"ถั่วแระ"ร่ำไห้! ข่าววัดพระบาทน้ำพุทำครอบครัว-ธุรกิจพัง ยันอดีตพระอลงกต สนับสนุนตั้งสมาคมเชียร์ไทย -สร้างหนัง"พลังบุญ" รับเคยยืมเงินช่วงโควิด 2 แสนแต่คืนหมดแล้ว ปัดเป็นนอมินีถือครองที่ดิน ด้าน "บิ๊กเต่า"เผย"ถั่วแระ" ทำบัญชีรายรับรายจ่ายละเอียด ส่อพ้นมลทิน เตรียมออกหมายเรียกล็อต 2 เร็ว ๆ นี้
วันนี้ ( 9 ก.ย.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายศรสุทธา กลั่นมาลี หรือ ถั่วแระ เชิญยิ้ม ตลกชื่อดัง เข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.เพื่อพูดคุยพร้อมทั้งแสดงหลักฐานเป็นรายรับรายจ่ายของสมาคมเชียร์ไทยตั้งแต่ปี 62 -66 รวมถึงค่าใช้จ่ายทุกอย่างอย่างละเอียด โดยถั่วแระ เชิญยิ้ม เปิดเผยว่า อดีตพระอลงกตแต่งตั้งให้ตนเป็นนายกสมาคมเชียร์ไทยตั้งแต่ปี 62 โดยสมาคมดังกล่าวเป็นดำริของอดีตพระอลงกตเอง ซึ่งในการไปเชียร์แต่ละครั้งต้องยอมรับว่ามีการเดินทางจึงมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ โดยเวลารับเงินก็รับมาเป็นลายลักษณ์อักษรทุกขั้นตอน แต่ก็อยู่ที่สถานที่เชียร์ด้วย ว่าอยู่ในหรือต่างประเทศ มากสุดรับเงินมาหลักแสนบาท โดยทุกครั้งการรับเงินรับเงินสดมาจากเลขาของอดีตพระอลงกต เข้าสู่บัญชีตนเอง จนกระทั่งปี 64 ตนได้เริ่มถอยออกมาจากสมาคมดังกล่าว เพราะรู้สึกเหนื่อยกับการเดินทางที่ค่อนข้างไกล
ถั่วแระ เชิญยิ้ม กล่าวต่อว่านอกจากนี้ยังมีการรับเงินมาในส่วนการสร้างหนัง “พลังบุญ” ที่มีด้วยกันทั้งหมดสามตอน ตอนละ 300,000 บาท ซึ่งก็เป็นดำริของอดีตพระอลงกต โดยมีเงื่อนไขว่าต้องออกอากาศทุกตอนผ่านช่องทีวีช่องหนึ่ง โดยในหนัง ไม่ได้มีการเปิดรับบริจาคแต่อย่างใด และไม่มีผู้สนับสนุน ซึ่งค่าใช้จ่ายมีเอกสารยืนยันทั้งหมด อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีชื่อในที่ดินของวัดพระบาทน้ำพุแต่อย่างใด หากอยากตรวจสอบก็ไปดูกันที่กรมที่ดินว่ามีชื่อตนอยู่ในโฉนดหรือไม่
ถั่วแระ เชิญยิ้ม ยังยอมรับว่า ในช่วงโควิดสภาพการเงินขัดข้อง จึงได้มีการยืมเงินอดีตพระอลงกตจำนวน 200,000 บาท แต่ก็คืนไปหมดแล้ว มีเอกสารทางการเงินมายืนยันในส่วนนี้เช่นกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลหรือไม่หากตัวเองมีชื่อในหมายจับล็อต 2 ถั่วแระ เชิญยิ้ม ตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมด้วยน้ำตาคลอ ว่า “ผมอยากจะเรียนไปถึงสื่อ ไม่ว่าจะเป็นนักเลงคีย์บอร์ด หรือนักเลงโซเชียล ให้คุณคิดวิเคราะห์ว่าใครเขาทำอะไรที่ไหนอย่างไรก่อนค่อยลงสื่อ ถ้าผมเป็นผู้บริสุทธิ์ใครจะลงข่าวให้ผม ครอบครัวและธุรกิจผมเสียหายใครจะรับผิดชอบ ผมอยากรู้ ผมเสียหายทั้งหมด ครอบครัวผมต้องเป็นยังไง นอนไม่ได้กินไม่หลับ ผมรู้ว่าอาชีพสื่อ คิดวิเคราะห์แยกแยะให้ผมไหม”ถั่วแระ เชิญยิ้ม กล่าว
เมื่อถามว่าครอบครัวเครียดหรือไม่ และถูกยกเลิกงานไปเยอะหรือไม่ ถั่วแระ เชิญยิ้ม ถามกลับว่า “ถ้าเป็นครอบครัวพี่ล่ะ ตอนนี้ถูกยกเลิกงานหมดทุกอย่าง ผมทำงานให้ประเทศชาติไปดูได้ ผมแจกธงเกือบหมื่นผืน ให้พี่น้องทุกคนที่รักชาติเพื่อให้กำลังใจกับประเทศชาติ ข้อดีของผมเอามาตีแผ่บ้าง”ถั่วแระ เชิญยิ้ม กล่าว
ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ในวันนี้ต้องขอบคุณ ถั่วแระ ที่เข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการเข้าพบพนักงานสอบสวน ซึ่งทางตำรวจก็อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เข้ามาชี้แจงเช่นเดียวกัน และจากการที่ดูหลักฐานของถั่วแระ ในเบื้องต้นพบว่าทำทุกอย่างเป็นขั้นตอน มีบัญชีเรื่องรายรับรายจ่ายโดยเอกสารเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นหลักฐานในเบื้องต้น พร้อมบอกว่าสิ่งที่ถั่วแระ เป็นการงานจ้างแบบเหมางานจริง สามารถนำข้อมูลตรงนี้ไปชี้แจงกับพนักงานสอบสวนได้ โดยลักษณะเหมือนกับนักร้องที่เข้าพบพนักงานสอบสวนเมื่อวานนี้ (8 ก.ย.) โดยทุกอย่างที่ถั่วแระ นำมาให้พนักงานสอบสวนก็จะถือว่าเป็นหลักฐานให้กับตัวเขาเอง ส่วนคนอื่นที่ยังไม่เข้ามาชี้แจงกับพนักงานสอบสวน มองว่าน่ากลัว เพราะขณะนี้ทางกองปราบกำลังดำเนินการเรื่องนี้อย่างละเอียดใน 24 ประเด็น ซึ่งในปัจจุบันมีคนนำทรัพย์สินของทางวัดมาคืนแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ก็ยังมีคนนั่งทับสิทธิ์ และทรัพย์สินของวัดอยู่ จึงขอเตือนให้รีบเข้ามาชี้แจง เพราะถ้าไม่รีบเข้ามาก็อาจจะไม่ได้รับสิทธิ์ในการชี้แจงเหมือนคนอื่น พร้อมบอกว่าเรามีความหวังดีต่อวัด และพระพุทธศาสนา สำหรับบางคนถ้าหากเรามีหลักฐาน ยืนยันว่าเป็นนอมินีก็อย่าไปรองรับวัดโดยที่คุณจะเดือดร้อน
เมื่อถามว่าเอกสารที่ ถั่วแระ นำมามอบให้สามารถยืนยันความบริสุทธิ์ได้มากน้อยแค่ไหน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ในเบื้องต้นยังไม่สามารถตอบได้แต่ก็เป็นข้อดีที่ ถั่วแระ เก็บหลักฐานเอาไว้ เพราะแสดงถึงเจตนาที่บริสุทธิ์ ไม่ทุจริต และฉ้อโกง หลังจากนี้จะนำเอกสารหลักฐานทั้งหมดมอบให้กับพนักงานสอบสวนเข้าสำนวน โดยถั่วแระ พร้อมเข้าสู่กระบวนการ ซึ่งถ้าหากสอบปากคำแล้วพบว่า ถั่วแระ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องก็จะกันไว้เป็นพยาน
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีตลกชื่อดังถือครองโฉนดที่ดินของวัดพระบาทน้ำพุไว้นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่าไม่ใช่ ถั่วแระ นักแสดงตลกในเมืองไทยมีหลายคนซึ่งบางคนก็ยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนและมีตลกบางคนนั้นให้การช่วยเหลือผู้ต้องหาด้วย ซึ่งตลกคนนี้น่าจะมีคดีเพิ่มอีก ส่วนจะติดคุกหรือไม่ต้องรอติดตาม 1-2 เดือน ส่วนนักธุรกิจร้อยล้านที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ประเด็นนี้เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่พนักงานสอบสวนแยกคดีไปทำ มีทั้งเรื่องธุรกิจร้อยล้าน และ เรื่องเฮลิคอปเตอร์
เมื่อถามว่าจะมีการเรียกดาราตลก หรือบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง เข้ามาพบพนักงานสอบสวนอีกกี่คน พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ระบุว่าต้องรอดู เพราะจะมีหมายเรียก และ 10 วันหลังจากนี้จะมีการประชุมในเรื่องนี้ โดยตัวเองจะเป็นคนออกมาชี้แจงกับสื่อมวลชนด้วยตัวเอง