xs
xsm
sm
md
lg

นอนคุกคืนสอง! "ทักษิณ" หลับปกติ ไม่เครียด ทานข้าวได้ พิจารณาช่วยงานสาธารณะเช่น "เสก โลโซ"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - "ทักษิณ" นอนเรือนจำกลางคลองเปรม คืนที่สอง หลับได้ตามปกติ ทานข้าวครบทุกมื้อ ปรับตัวได้ดี มีผู้ช่วยนักโทษสอดส่องความปลอดภัย ตามความเหมาะสม

วันนี้ (11 ก.ย.) รายงานข่าวจากกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่ระหว่างการกักโรคโควิด-19 ระยะเวลา 5 วัน ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม เป็นคืนที่สอง (10 ก.ย.) ยังคงนอนหลับได้ปกติ ไม่มีอาการนอนกระสับกระส่าย รวมถึงไม่มีอาการเครียดหรือซึมเศร้าปรากฏให้เห็น ค่อนข้างปรับตัวได้เป็นอย่างดี การรับประทานอาหาร สามารถรับประทานอาหารได้ครบมื้อ ให้ความร่วมมือปฏิบัติตนตามคำแนะนำของราชทัณฑ์

รายงานจากกรมราชทัณฑ์ เผยอีกว่า การป้องกันความปลอดภัยในส่วนของการคุมขังนายทักษิณ โดยราชทัณฑ์ค่อนข้างเข้มงวด มีการมอบหมายผู้ต้องขังที่ได้รับการพิจารณาแล้วว่าผ่านการอบรมทักษะต่างๆ ทั้งการช่วยเหลือพยาบาล หรือการช่วยงานเรือนจำ มีความประพฤติดีเยี่ยม มาเป็นผู้ช่วยเหลือ ดูแล นายทักษิณระหว่างคุมขัง เพราะต้องยอมรับว่าด้านในนั้น ไม่มีใครรู้ได้ว่าใครมีการชอบไม่ชอบกันอย่างไร อาจเกิดอันตรายได้ ราชทัณฑ์จึงต้องวางมาตรการดูแลให้เหมาะสม

ส่วนกรณี นายทักษิณ จะได้ออกมาบริการงานสาธารณะของเรือนจำฯ เกี่ยวกับเชิงวิชาการตามงานหนังสือหรือไม่นั้น การที่เรือนจำจะนำผู้ต้องขังเด็ดขาดออกบริการงานสาธารณะจะต้องมีการเขียนโครงการขึ้นมาก่อนเพื่อขออนุมัติ เช่น กรณีของนายเสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ "เสก โลโซ" ก็ได้ออกมาเล่นดนตรีเพราะเป็นโครงการฝึกอบรมเกี่ยวกับทักษะดนตรี จึงจะออกมาบริการงานสาธารณะได้

สำหรับกรณีศาลฎีกาฯ บังคับโทษนายทักษิณ 1 ปี การพักการลงโทษมีเงื่อนไข ซึ่งนักโทษแต่ละชั้นก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ดังนี้ "ชั้นเยี่ยม" เหลือโทษจำคุกไม่เกิน 1 ใน 3 (เหลือโทษไม่เกิน 4 เดือน) "ชั้นดีมาก" เหลือโทษจำคุกไม่เกิน 1 ใน 4 (เหลือโทษไม่เกิน 3 เดือน) "ชั้นดี" เหลือโทษจำคุกไม่เกิน 1 ใน 5 (เหลือโทษไม่เกิน 2 เดือน 15 วัน) แต่ตอนนี้เมื่อนายทักษิณเข้าไปครั้งแรก จะถูกจัดให้เป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นกลางก่อน และประมาณเดือน ธ.ค.68 จึงจะได้รับการปรับเลื่อนชั้น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการประพฤติระหว่างคุมขังในเรือนจำ ฉะนั้น โทษจำคุก 1 ปี นายทักษิณต้องจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน จึงจะเข้าเกณฑ์ได้รับการพักโทษ หรือถ้าหากมองไปที่โครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ก็ต้องจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของกำหนดโทษ หรือก็คือจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน ซึ่งการจะได้รับการพักโทษกรณีมีเหตุพิเศษฯ

ทั้งนี้ หากเป็นกรณีการพักการลงโทษกรณีพิเศษ ต้องเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พิจารณาอนุมัติด้วย และเมื่อคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม อนุมัติพักการลงโทษและให้ปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดซึ่งได้รับการพักการลงโทษแล้ว ให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์แจ้งผลการอนุมัติให้ผู้บัญชาการเรือนจำทราบ ผู้บัญชาการเรือนจำต้องออกหนังสือสำคัญปล่อยตัวพักการลงโทษให้แก่นักโทษเด็ดขาดผู้นั้นและแจ้งเงื่อนไขการคุมประพฤติให้นักโทษเด็ดขาดทราบ รวมทั้งมีหนังสือแจ้งให้พนักงานคุมประพฤติและพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจในท้องที่ที่นักโทษเด็ดขาดซึ่งได้รับการปล่อยตัวเข้าไปพักอาศัยทราบด้วย โดยนักโทษเด็ดขาดผู้นั้นต้องไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติในท้องที่ที่ไปพักอาศัยภายใน 3 วันนับแต่วันที่ได้รับการปล่อยตัว
กำลังโหลดความคิดเห็น