นายอัครวัฒน์ สมาชิกวุฒิสภาสำรอง พร้อมทีมทนายความ เข้าแจ้งความตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง เอาผิด กกต.ทั้งคณะ ฐานปฏิบัติหน้ามิชอบ และละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยปละละเลยทุจริตเลือกตั้งเมื่อ 26 มิ.ย.67
วันนี้ (3 ต.ค.) ที่ สน.ทุ่งสองห้อง นายอัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล สมาชิกวุฒิสภาสำรอง พร้อมทีมทนายความ ได้เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีอาญากับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้งคณะ รวมถึงนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จนทำให้กระบวนการเลือกตั้งวุฒิสภา (สว.) เสียหายอย่างร้ายแรง
นายอัครวัฒน์ เปิดเผยว่า รายชื่อผู้ถูกร้องมีทั้งอดีตกรรมการการเลือกตั้ง ได้แก่ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. นายสันทัด ศิริอนันต์ไพบูลย์ นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ นายชาย นครชัย นายสิทธิโชติ อินทรวิเศษ นายปกรณ์ มหรรณพ และนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. โดยทั้งหมดถูกกล่าวหาว่ามีส่วนรู้เห็นหรือปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในการเลือกตั้ง สว. เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2567
โดยกระบวนการเลือกตั้งดังกล่าวเต็มไปด้วยพฤติกรรมไม่สุจริตชัดเจน การจัดทีมผู้สมัครแต่งกายเหมือนกัน เดินทางเป็นหมู่คณะ ใช้รถตู้รับส่งจำนวนมาก รวมถึงการจัดอบรมสัมมนาตามโรงแรมในหลายจังหวัด เช่น อยุธยา ปทุมธานี นครนายก และกรุงเทพฯ เพื่อวางแผนเลือกตั้งเป็นขบวนการ ซึ่งถือว่าขัดกับหลักความสุจริตและเที่ยงธรรมตามระเบียบ กกต.
นายอัครวัฒน์ กล่าวต่อว่า ตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ซึ่งเป็นวันที่มีประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ จนถึงปัจจุบัน กว่าหนึ่งปีเต็ม กกต. ยังไม่สามารถชี้แจงข้อสงสัยหรือเร่งรัดตรวจสอบ ทั้งที่สังคมมีหลักฐานจำนวนมากบ่งชี้ถึงความผิดปกติ จึงต้องออกมาเรียกร้องให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, พระราชบัญญัติ ป.ป.ช. มาตรา 172 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ยังตั้งข้อสังเกตว่า การเปลี่ยนรัฐบาลและการแต่งตั้งบุคคลในกระทรวงยุติธรรมบางตำแหน่ง อาจทำให้กระบวนการยุติธรรมล่าช้า โดยเฉพาะบุคคลที่เชื่อมโยงกับกลุ่มการเมืองในจังหวัดบุรีรัมย์ จึงกังวลว่าจะเกิดการแทรกแซงคดี ขณะที่โฆษกกระทรวงยุติธรรมแม้ยืนยันว่าเรื่องยังอยู่ในอำนาจ กกต. และไม่มีการก้าวล่วง แต่ตนเชื่อว่ามีการ “จัดการเบื้องหลัง” เพื่อถ่วงเวลาและปิดบังความจริง สำหรับหลักฐานที่นำมายื่น มีทั้งเอกสาร ภาพถ่าย และข้อมูลจาก “สำนวนสืบสวนชุดที่ 26” โดยย้ำว่าเป็นหนึ่งในคดีเลือกตั้งที่มีหลักฐานมากที่สุด และเพียงพอที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของศาล
นายอัครวัฒน์ ยังยืนยันว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่ใช่เกมการเมือง แต่เป็นการปกป้องหลักการประชาธิปไตย พร้อมยื่นข้อเรียกร้อง 4 ประการ ได้แก่ 1.ให้พนักงานสอบสวนรับคำร้องและดำเนินคดีอาญากับผู้ถูกกล่าวหา 2.เปิดเผยสำนวนและหลักฐานต่อสาธารณะ หากไม่มีเหตุผลสมควรปกปิด 3.ให้หน่วยงานอิสระ เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามารับผิดชอบการสืบสวน และ 4.ขอให้ประชาชนร่วมติดตามและผลักดันความโปร่งใสในกระบวนการยุติธรรม
ทั้งนี้หากกระบวนการยุติธรรมไม่เดินหน้าอย่างตรงไปตรงมา จะทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนลดลง ผู้ที่ได้ตำแหน่งมาอย่างไม่โปร่งใสยังคงดำรงตำแหน่ง และจะเป็นบรรทัดฐานอันตรายที่ทำให้การทุจริตเลือกตั้งกลายเป็นเรื่องปกติ