xs
xsm
sm
md
lg

ไม่กลัวการเมือง! "เจ๊แมว" ร้องทุกข์ดีเอสไอ เอาผิดเพิ่มกลุ่มคนก่อสร้าง "สนามฟุตบอล-สนามแข่งรถ" ทับที่สาธารณะที่ดินเขากระโดง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - "เจ๊แมว" เข้าให้ปากคำดีเอสไอ ร้องทุกข์ดำเนินคดี กลุ่มนักการเมืองก่อสร้างทับที่สาธารณะที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ หากการเมืองเปลี่ยนขั้ว

วันนี้ (5 ก.ย.) เวลา 10.00 น. ที่กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ชั้น 8 อาคารบี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ คณะพนักงานสืบสวนเรื่องที่ 97/2568 ดำเนินการสืบสวนเรื่องข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐและเกี่ยวข้องกับกลุ่มคณะบุคคลหลายฝ่าย ได้เชิญ นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท หรือ "เจ๊แมว" สอบปากคำในฐานะพยานเพิ่มเติม เพื่อนำถ้อยคำร้องทุกข์กล่าวโทษประกอบเข้าสำนวนการสืบสวนก่อนประมวลเรื่องเสนอ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ

นางกุสุมาลวตี เปิดเผยว่า ตนเคยมาร้องเรียนกับดีเอสไอ ในเรื่องเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ และวันนี้ทางดีเอสไอ ได้เชิญตนมาร่วมตรวจสำนวนพยานหลักฐานประกอบเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกลุ่มบุคคลที่กระทำความผิด รวมทั้ง มีคดีฟอกเงินด้วย เพราะตนอยากให้เขากระโดงกลับมาเป็นที่หลวงเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม ตนก็รู้สึกเสียใจแม้ว่ากลุ่มการเมืองที่ตนเองร้องเรียนยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ก็ได้ใช้กระบวนการทางกฎหมายอย่างไม่เป็นธรรม แจ้งความเอาผิดตนในข้อหา "หมิ่นประมาท" ที่สน.ทองหล่อ เรื่องที่ตนมาร้องทุกข์ดีเอสไอดำเนินคดีฮั้ว สว. ก่อนหน้านี้

นางกุสุมาลวตี เผยว่า นอกจากนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ยังไม่มีการดำเนินการในที่ดินเขากระโดง แม้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนแล้ว ส่วนผลโหวตนายกฯ วันนี้อาจมีผลต่อรูปคดีก็ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ และ รฟท. ในการทำหน้าที่เห็นแก่ประโยชน์ของบ้านเมือง เป็นข้าราชการต้องไม่กลัวและไม่ตกอยู่ภายใต้อาณัติของนักการเมือง ต้องเป็นที่พึ่งให้กับประชาชน มิเช่นนั้นจะมีความผิดตามมาตรา 157 ได้ ขอประชาชนอยู่เคียงข้างความถูกต้อง ยืนยันตนเองไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองใด แต่การมาร้องเรียนดีเอสไอในหลายๆ ทั้ง รันเวย์เถื่อน ฮั้ว สว. หรือ เขากระโดง เป็นเพราะรับไม่ได้ที่เห็นกระบวนการที่ไม่เป็นธรรม ในฐานะคนไทยคนหนึ่งจึงเพิกเฉยไม่ได้

นางกุสุมาลวตี เผยอีกว่า คดีเขากระโดงนั้นมีพยานหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจนว่ากลุ่มนักการเมืองกลุ่มดังกล่าวทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นที่ดินได้รับพระราชทานให้เป็นที่ของ รฟท. ไม่สามารถจะออกโฉนดที่ดินได้และเมื่อกลุ่มนักการเมืองดังกล่าวทำผิดจริง ก็จะทำให้การลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 อาจผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญได้ โดยเฉพาะมาตรา 160 (4) และ (5) แห่งรัฐธรรมนูญที่วางหลักไว้ว่า ผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์และไม่ประพฤติผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยบุคคลที่จะเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี พบมีหลักฐานว่าทำความผิดอย่างชัดเจนและจะต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งประเด็นดังกล่าวตนได้ร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช. แล้ว และตนคงรับไม่ได้ที่จะเห็นคนที่มีความผิดและไม่มีจิตสำนึก ขึ้นมาเป็นผู้นำบ้านเมือง


ด้าน พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้อํานวยการกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า วันนี้จะเป็นการสอบปากคำเพิ่มเติมนางกุสุมาลวตี และร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคลที่ครอบครองพื้นที่เขากระโดง รวมถึงจะร้องทุกข์เพิ่มเติมการก่อสร้างสนามแข่งรถทับลำคลองสาธารณะ นอกจากนี้ ช่วงบ่าย รฟท. ก็ประสานว่าจะมาให้ข้อเท็จจริง ในเรื่องการออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ รวมถึงการบุกรุกอื่นๆ ในพื้นที่ 5,083 ไร่ รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พิจารณาคดีว่ามีใครดำเนินการในส่วนใดหรือไม่ ก่อนนำเสนอเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป

"แนวโน้มที่จะดำเนินการได้ในตอนนี้ จากการตรวจสอบพบว่ามีการออกโฉนดโดยมิชอบที่อยู่ในบัญชีท้ายของ พ.ร.บ.กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ซึ่งเกินกว่า 50 ไร่ เบื้องต้นพบความผิดจำนวนกว่า 5 แปลง และพบความผิด 4 คนแล้ว ทั้งบุคคลในพื้นที่และบุคคลอื่น รวมถึงตระกูลดั้งเดิม ก็จะนำมาประกอบข้อมูลอื่นๆด้วยเช่นกัน"

พ.ต.ต.ณฐพล เผยว่า จากการตรวจสอบยังพบพื้นที่ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างทับคลองและทางสาธารณะ อยู่ในพื้นที่ของ รฟท. บริเวณสนามฟุตบอลและสนามแข่งรถรอบนอก ที่อิงจากสารบบสำนักงานที่ดินบุรีรัมย์ และข้อมูลจากภาพถ่ายดาวเทียม อยู่ระหว่างการตรวจสอบ นอกจากนี้ แม้เรื่องที่ดินเขากระโดงมีมานานกว่า 100 ปี แต่ดีเอสไอก็มีการแบ่งหน้าที่กันทำ ทั้งข้อมูลทางประวัติศาสตร์ จากจดหมายเหตุ รวมทั้งคำพิพากษาต่างๆ รวมกับทางข้อมูลวิทยาศาสตร์ในการทำแผนที่ทางอากาศที่ใช้เทคนิคสมัยใหม่ ก็ได้แผนที่ที่เกี่ยวข้องมาแล้ว ซึ่งตรงกับแผนที่ของการรถไฟฯ 5,083 ไร่ ต่อมา ศาลปกครองให้ทางการรถไฟกับกรมที่ดินทำแผนที่พิพาทใหม่ พบจำนวน 4,414 ไร่

พ.ต.ต.ณฐพล เผยอีกว่า ในพื้นที่ที่ออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่การรถไฟ 995 แปลง มีทั้งโฉนดกับ นส.3 ก และที่ว่างอีก สิ่งนี้จึงต้องตรวจสอบว่าจะตรงกันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอเชิญ รฟท. เพราะว่ามีพื้นที่ที่ดินจำนวน 271 แปลง มีการรับรองว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของ รฟท. แต่จากการตรวจสอบปรากฏว่า 271 แปลงอยู่ในพื้นที่ของ รฟท. ดังนั้นในวันนี้ก็จะต้องมาดูว่าทำไมการรถไฟฯ ถึงไปรับรองที่ดินจำนวนนี้ ซึ่งที่ดิน 271 แปลงมีการออกโฉนดตั้งแต่ช่วงปี 2515 - 2539 ก็ต้องตรวจสอบว่าแต่ละแปลงใครเป็นคนครอบครองบ้าง

"ถึงแม้ว่ามีผู้มีอิทธิพลครอบครองที่ดินในพื้นที่นี้ด้วย ก็ยืนยันว่า ไม่กดดันในการทำคดี และไม่มีผู้มีอิทธิพลมากดดันทั้งสิ้น ซึ่งก็จะเดินหน้าทำตามกรอบหน้าที่แต่ก็อยู่ตามขั้นตอนตามพยานหลักฐาน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาภายใน 2 สัปดาห์ ก่อนที่จะส่งให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณา ทั้งนี้ย้ำว่าไม่มีความกังวล หากจะมีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลก็ตาม และคงไม่มีการแทรกแซงการทำงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษอย่างแน่นอน"

พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวเสริมว่า เบื้องต้น ฐานความผิดมีเรื่องประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 9 มาตรา 108 ทวิ ตรงนี้ก็อยู่ที่การรถไฟฯ ด้วยว่าจะแจ้งร้องทุกข์กับใครบ้าง นอกจากนี้ก็มีความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงินด้วย

หากพบว่าผู้กระทำความผิดเสียชีวิตไปแล้วเนื่องจากเรื่องนี้มีมานานแล้ว พ.ต.ต.ณฐพล ระบุว่า ที่ดินหากเป็นของรัฐก็เป็นของรัฐ แต่หากเสียชีวิตถ้าเป็นคดีอาญาก็จะระงับ แต่ที่ดินก็ยังอยู่ ก็จะต้องดำเนินการในตัวที่ดินต่อไป ส่วนที่ชาวบ้านสามารถพิสูจน์ได้ว่าอยู่อาศัยมาก่อนปี พ.ศ. 2464 ก็จะไม่มีความผิดหรือไม่ จากการตรวจสอบพบว่ามีอยู่ 2 แปลงใหญ่ๆ ในสารบบที่ดิน ที่ได้มาก่อนปี 2462 ก็พบว่ามีการทำประโยชน์จริง แต่ก็ต้องไปดูในสารบบอีกครั้งว่าผู้ครอบครองหรือทายาท ได้มาก่อนจริงหรือไม่

ส่วนเรื่องนิติกรรมอำพรางที่มีข้อมูลว่ามีคนยกให้กันภายในตระกูล มองความผิดปกติเรื่องนี้อย่างไร พ.ต.ต.ณฐพล บอกว่า เรื่องนี้สำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ ได้มีการบอกว่าบางสิ่งบางอย่าง เขาไม่ถือปฏิบัติในการทำมา อย่างไรตรงนี้จะต้องขอตรวจสอบเพิ่มเติมอีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น