MGR Online-ชุดสืบสวนนครบาล สะกดรอยติดตามเครือข่าย "เอฟ ร่มเกล้า" ใช้รถแท็กซี่ 2 คัน ลักลอบขนยาบ้า ตามจับคาปั้มน้ำมัน จ.นครปฐม ค้นเจอของกลาง 1.4 แสนเม็ดซุกท้ายรถ ตราประทับ 999
เมื่อวันที่ 4 ก.ย. พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ รอง ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ จงเจริญ สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.โสรชาติ ดาวเรือง สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น.จับกุม นายวรภพ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี และ นายธนธร (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า 140,000 เม็ด รถยนต์แท็กซี่ 2 คัน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ตรวจยึดเงินสด 324,200 บาท ได้ที่บริเวณหน้าปั้มแก๊ส ถนนบรมราชชนนี ต.ขุนแก้ว จ.นครปฐม ต่อเนื่องภายในปั้มน้ำมัน ถนนเพชรเกษม ต.ธรรมศาลา จ.นครปฐม
สืบเนื่องจากชุดสืบสวนนครบาล จับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดข้อหาร้ายแรง หลายคดีในพื้นที่กรุงเทพฯ ขยายผลทราบว่า บริเวณเคหะร่มเกล้า เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ มีการใช้รถแท็กซี่ตบตาตำรวจ ในการลักลอบขนส่งยาเสพติด ในพื้นที่ร่มเกล้านำส่งภาคใต้ จึงทำการสืบสวนติดตามเรื่อยมา จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 ก.ย. พบว่ามีรถแท็กซี่ทะเบียนกรุงเทพฯ 2 คัน ขับออกจากบริเวณเคหะร่มเกล้า ไปยัง จ.สุพรรณบุรี ในลักษณะขับขี่ตามกันตลอดทั้งไปและกลับ ตำรวจสะกดรอยติดตามเรื่อยมา จนมาถึงบริเวณหน้าปั้มแก๊ส ถนนบรมราชชนนี ต.ขุนแก้ว จึงบังคับให้รถทั้ง 2 คันหยุด และแสดงตัวเข้าตรวจค้น
จากการตรวจสอบพบว่า นายวรภพ หรือ “เอฟ ร่มเกล้า” เป็นคนขับ ตรวจค้นภายในรถพบยาบ้า บรรจุภัณฑ์ห่อกระดาษฟอยล์พันเทป ภายในบรรจุกระดาษไขตราประทับ 999 โดยแต่ละห่อมียาบ้า ประมาณ 2,000 เม็ด รวม 70 ห่อ รวมทั้งหมด 140,000 เม็ด อยู่ในช่องเก็บสัมภาระท้ายรถ และต่อเนื่องกันเวลาประมาณ 01.00 น.ของวันที่ 4 ก.ย. ชุดจับกุมอีกชุดได้ติดตามรถแท็กซี่คันที่ 2 ที่ขับหลบหนีไปได้ โดยพบว่าไปจอดอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน ถนนเพชรเกษม ต.ธรรมศาลา โดยมี นายธนธร เป็นคนขับ จึงแสดงตัวเข้าจับกุมไว้ได้
เบื้องต้นตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พบว่า นายวรภพ มีประวัติคดีอาญา พ.ร.บ.ยาเสพติด พ้นโทษออกมาเมื่อปี 2563 ส่วน นายธนธร มีคดีปลอมเอกสารสิทธิราชการ พื้นที่ สภ.เมืองกาญจบุรี จึงแจ้งข้อกล่าวหา "ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป" นำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.