xs
xsm
sm
md
lg

“ดีเอสไอ” เดินหน้าสอบพยาน 1,200 ปาก ฮั้ว สว. "อั้งยี่-ฟอกเงิน" พิจารณาควบคู่สำนวน กกต.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - คณะพนักงานสอบสวนดีเอสไอ คดีฮั้ว สว. "อั้งยี่-ฟอกเงิน" สอบปากคำพยาน 1,200 ปากต่อเนื่อง แย้มทำสำนวนควบคู่กับ กกต. อยู่ระหว่างขยายผล “คนกลุ่มใหม่”

วันนี้ (30 ก.ย.) แหล่งข่าวจากคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 เปิดเผยความคืบหน้ากรณีตรวจสอบขบวนการฮั้ว สว. ฐาน "อั้งยี่-ฟอกเงิน" ว่า ภายหลังจากที่ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจาก 10 กองคดีภายในกรมฯ ให้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานทั้ง 1,200 ราย ซึ่งกระจายทั่วพื้นที่ 45 จังหวัด โดยทั้งหมดมีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีการจัดตั้งขึ้นมาเพื่อให้ไปสมัครวุฒิสภา (สว.) แต่กลับไม่ได้ลงคะแนนให้ตัวเอง และไปเลือกลงคะแนนให้บุคคลอื่นที่จัดตั้งขึ้น หรือเรียกว่าเป็นการพลีชีพ หรือการเป็นเพียงโหวตเตอร์ จึงต้องสอบสวนมาให้ได้ซึ่งข้อเท็จจริง

"ภาพรวมการสอบสวนปากคำพยานตอนนี้ยังคงไม่ครบเสร็จสิ้นทั้ง 1,200 ราย แต่ก็ยังเดินหน้าทยอยสอบปากคำต่อเนื่อง จนกว่าจะถึงขั้นตอนพิจารณาออกหมายเรียกผู้ต้องหา เนื่องด้วยในการสอบปากคำพยานที่ผ่านมา ก็มีพยานบางส่วนยอมรับสารภาพให้การซักทอด เป็นประโยชน์ต่อสำนวนคดี พนักงานสอบสวนจึงต้องรวบรวมถ้อยคำให้การทั้งหมดมาประกอบการพิจารณากับพยานหลักฐาน นอกจากนี้ ยังต้องดูในส่วนของ กกต. ที่อยู่ระหว่างดำเนินการสำนวนคดีฮั้ว สว. ควบคู่ไปด้วย เพราะว่าก็มีผลเชื่อมโยงกันกับคดีอาญาที่เป็นมูลฐานมาจากกฎหมายเลือกตั้งดังกล่าว ทั้งนี้ ในส่วนของสำนวนคดีฮั้ว สว.ของ กกต. เองทราบว่าที่ผ่านมาก็มีการเรียกสอบสวนปากคำเพิ่มเติม"

คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เผยอีกว่า ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการ กกต. มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 4 ก.ย.68 ส่งถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอรับการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน โดยได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ 3 ราย (เดิม) ไปร่วมนั้น ก็เพื่อดำเนินการไต่สวนเรื่องคัดค้านการเลือกสมาชิกวุฒิสภาระดับประเทศ กรณีมีการกล่าวหาว่ามีการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 77 (1) โดยครั้งนี้ จะไม่ใช่การสอบสวนผู้ถูกกล่าวหากลุ่มเดิมก่อนหน้านี้ 229 ราย ได้แก่ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ตัวจริง จำนวน 138 ราย กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย และเครือข่ายของพรรค จำนวน 91 ราย แต่จะเป็นคนกลุ่มใหม่ที่ทาง กกต. ขยายผลพบเจอว่ามีลักษณะการฮั้ว สว.เช่นเดียวกัน ซึ่งก็เป็นอำนาจการพิจารณาของ กกต. ว่าจะดำเนินการสอบสวน “คนกลุ่มใหม่” เข้าสู่สำนวนกฎหมายเลือกตั้งอย่างไร จะตั้งเป็นเรื่องใหม่ หรือเรื่องต่อเนื่องกับสำนวน 229 รายแรกหรือไม่

คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ปิดท้ายว่า สำหรับสำนวนคดีอาญา อั้งยี่-ฟอกเงิน สว. ที่ดีเอสไอดำเนินการนั้น ก็ต้องดูประกอบกับสำนวนคดีฮั้ว สว. ตามกฎหมายเลือกตั้งที่ กกต. ดำเนินการอยู่ด้วย และก็ต้องรับฟังพนักงานอัยการประกอบกันด้วย เพราะทั้งคดีอาญาที่ดีเอสไอดำเนินการ กับคดีกฎหมายการเลือกตั้งที่ กกต. ดำเนินการมันมีความเกี่ยวข้องกันอยู่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น