MGR Online - สำนักงาน ปปง. ดำเนินการทรัพย์สินเกี่ยวกับยาเสพติด ฉ้อโกงประชาชน พนันออนไลน์ และลักลอบหนีศุลกากร 2,720 รายการ 103 รายคดี มูลค่ากว่า 1,601 ล้านบาท
วันนี้ (12 ก.ย.) นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. และโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 10/2568 ซึ่งมีนายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. เป็นกรรมการและเลขานุการ เมื่อวันที่ 11 ก.ย.68 โดยคณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้ดำเนินการกับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับยาเสพติด การฉ้อโกงประชาชน การฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
1. ยึดและอายัดทรัพย์สิน 70 รายคดี ทรัพย์สิน 1,957 รายการ พร้อมดอกผล มูลค่าประมาณ 1,373 ล้านบาท โดยเป็นทรัพย์สินในคดีสำคัญเกี่ยวกับความผิดมูลฐานเกี่ยวกับยาเสพติด การฉ้อโกงประชาชนหรือการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ และการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ดังนี้
1.1 ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด มีการยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้กว่า 41 รายการ มูลค่ากว่า 55 ล้านบาท อาทิ รายคดี นายจำรูญฯ กับพวก มีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สิน จำนวน 1 รายการ (เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 18 ล้านบาท , รายคดี นายอังคารฯ กับพวก มีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สิน จำนวน 40 รายการ (เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 37 ล้านบาท
1.2 ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนและการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ มีการยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้กว่า 367 รายการ มูลค่ากว่า 603 ล้านบาท อาทิ รายคดี น.ส.พิมภาดาฯ กับพวก กรณีความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
โดยสำนักงาน ปปง. ได้สืบสวนขยายผล และวิเคราะห์ธุรกรรมทางการเงินของบุคคลในคดีคอลเซ็นเตอร์ เครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พบการทำธุรกรรมเชื่อมโยงไปยังนายพัด สุภาภา (หรือ MR. LY YONG PHAT) กับพวก ซึ่งกรณีดังกล่าวคณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้อายัดทรัพย์สินไว้แล้วรวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 33 รายการ (เช่น ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 79 ล้านบาท
รายคดี น.ส.อภิญญาฯ กับพวก กรณีหลอกให้ลงทุนสินทรัพย์ดิจิตอล (Hybrid Scam) ซึ่งมีพฤติการณ์ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน และการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (เพิ่มเติม) จำนวน 7 รายการ (เช่น เงินสด ยานพาหนะ และที่ดิน) รวมมูลค่าประมาณ 22ล้านบาท
รายคดี MR.ZHENG หรือนายจ้าวฯ กับพวก กรณีเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์ ปลอมเป็นหน่วยงานรัฐ อ้างตัวเป็นตำรวจในการหลอกลวงผู้เสียหายในการทำเรื่องให้ได้เงินที่ถูกหลอกกลับคืนมา ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 54 รายการ (เช่น ยานพาหนะและเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 38 ล้านบาท
รายคดี บริษัทเดอะ นิว คอนเซปท์ฯ กับพวก กรณีพฤติการณ์ชักชวนให้ประชาชนทั่วไปซื้อห้องชุดโครงการต่างๆ และไม่สามารถดำเนินการ ก่อสร้างโครงการตามที่ประกาศโฆษณา อันเป็นความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 9 รายการ (ที่ดิน และสิทธิเรียกร้องตามสัญญาเช่า) รวมมูลค่าประมาณ 213 ล้านบาท
รายคดี ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี มายเนอร์ คริปโตเคอเรนซี่ฯ กับพวก กรณีหลอกลวงให้ประชาชนร่วมลงทุน อันเป็นพฤติการณ์ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 264 รายการ (เช่น ยานพาหนะ ที่ดิน เงินในบัญชีเงินฝาก และสินทรัพย์ดิจิทัล) รวมมูลค่าประมาณ 251 ล้านบาท
1.3 ความผิดเกี่ยวกับการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีการยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้กว่า 248 รายการ มูลค่ากว่า 326 ล้านบาท อาทิ รายคดี กลุ่มบุคคลที่จัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (รายนายสันติธรฯ กับพวก) ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (เพิ่มเติม) จำนวน 7 รายการ (เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร และสิทธิเรียกร้องตามสัญญาประกันชีวิต) รวมมูลค่าประมาณ 105 ล้านบาท
รายคดี กลุ่มบุคคลที่จัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (รายนายเอกชาติฯ กับพวก) ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 129 รายการ (เช่น เงินสด ยานพาหนะ วัตถุมงคล และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร) รวมมูลค่าประมาณ 37ล้านบาท
รายคดี ร.ต.ท.ณัฐศักดิธัชฯ กับพวก กรณีเครือข่ายของกลุ่มบุคคลที่มีการจัดให้มีการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 65 รายการ (เช่น ยานพาหนะ ห้องชุด ที่ดิน และเงินในบัญชีเงินฝาก) รวมมูลค่าประมาณ 111 ล้านบาท
รายคดี นายพันธ์ธวัชฯ (นอท กองสลากพลัส) กับพวก กรณีความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการจัดให้มีการเล่นการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และมีพฤติการณ์เกี่ยวกับการนำเงินหรือทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิดไปจำหน่าย จ่าย โอน มีลักษณะเป็นการฟอกเงิน ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 47รายการ (เช่น เงินสด ยานพาหนะ ที่ดิน และเงินในบัญชีเงินฝาก) รวมมูลค่าประมาณ 73 ล้านบาท
1.4 ความผิดเกี่ยวกับการลักลอบหนีศุลกากร รายคดี นายพณฯ กับพวก กรณีความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการลักลอบหนีศุลกากร กรณีการจับกุมผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีคำสั่งให้ยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 15 รายการ (เช่น เงินสด โทรศัพท์มือถือ และที่ดิน) รวมมูลค่าประมาณ 27 ล้านบาท
2. ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน จำนวน 22 รายคดี ทรัพย์สินกว่า 624รายการ มูลค่าประมาณ 207 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินเกี่ยวกับความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน
3. ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย (คุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย) จำนวน 11 รายคดี ทรัพย์สิน 139 รายการ มูลค่าประมาณ 21 ล้านบาท ในความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ
3.1 รายคดี บัญชีเงินฝากธนาคารของกลุ่มมิจฉาชีพฯ กับพวก กรณีการหลอกลวงให้ประชาชนให้สมัครเล่นหุ้นสกุลเงินต่างประเทศ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน และการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีมติเห็นชอบให้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย (กรณีคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย) ซึ่งเป็นการดำเนินการกับทรัพย์สิน 17 รายการ มูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท
3.2 รายคดี นางชยาวรรณฯ กับพวก ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน และการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ในการนี้ คณะกรรมการธุรกรรมมีมติเห็นชอบให้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการ เพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินไปคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหาย (กรณีคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย) ซึ่งเป็นการดำเนินการกับทรัพย์สิน 40 รายการมูลค่าประมาณ 14 ล้านบาท