ตำรวจชุดสืบนครบาล จับ “หมอเถื่อนได้ทุกฟิวส์” เอเยนต์บริการนำไอซ์บรรจุเข็มฉีดให้ถึงเตียงนอนกลุ่มชายรักชาย ตรวจค้นมือถือผู้ต้องหาพบคลิปอนาจารแนววิปริตกว่า 200 คลิป
วันนี้ (8 ต.ค.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น.สั่งการให้ ชุด ศอ.ปส.บช.น. นำโดย พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รอง ผกก.กก.สส.บก.น.5 พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.วรภัทร แสงเทียนประไพร สว.กก.2 บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว.กก.สส.4 บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.หญิง ณิชญากาญจน์ เปสลาพันธ์ รอง สว.ฝอ.บก.สส.บช.น. ร.ต.อ.เลิศวริศ เลิศวรปรีชา รอง สว.ปฏิบัติราชการ บช.น. ร.ต.อ.ณัฐวุฒิ อันชูฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ดินแดง จับกุมตัวผู้ต้องหา
1. นายคมอนันต์ หรือ หมอกอล์ฟ อายุ 39 ปี ในข้อหาจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 2. น.ส.ปวีณา หรือนา อายุ 40 ปี ในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน
พร้อมตรวจยึดของกลาง 1. เข็มฉีดยา บรรจุไอซ์พร้อมฉีด 2 เข็ม (พบในมือหมอเถื่อนขณะจับกุม) 2. ไอซ์ บรรจุอยู่ในพลาสติกแบบรูดปิดดึงเปิด จำนวน 6 ถุง รวม 7.2 กรัม (น้ำหนักชั่งรวมถุง) 3. แผงยาไวอะกร้า 6 เม็ด จำนวน 8 แผง 4. เข็มฉีดยา (ยังไม่ได้ใช้) จำนวน 7 เข็ม 5. กล่องพัสดุ แบบเตรียมจัดส่ง จำนวน 4 กล่อง (ภายในซุกซ่อนยาเสพติดเตรียมจัดส่ง) 6. กล่องพัสดุเปล่าพร้อมอุปกรณ์การแพ็กส่ง จำนวนมาก และ 7. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง (พบคลิปวิปริต 283 คลิป) โดยจับกุมได้ที่โรงแรมม่านรูดชื่อดัง ย่านคลองตัน ต่อเนื่องไปยังห้องพักแห่งหนึ่ง ภายในซอยปรีดีพนมยงค์ 40 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.00 น.
โดยพฤติการณ์สืบเนื่องจาก “หมอเถื่อนได้ทุกฟิวส์” ซึ่งเป็นเอเยนต์ค้ายาเสพติดทางโลกโซเชียลสุดพิสดารจำหน่ายยาเสพติดผ่านช่องทางออนไลน์ โดยพยายามใช้จุดการขายสร้างตัวตนเป็นหมอ บริการนำไอซ์ใส่เข็มไปฉีดให้ลูกค้าถึงเตียงนอน ในขณะที่กลุ่มลูกค้ามีเพศสัมพันธ์กัน (ชายรักชาย) และยังมีบริการสุดพิเศษที่นิยม คือ ฉีด 2 เข็ม ลูกค้าบางรายถูกแอบถ่ายคลิปไปโพสต์โชว์ในโลกโซเชียล จนปรากฏคลิปวิดีโอวิปริตเหล่านี้เป็นจำนวนมาก กระทั่งหมอเถื่อนรายนี้กลายเป็นที่ฮือฮาในวงการ LGBTQ+ และยาเสพติด
ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช จึงส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบ จนกระทั่งทราบว่า หมอเถื่อนรายนี้ คือ นายคมอนันต์ ซึ่งเป็นพ่อค้ายาเสพติดมีประวัติการหลายคดี และจากการสืบสวนยังพบว่า หมอเถื่อนรายนี้มีลูกค้าใช้บริการไม่ต่ำกว่า 100 ราย ในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่มีความระมัดระวังตัวไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง พล.ต.ต.ธีรเดช จึงใช้ปฏิบัติการอำพรางคัดเลือกตำรวจสืบสวนหุ่นล่ำบึก เป็นเจ้าหน้าที่อำพรางติดต่อล่อซื้อกับเอเยนต์หมอเถื่อนรายนี้ แต่การนัดหมายนั้นทำได้ยาก เนื่องจากคิวแน่น จนชุดสืบสวนต้องเฝ้ารอเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ กระทั่งวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา หมอเถื่อนได้ส่งสัญญาณมาว่าพร้อมบริการฉีดยาไอซ์ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอำพรางแล้ว แต่มีเงื่อนไขเพิ่มว่าจะมีหนุ่ม LGBTQ+ ขอมีเพศสัมพันธ์ทางประตูหลังด้วย ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอำพรางใจคอไม่ดี งานนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช ได้ให้กำลังใจและเน้นย้ำแผนการต้องทำอย่างรัดกุมรอบคอบ โดยวางแผนจะจับกุมตัวทันทีเมื่อเห็นของกลาง
จากนั้นปฏิบัติการสืบสวนจึงเริ่มต้นขึ้นด้วยความยากไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เพราะคนร้ายไม่ยอมออกมาพบ แต่นัดหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอำพรางเข้าไปในโรงแรมม่านรูดย่านคลองตัน เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไปตรวจสอบและวางกำลังโดยรอบแล้ว ถึงคิวเจ้าหน้าที่ตำรวจอำพราง เข้าห้องไปเป็นเหยื่อล่อตามลำพัง แต่ทว่าเมื่อเข้าไปพบหนุ่ม LGBTQ+ กล้ามใหญ่ มีแผลเป็นเต็มตัว นอนนุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่บนเตียงนอนลักษณะพร้อมมีเพศสัมพันธ์ แต่ยังไม่พบหมอเถื่อนและยังไม่พบของกลางยาเสพติด ซ้ำร้ายหนุ่ม LGBTQ+ ได้สั่งให้ตำรวจอำพรางทำการถอดเสื้อผ้าเพื่อรอหมอเถื่อน ปฏิบัติการได้เริ่มต้นขึ้นเป็นเวลาสุดบีบหัวใจของตำรวจอำพราง ยอมทำตามคำขอเพื่อไม่ให้เสียแผนการ กระทั่งผ่านไปประมาณ 10 นาที หมอเถื่อนได้เดินทางมาถึงห้องและผสมยาไอซ์ใส่หลอดฉีด พร้อมกับบอกให้หนุ่ม LGBTQ+ เริ่มมีเพศสัมพันธ์กับตำรวจอำพราง จากนั้นตำรวจอำพรางจึงรีบส่งสัญญาณให้ชุดสืบสวนที่ซุ่มอยู่ด้านนอก บุกพังประตูเข้ามาจับกุมตัวคนร้ายไว้ได้ทันท่วงที โดยจากการตรวจค้นพบ เข็มฉีดยาบรรจุของเหลวสีใส 2 เข็ม ลักษณะพร้อมฉีด ไอซ์ 1 ถุง น้ำหนัก 1.2 กรัม และซองยาไวอากร้า 1 แผง
หลังทำการจับกุมตัวหมอเถื่อนรายนี้ได้แล้ว พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. (ผอ.ศอ.ปส.ตร.) ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.สยาม ทำการขยายผลต่อเนื่อง โดยหมอเถื่อนยอมรับว่าได้แอบซุกซ่อนยาเสพติดไว้ที่ห้องพักแห่งหนึ่งภายใน ซ.ปรีดีพนมยงค์ 42 จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบ ผลการตรวจสอบพบของกลางไอซ์ อีกจำนวน 5 รายการ ลักษณะแพ็กในกล่องพัสดุพร้อมส่ง พบอุปกรณ์การแพ็กส่งพัสดุอีกจำนวนมาก และพบข้อมูลคลิปลับแนววิปริตของหมอเถื่อนรายนี้อีกเป็นจำนวน 283 คลิป ในโทรศัพท์ของหมอเถื่อนรายนี้ ซึ่งคลิปวิปริตดังกล่าวหมอเถื่อนรายนี้ล้วนเป็นคนถ่ายเองกับมือ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนไม่สามารถตรวจสอบคลิปได้ทั้งหมด เนื่องจากเกิดอาเจียนระหว่างตรวจสอบ
ในชั้นจับกุม นายคมอนันต์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ตนเองติดคุกมาเป็นจำนวน 3 ครั้ง ครั้งแรก เรื่องขโมยของ ครั้งที่สอง เรื่องที่ตนไปเชียร์แขกให้เด็กสาววัย 16 ปี ขายบริการ ครั้งที่สาม เรื่องของยาเสพติด พึ่งออกจากเรือนจำมาได้ไม่ถึงปี ไม่มีงานทำ จึงหันมาค้าขายยาเสพติด ตอนแรกๆ ขายไม่ดีเลย พยายามหาจุดเด่นการขาย จนไปพบว่ากลุ่มชายรักชาย LGBTQ+ เป็นกลุ่มลูกค้าที่ใช้ยาเสพติดเป็นจำนวนมาก จึงเจาะไปที่กลุ่มลูกค้านี้ และเมื่อเริ่มคลุกคลีมีลูกค้าบางรายมักกล่าวชมตนว่า หุ่นดี ทรงดี บางครั้งที่เอายาเสพติดไปขายให้ก็ให้ตนร่วมเพศแบบชายรักชายด้วย ซึ่งสร้างรายได้ดี และตนก็ได้ผุดไอเดียการฉีดยาไอซ์เข้าเส้นขณะมีเพศสัมพันธ์แบบชายรักชาย ซึ่งเมื่อได้ลองทำและแอบถ่ายคลิปที่ไปฉีดให้ลูกค้าโพสต์ลงในโลกโซเชียลก็ทำให้ถูกใจเหล่าลูกค้า LGBTQ+ เป็นอย่างมาก สร้างรายได้เป็นอย่างดี จึงได้พัฒนาการถ่ายคลิปให้แปลกใหม่มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเอาใจกลุ่ม ชายรักชาย LGBTQ+ จนคนในวงการอุปโลกน์ให้ตนเป็นหมอ แต่ท้ายสุดเพราะตนเองก็ติดการพนันชอบปั่นสล็อต จึงทำให้ไม่สามารถตั้งตัวได้
ในส่วนของ น.ส.ปวีณา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า หมอกอล์ฟทำตนซวย ตนเองกำลังจะไปทำงานที่ต่างประเทศสิ้นเดือนนี้อยู่แล้ว แต่ต้องมาถูกจับกุม ห้องที่อยู่เป็นห้องของตน ได้ให้หมอกอล์ฟมานอนพักอาศัยด้วยเพียงชั่วคราว พร้อมกับร่ำไห้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัว แต่เจ้าหน้าที่ยังคงไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของทั้งสอง เนื่องด้วยการขยายผลพบหลักฐานว่าทั้งสองมีลักษณะรู้เห็นและช่วยกันในการครอบครองยาเสพติด จึงได้นำตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบผู้ต้องหา ยังพบประวัติถูกดำเนินคดี 5 คดี ดังนี้ 1. วันที่ 6 พ.ค. 54 ถูกจับกุมข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 พื้นที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ 2. วันที่ 25 พ.ย. 55 ถูกจับกุมข้อหา พ.ร.บ.ค้ามนุษย์ โฆษณาหรือรับโฆษณา ชักชวน หรือแนะนำด้วยเอกสาร สิ่งพิมพ์ หรือกระทำให้แพร่หลายด้วยวิธีใดไปยังสาธารณะ พื้นที่ สภ.สำโรงเหนือ 3. วันที่ 22 ก.พ. 56 ถูกจับกุมข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 พื้นที่ สน.พระราชวัง 4. วันที่ 5 ส.ค. 62 ถูกจับกุมข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครอง มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ตั้งแต่ 375 มก.ขึ้นไป พื้นที่ สภ.พระสมุทรเจดีย์ และ 5. วันที่ 25 ธ.ค. 63 ถูกจับกุมข้อหาร่วมกันครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (แอมเฟตามีน หรืออนุพันธ์แอมเฟตามีน) มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ตั้งแต่ 375 มก.ขึ้นไป พื้นที่ สภ.เสม็ด
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ศูนย์ปราบปรามยาเสพติดของ บช.น. จะเพิ่มมิติในการปราบปรามยาเสพติดทางโลกโซเชียลโดยเฉพาะ การแพร่ระบาดสู่เด็กและเยาวชน สำหรับผู้ต้องหารายนี้กำลังเป็นที่นิยมทางโซเชียลเป็นอันตรายแก่สังคมอย่างยิ่ง พวกเราจะช่วยกัน ทำกรุงเทพฯ ให้ปลอดภัยจากยาเสพติด