รอง ผบช.ก.เผยนัดกองปราบ - ปปป. หารือคดี “พระคึกฤทธิ์” หลังธนาคารเตรียมส่งเส้นทางการเงินย้อนหลัง 10 ปีให้สัปดาห์หน้า เร่งตรวจสอบนำเงินวัดมอบโบนัส-ซื้อรถให้คนสนิท
วันนี้ (3 ก.ย. ) ที่ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีตรวจสอบพฤติกรรม พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง ต้องสงสัยทุจริตยักยอกเงินของวัดไปใช้โดยมิชอบ ว่า การสอบปากคำสีกายุ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สอง หลังก่อนหน้านี้เคยพูดคุยกันมาแล้วเมื่อตอนที่เจ้าตัวมาแจ้งความร้องทุกข์ ส่วนเนื้อหาการพูดคุยวันนี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ที่เจ้าตัวนำมามอบให้กับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม โดยเนื้อหาหลัก ๆ ในเอกสารจะเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของเงินตั้งแต่มูลนิธิไปจนถึงกองทุน ซึ่งเราจะพิจารณาเป็นเรื่อง ๆตั้งต้นทางเงินออกจากวัดผ่านบัญชีบุคคลจนไปถึงปลายทางที่เป็นกองทุน ว่าส่วนไหนเข้าข่ายความผิดบ้าง เป็นเรื่องเกี่ยวกับคดีนอกราชอาณาจักรหรือไม่ และการทำเช่นนี้ถือเป็นการนำเงินวัดออกไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ไหมซึ่งต้องดูให้ละเอียด
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า รวมถึงต้องสอบปากคำพยานบุคคลต่าง ๆ เพื่อสืบหาพยานหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องมาร่วมพิจารณาข้อเท็จจริง โดยเฉพาะหลักฐานเส้นทางการเงิน ที่ตอนนี้ทางกองปราบได้ประสานไปยังธนาคารต่าง ๆ เพื่อขอสเตทเม้นย้อนหลังเกือบ 10 ปี มาตรวจสอบอย่างละเอียด คาดว่าน่าจะเริ่มทยอยส่งข้อมูลให้วันจันทร์หน้า
“คดีที่เคยมีการแจ้งความกับทางตำรวจกองปราบไว้ ขณะนี้ทางผู้บังคับบัญชาได้อนุมัติให้โอนสำนวนคดีทั้งหมดมาอยู่ในความรับผิดชอบของพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปปป. และในวันอังคารหน้าที่จะถึงนี้ ทางตำรวจ บก.ปปป. และ ตำรวจกองปราบ ก็จะมีการหารือร่วมกัน เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางคดี” รอง ผบช.ก.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โอนเปลี่ยนชื่อผู้ครอบครองที่ดินวัดที่ได้มาจากการบริจาคของญาติโยมไปเป็นชื่อของตัวเอง รวมถึงกรณีข้อสงสัยว่ามีการนำเงินของวัดไปซื้อรถให้กับคนใกล้ชิดนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ในส่วนของเรื่องโอนที่ดิน ทราบว่ามีการฟ้องร้องกันจบไปแล้ว แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า การทำเช่นนี้ผิดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งทางตำรวจก็ต้องมาตรวจสอบให้กระจ่างชัด เช่นเดียวกับเรื่องรถยนต์หรู เรื่องเงินกฐิน ทางตำรวจเองก็จะดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดด้วยเช่นกัน ยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา แต่ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน เพราะหลักฐานที่ได้มาตอนนี้ยังเป็นได้เพียงแค่แนวทาง ต้องรอผลการตรวจสอบเส้นทางการเงิน รวมไปถึงสอบปากคำพยานบุคคลจากบริษัทต่าง ๆ ให้แน่ชัดก่อน
เมื่อถามว่าจะมีการเชิญพระอาจารย์คึกฤทธิ์ มาให้ปากคำเร็ว ๆ นี้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่ายังไม่ใช่ในเร็ววันนี้ เพราะต้องรอดูพยานหลักฐานต่าง ๆ ให้แน่ชัดก่อน ส่วนเรื่องที่มีคนไปคุกคาม สีกายุ พยานคนสำคัญในคดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับปากว่าจะช่วยดูให้ ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบถามข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ทั้งรูปถ่าย ทะเบียนรถ เพื่อจะนำมาตรวจสอบว่ากลุ่มคนเหล่านี้เป็นใคร และ เกี่ยวข้องอย่างไร