ดีเอสไอ.เปิดปฏิบัติการ “ธัญโวลต์ (Thanya Volt)”บุกทลายเหมืองบิตคอยน์ 25 แห่ง ย่านธัญบุรี มูลค่าความเสียหายปีละกว่า 50 ล้านบาท
วันนี้( 19 ก.ย.)เมื่อเวลา 10.00 น. ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ พร้อมด้วย นายอารมณ์ สิงห์เงิน ผู้ช่วยผู้ว่าการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต1 (ภาคกลาง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายยุทธนา ครุฑกาศ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมและบริการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต1 (ภาคกลาง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายเสริมวิทย์ สมบัติ ป้องกันจังหวัด นายสมยศ พลสว่าง ปลัดอาวุโสอำเภอธัญบุรี นาย อธิปัตย์ เสียมไหม ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า และ อาสาสมัครรักษาดินแดน อ.ธัญบุรี ลงพื้นที่ตรวจค้นอาคารพาณิชย์ และบ้านเช่าในเขตอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี จำนวน 25 จุด หลังได้รับแจ้งการลักลอบใช้ไฟฟ้าสำหรับทำเหมืองขุดเงินดิจิทัล ทำให้รัฐเสียรายได้ปีละกว่า 50 ล้านบาท
กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับคำร้องเรียนจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 1 (ภาคกลาง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่าพบการลักลอบตั้งเหมืองขุดสกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะบิทคอยน์ อย่างผิดกฎหมาย พร้อมทั้งร้องขอให้ดำเนินคดีตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงมอบหมายให้กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ เป็นผู้รับผิดชอบสืบสวน จนพบว่าเครือข่ายผู้ต้องสงสัยได้เช่าบ้านและอาคารพาณิชย์กว่า 25 แห่ง ในพื้นที่ชุมชนอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เพื่อติดตั้งเครื่องขุดเงินดิจิทัลและลักลอบใช้กระแสไฟฟ้า ส่งผลให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้รับความเสียหายอย่างหนัก และกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษจึงยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดธัญบุรีเพื่อขอหมายค้น และเมื่อเข้าตรวจสอบตามหมายค้นก็พบเครื่องขุดเงินดิจิทัล จำนวนกว่า 600 เครื่อง
ทางด้าน ร้อยตำรวจเอกเขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า สำหรับที่เราเข้าตรวจค้นในวันนี้ทั้งหมด 25 จุด โดยประมาณพบว่ามีเรื่องขุดบิตคอยน์ จำนวนกว่า 500-600 เครื่อง ซึ่งสอดคล้องกับที่ได้ได้รับเรื่องร้องเรียนมา โดยการกกระทำผิดในวันนี้ แบ่งออกเป็นองค์กรของอาชญากรรม มีการแบ่งหน้าที่การทำงานอย่างชัดเจน โดยกลุ่มแรกจะเป็นกลุ่มที่ทำการจัดหาเครื่องที่จะนำเข้ามาขุดบิตคอยน์ มานำเข้ามาได้อย่างไร แล้วคนที่นำเข้ามาขุดบิตคอยน์ หรือเหมืองแล้วนั้น ต้องเป็นคนที่มีความรู้ในเรื่องการแก้ อัลกอริทึม และสมการ เพื่อให้ทำการขุดบิตคิยน์นั้นมาได้ โดยราคาของบิตคอยน์ในวันนี้ประมาณ 3.7 ล้านบาท โดยราคาสูงขึ้นมามาก โดยจากช่วงโควิด ราคาอยู่ที่ประมาณ 6-7 แสนบาทเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้ 3.7 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงจูงใจของคนในการที่จะขุดเหมือง แต่ถ้าจ่ายค่าไฟ ไม่มีทางที่จะคุ่มต้นทุนในการขุดอย่างแน่นอน
โดยที่ผ่านมา เราไปที่ สมุทรสาคร ซึ่งเคสนั้นต้นทุนมากกว่า 15,000 บาท แต่วันนี้คาดว่าต้นทุนน่าจะสูงขึ้น เพราะเครื่องมีความทันสมัยมากกว่า การดัดแปลงตัวอาคาร การปิดบังอำพราง ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันความร้อน ป้องกันเสียงมีการกระทำที่แนบเนียนยิ่งขึ้น มีการกระจายไปยังจุดต่างๆ แทนที่จะรวมกลุ่มไว้เป็นจุดเดียว ซึ่งจะเช่าโกดังหรือบ้านหลังใหญ่ อันนี้มีการกระจายไปยังพื้นที่ชุมชน ซึ่งประเด็นนี้มีความสุ่มเสี่ยงในเรื่องของอัคคีภัย มีความเสียงในเรื่องของตัวอาคารเนื่องจากมีการดัดแปลงในเรื่องของการระบายความร้อน เนื่องจากเครื่องมีความร้อนมาก เขาก็มีการต่อท่อระบายอากาศ จะตัวอาคารเพื่อระบายอากาศด้านหลัง เพื่อให้มีการระบายความร้อน ซึ่งตรงนี้จะเป็นผลกระทบต่อเรื่องสิ่งแวดล้อม หรือในอื่นๆ ของกฎหมายท้องถื่น ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษเองเราจะได้ส่งวัตถุพยาน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของมิเตอร์ไฟ หรือในส่วนของพื้นที่เองก็จะมีการประสานงาน ว่าเราสามารถที่จะดำเนินคดีอะไรได้บ้าง เพื่อดำเนินคดีให้ได้มากที่สุด
โดยเครื่องที่ตรวจพบนั้นเป็นเครื่องที่เอาไว้ใชเสำหรับการขุดบิตคอยน์โดยเฉพาะ ซึ่งทางดีเอสไดก็จะได้ประสานไปทางกรมศุลกากร เกี่ยวกับเรื่องการนำเข้า เพราะเครื่องแต่ละเครื่องมีซีรี่นัมเบอร์ประจำเครื่อง ซึ่งเราจะไปตรวจสอบกับทางศุลกากร ว่าผิดในการนำเข้าหรืออย่างไร โดยตอนนี้เราก็มีการยกระดับ ซึ่งในการเข้าจับกุมในวันนี้ เราจะมีการศึกษาโมเดล หรือการขุดบิดคอยน์อย่างไร เพื่อเป็นการป้องกันในการลักลอบใช้กระแสไฟฟ้า โดยอย่างแรกรัฐ เป็นฝ่ายเสียหาย ในเรื่องการไฟฟ้า ที่มีการลักลอบใช้ไฟ ที่มีความเสียหายหลายล้านบาท ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2565 จนมาถึงปัจจุบัน รวมเคสนี้ด้วย ประมาณ 738 ล้านบาท และอีกจุดนึงก็จะมีการตรวจสอบเกี่ยวกับทางเจ้าหนา้ที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่
นายอารมณ์ สิงห์เงิน ผู้ช่วยผู้ว่าการ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต1 (ภาคกลาง) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวเสริมว่า ทางการไฟฟ้าก็มีการตรวจสอบ แต่เนื่องจากเป็นการละเมิด เขาจะไม่ได้ใช้ไฟผ่านตัวมิเตอร์ หรือดัดแปลงกระแสไฟฟ้าที่ไหลเข้าบ้านให้น้อยลง อันนี้ก็เป็นจุดนึงที่การไฟฟ้าเองจะต้องมีการตรวจสอบที่เข้มข้น ตัวอย่างลักษณะครัวเรือนที่เราเข้าตรวจ จะเป็นเหมือนบ้านปกติ โดยลักษณะการใช้ไฟ ก็จ่ายค่าไฟเหมือนเดิม อยู่ที่ประมาณหลัก 1,000 แต่มีการดัดแปลงมิเตอร์ที่ใช้ไฟไม่ถูกต้อง โดยเทรนที่ละเมิดของบิตคอยน์จะมาทางขนาดเล็กและการกระจายตัว ซึ่งต้นทุนถูกลง แต่ถ้าเป็นขนาดใหญ่จะต้องลงทุนเยอะ ไปซื้อหม้อแปลงเอง ต้องลงทุนอีกหลายอย่างเยอะมาก เพราะฉนั้นรูปแบบที่เราจะเจอเป็นรูปแบบการกระจายตัวแบบครัวเรือน
ซึ่งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคคงจะต้องทำงานหนักมากกว่าเดิมเพิ่มขึ้น เพื่อให้มีการหมุนการดำเนินงานให้ปกติให้ได้ ซึ่งในวันนี้ที่เข้าตรวจค้นทั้ง 25 จุด ทางการไฟฟ้าก็ต้องขอขอบคุฯทาง ดีเอสไอ เป็นหลักในการนำสืบและการนำจับ ทำให้เราทำงานได้ดี ต้องขอขอบคุณครับ