข้ามาเป็นตัวกลางก็ถือว่ามีเจตนาที่ดี แต่คู่สัญญาก็ต้องปฏิบัติตามข้อสัญญาที่ได้ทำข้อตกลงกันไว้ ซึ่งประเทศไทยเป็นฝ่ายที่ถูกรุกรานและถูกกระทำก่อน อีกทั้งไทยได้พูดออกไปชัดเจนแล้ว หากจะมีการเจรจาต้องปฏิบัติตามข้อตกลงพื้นฐาน 4 ข้อ ประกอบด้วย การถอนกำลังและอาวุธ จัดการบุคคลที่มารุกรานประเทศไทยให้ออกนอกเขตอธิปไตยของประเทศ และเก็บกู้สิ่งที่เป็นอันตรายต่อประเทศไทยออกจากพื้นที่
ซึ่งหากกัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงทั้งหมดประเทศไทยก็พร้อมที่จะเจรจา เพราะบ้านเราติดกัน ส่วนคนกลางอยู่ไกลคนละทวีป หากสามารถโน้มน้าวให้ประเทศกัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงเหล่านี้ได้เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทย และทำให้ประเทศไทยมั่นใจว่าจะไม่ถูกรุกราน ประเทศไทยจึงจะเริ่มเจรจาต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามย้ำก่อนหน้านี้ประเทศกัมพูชาเสนอรางวัลโนเบลให้กับประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะเป็นข้อได้เปรียบ และแฝงประโยชน์ร่วมกันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนสนใจเฉพาะประโยชน์ของประเทศไทย เรื่องอื่นใครจะได้รางวัลหรืออะไรก็แล้วแต่ หากปรากฏเป็นข่าวหรือรับรู้เราก็ยินดีปรีดาด้วย แต่สิ่งเหล่านั้นจะไม่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยจะต้องทำสิ่งนี้หรือทำสิ่งนี้ ย้ำว่าไม่มีแน่นอน
ส่วนที่มีข้อกังวลว่า ในวันที่ 10 ต.ค.นี้ ประเทศกัมพูชาจะมีการขนคนเข้ามาในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้วเพิ่มเติมในพื้นที่นั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า เรามีกฎหมายและยังมีการประชุมเตรียมแผนรับมือไว้แล้วหากประเทศกัมพูชามีการรุกล้ำอธิปไตยของประเทศไทย แต่ไม่ต้องไปกำหนดวัน ประเทศไทยไม่มีวันยอม ตนขอตอบสั้นๆ แบบนี้