MGR Online - รมว.ยุติธรรม พร้อมคณะ ลงพื้นที่แม่สอด จ.ตาก สนับสนุนตัดวงจรและควบคุมสารเคมีตั้งต้น เร่งเครื่องแก้ปัญหายาเสพติดจากต้นตอ
วันนี้ (24 ส.ค.) ณ ด่านพรมแดนแม่สอด แห่งที่ 2 อ.แม่สอด จ.ตาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะ ประกอบด้วย พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะอนุกรรมการควบคุมสารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด , พล.อ.ชัยวิน ผูกพันธุ์ ที่ปรึกษาผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ , นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม , นายรวิศ สอดส่อง หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ฯลฯ ลงพื้นที่ตรวจราชการ การควบคุมสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดในอาเซียน ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยมี นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อม นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา ตำแหน่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดตาก และหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม องค์กรปกครองท้องถิ่น ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ปัญหาสำคัญประการหนึ่งของยาเสพติดในปัจจุบัน คือ การผลิตส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้การสั่งซื้อและนำเข้ายาเสพติดจากนอกประเทศเป็นเรื่องยากที่จะควบคุม เราได้หารือกับเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และเห็นตรงกันว่าหากสามารถ ตัดวงจรยาเสพติดที่ชายแดนแม่สอด ได้สำเร็จ จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อปริมาณยาเสพติดที่เข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันอาจมีจำนวนหลายพันล้านเม็ดในขณะที่เราสามารถจับกุมได้เพียงส่วนน้อยเท่านั้น
“ผมอยากเข้ามาช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพราะเชื่อว่าทุกคนทำงานอย่างเต็มที่อยู่แล้ว อยากให้ทุกฝ่ายเข้ามาช่วยกันดูว่าขาดเหลืออะไร และร่วมกันแก้ไขปัญหานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหายาเสพติดถือเป็นความทุกข์ของประชาชน และเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องร่วมมือกันเพื่อ คืนคนที่มีคุณภาพกลับสู่สังคม การเข้ามามีส่วนร่วมในครั้งนี้ก็เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เกิดผลเป็นรูปธรรม“ รมว.ยุติธรรม กล่าว
พ.ต.อ.ทวี เน้นย้ำว่า การควบคุมสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์เป็นนโยบายสำคัญ เพราะเป็นต้นตอของการผลิตยาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำผ่านชายแดนทางตะวันตกของประเทศเพื่อส่งต่อไปยังแหล่งผลิตในประเทศเพื่อนบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้มีขึ้นหลังการตรวจยึดสารเคมีตั้งต้น จำนวนมหาศาลกว่า 800 ตัน ในโกดังสินค้าที่ อ.แม่สอด เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสารเคมีเหล่านี้สามารถนำไปผลิตยาบ้าและไอซ์ได้เป็นจำนวนมาก โดยในปี พ.ศ. 2567-2568 มีคดีตรวจยึดสารเคมีตั้งต้น 12 คดีทั่วประเทศ ซึ่ง 5 คดีอยู่ในพื้นที่ จ.ตาก ทั้งนี้ รัฐบาลตั้งเป้าหมายที่จะลดปัญหายาเสพติดให้สำเร็จในระยะเวลาที่กำหนด โดยการขับเคลื่อนมีเป้าหมายเพื่อจัดการกับต้นตอของปัญหาอย่างแท้จริง ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเข้าหรือส่งออกสารเคมีเพื่อใช้ในทางที่ผิดจะต้องถูกดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด มีมาตรการควบคุมสารเคมีอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นไปอย่างยั่งยืน และป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะ มีกำหนดการเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจ และแลกเปลี่ยนความเห็น ผู้ถูกคุมประพฤติ ในหัวข้อ การพัฒนาผู้ถูกคุมประพฤติ ให้เป็นกำลังพัฒนาประเทศสู่พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แก้วิกฤตแรงงานขาดแคลน ณ ห้องประชุม ชั้น 1 ด่านพรมแดนแม่สอด แห่งที่ 2 อ.แม่สอด จ.ตาก ก่อนเดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน การควบคุมสารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ ที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด ณ ท่าข้ามสินค้าชายแดน ท่าที่ 28 อ.แม่สอด จ.ตาก ในช่วงบ่าย