รองผู้ว่าฯ กทม. พร้อมสำนักโยธา และ กปน. นำเครื่องเรดาร์ตรวจจุดน้ำซึมถนนหน้าโรงงานบุญรอดฯ พบเป็นท่อประปาเก่าหลายสิบปีรั่วซึม ไม่เกี่ยวข้องเหตุถนนทรุดหน้าวชิรพยาบาล ยืนยันไม่อันตราย
วันนี้ (25 ก.ย.) นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักการโยธาและเจ้าหน้าที่การประปานครหลวง ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุพบน้ำซึม ถนนพองตัว และยุบตัวลง บนผิวจราจรบริเวณเส้นเกียกกาย หน้าโรงงานบุญรอดฯ ห่างจากจุดเกิดเหตุถนนทรุดตัวหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล 2 กิโลเมตร
โดยเจ้าหน้าที่การประปานครหลวงทำการตรวจสอบน้ำที่ซึมออกมา เบื้องต้นไม่พบว่ามีคลอรีน และกำลังตรวจสอบท่อเมนประธานส่งน้ำว่ามีรั่วซึมหรือไม่ ต่อมาทางสำนักงานโยธากรุงเทพมหานคร ได้นำเครื่องเรดาร์สำรวจโพรงใต้ดิน หรือเครื่อง GPR มาทดสอบโพรงใต้ผิวถนนที่เกิดน้ำรั่วซึม โดยเครื่องเรดาร์ดังกล่าวนั้นจะทำการปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าลงไปยังใต้พื้นดินซึ่งทางคลื่นแม่เหล็กนี้จะทำการสะท้อนกลับ เมื่อได้ผลแล้วจะนำลักษณะของคลื่นมาแปลผลว่าลักษณะของคลื่นตรงจสอบพบทีโพรงใต้ดินหรือไม่ซึ่งสามารถอ่านผลได้ทันที โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณ 30 นาที ก็ทราบผล ซึ่ง
จากนั้นทาง รศ.วิศณุ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบโพรงใต้ผิวถนนพบว่าท่อประปาที่อยู่ด้านใต้นั้นเป็นท่อเหล็กเก่าหลายสิบปี ทำให้มีโพรงและเกิดการรั่วซึมของน้ำ ซึ่งพบโพรงกว้างประมาณ 2 เมตร 50 x 4 เมตร หรือประมาณ 10 ตารางเมตร ส่วนที่ถนนมีการบวมและบุบตัวนั้น เพราะเกิดจากน้ำ เพราะเมื่อน้ำเข้าไปในดินจะเกิดการรวมตัวกัน และเมื่อดินไม่มีที่ไปก็จะทำให้ดินทรุดตัวลงเพียงนิดเดียวเท่านั้น
และจอยืนยันว่า ไม่อันตราย จะไม่เกิดการยุบตัวของถนนเหมือนเหตุการที่หน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เพราะเป็นคนละสาเหตุกัน พร้อมเน้นย้ำว่าสาเหตุที่นี้คือเกิดจากจากท่อที่มีความเก่าอาจทำให้มีนำซึมออกมาบ้าง และทำให้ดินยุบแต่จะอยู่ในพื้นที่จำกัดเท่านั้น
ส่วนถนนดังกล่าวนั้นมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินและมีอุโมงค์ แต่อยู่ลึกอย่างมากไม่เกี่ยวข้องกับสาเหตุที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด ยืนยันว่าเป็นความบังเอิญที่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดในเวลาไล่เลี่ยกัน แต่ถนนจุดนี้มีน้ำรั่วซึมมาก่อนหน้าที่ถนนหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลจะทรุดตัวแล้ว
ทั้งนี้ หากประชาชนท่านไหนพบเห็นถนนที่มีน้ำรั่วซึมขึ้นมานั้นสามารถแจ้งทางกรุงเทพมหานครได้ในทันทีไม่ว่าจะทาง Traffy Fondue หรือสายด่วนก็แจ้งมาได้ทาง กทม. จะดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบให้ทันที
ขณะที่ นายกนก การรุ่งเจริญ ช่าง 3 การประปานครหลวง ระบุว่า ขณะนี้ได้ประสานเครื่องจักรเข้ามาในพื้นที่ เพื่อซ่อมแซมท่อดังกล่าว โดยจะต้องทำการเปิดผิวถนนขึ้นมาเพื่อดูว่ามันรั่วตรงจุดไหน แต่อาจจะเกิดแค่แหวนบริเวณรอยต่อของท่อประปาขยับ จากผลกระทบของรถใหญ่ที่วิ่งสัญจรไป-มาในบริเวณนี้
โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณไม่เกิน 5 ชั่วโมงในการซ่อมแซมจุดนี้ และประชาชนจะสามารถใช้ถนนในการสัญจรได้ในทันที โดยที่ไม่ต้องปิดน้ำหรือไฟหากว่ามีรั่วตรงที่แหวนรอยต่อท่อ แต่หากเป็นสาเหตุอื่นนั้นอาจจะมีการปิดน้ำเพียงแค่ช่วงเวลาที่มีการซ่อมแซมเท่านั้น