ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยความคืบหน้าคดี “เก่ง ลายพราง” ล่าสุดตำรวจได้สอบปากคำพยาน ผู้เสียหาย และรวบรวมกล้องวงจรปิดค่อนข้างครบแล้ว อาจจะยังเข้าข่าย 4 ฐานความผิด
วันนี้ (11 ก.ย.) พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง เปิดเผยความคืบหน้าคดีสาวรายหนึ่ง เดินทางไปลงบันทึกประจำวันกับตำรวจ สน.สุทธิสาร อ้างว่าถูกนายปัญญา ยิ้มอำไพ หรือ เก่ง ลายพราง” อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ชักชวนไปที่บ้านย่านรัชดาฯ หลังไปกินข้าวด้วยกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในซอยรัชดาซอย 7 แขวงและเขตดินแดง กทม. ก่อนจะล่วงละเมิด จึงต้องเรียกแท็กซี่หลบหนีกลับห้องพักที่คอนโด ว่า เบื้องต้นได้ มีการเรียกสอบพยานที่เกี่ยวข้องไปทั้งหมด 4 ปาก และผู้เสียหาย 1 อีกปาก รวมทั้งหมด 5 ปาก และได้รวบรวมกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุซึ่งค่อนข้างครบแล้ว จึงได้ทราบข้อเท็จจริงที่ปรากฏขึ้นมา
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นกันอย่างต่อเนื่องใน 2 จุด คือร้านอาหารย่านรัชดาฯ และบ้านของนายเก่ง ลายพรางที่อยู่ในพื้นที่ของ สน.ห้วยขวาง และต่อเนื่องไปที่คอนโดของผู้เสียหายซึ่งอยู่ในพื้นที่ สน.สุทธิสาร จากที่ตอนแรกยังมีข้อสงสัยกันว่าเหตุที่เกิดนั้นเป็นการเกิดเหตุในช่วงเวลาที่ต่อเนื่องกันหรือไม่จนสุดท้ายก็ได้ข้อสรุปมาข้างต้น
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนของ สน.ห้วยขวาง ได้รวบรวมสำนวนทั้งหมดและได้ส่งต่อไปให้ สน.สุทธิสาร ดำเนินการต่อไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 19 พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบกรณียังไม่ได้ควบคุมตัว จะเป็นพนักงานสอบสวนในพื้นที่ที่ทราบเหตุก่อน คือพื้นที่ สน.สุทธิสาร จึงต้องทำการส่งสำนวนต่อให้ทางสุทธิสารดำเนินการต่อ
ทั้งนี้ ทางนายเก่ง ลายพรางยังไม่ได้มีการเรียกมาให้การหรือมีการติดต่อขอมาเพื่อมาให้การแต่อย่างใด แต่จากการตรวจสอบยังพบว่า นายเก่ง ลายพรางยังใช้ชีวิตปกติ เนื่องจากมีการอัพเดตชีวิตในโลกออนไลน์เป็นปกติ
พ.ต.อ.ประสพโชค ยืนยันว่า จากข้อเท็จจริงที่ได้รวบรวมมานั้น อาจจะยังเข้าข่าย 4 ฐานความผิด คือ กระทำอนาจาร หน่วงเหนี่ยวกักขัง ข่มขืนใจผู้อื่น ให้กระทำการ หรือไม่ให้กระทำการใด และ ข่มขู่ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว
ขณะที่ พ.ต.อ.พรเทพ เฉลิมเกียรติ ผกก.สน.สุทธิสาร ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นได้รับสำนวนที่ทาง สน.ห้วยขวาง ส่งมาให้แล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบข้อมูลในสำนวนที่เพิ่งได้รับและคาดว่าจะมีการเรียกผู้เสียหายมาสอบปากคำอีกครั้ง และจะทำการลงพื้นที่ไปเก็บรวบรวมภาพวงจรปิดในพื้นที่เกิดเหตุ ของเขต สน.สุทธิสาร อีกครั้ง
โดยต้องตรวจสอบอีกครั้งว่า จากการสอบปากคำพยานและผู้เสียหาย จะพบว่า นายเก่ง ชายพรางเข้าข่ายความผิดหรือไม่ หากเข้าข่ายก็จะทำการเรียกมาให้การและแจ้งข้อกล่าวหาแน่นอน ยืนยันว่าจะเร่งรัดในการดำเนินคดีต่อไป