MGR Online - เลขา ป.ป.ส. ลงพื้นที่ช่วยสร้างขวัญกำลังใจชุดปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ หลังเหตุปะทะ 13 ครั้ง แก๊งขนยาเสียชีวิต 21 ศพ ยึดยาบ้ารวมกว่า 23 ล้านเม็ด
วันนี้ (19 ส.ค.) ณ กองบังคับการควบคุมผาดำฯ ฐานปฏิบัติการบ้านร้องธาร ต.ศรีดงเย็น อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย พล.ท.กิตติพงศ์ ชื่นใจชน ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดชายแดนภาคเหนือ หลังเกิดเหตุปะทะอย่างต่อเนื่องกับกลุ่มขบวนการลำเลียงยาเสพติดตั้งแต่ห้วงเดือน พ.ค.68 ในพื้นที่ชายแดนจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย จำนวน 13 ครั้ง เป็นเหตุการณ์สำคัญ 10 ครั้ง กลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิตรวม 21 ศพ ยึดยาบ้ารวม 23,544,000 เม็ดไอซ์ 58 กิโลกรัม ฝิ่นดิบ 20.8 กิโลกรัม และยาเสพติดอื่นอีกจำนวนหนึ่ง
โดยเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นจำแนกตามหน่วยรับผิดชอบพื้นที่ ดังนี้ 1.หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ จำนวน 5 ครั้ง (1) วันที่ 5 มิ.ย.68 กองร้อยทหารม้าที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 501 ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ และได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการฯ บริเวณช่องทางผาบ่อง บ้านป่ากล้วย ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ผลการปะทะกลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 1 ศพ และยึดยาบ้าได้จำนวน 200,000 เม็ด ฝิ่นดิบ 20.8 กิโลกรัม และอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรฝาง ดำเนินการตามกฎหมาย
(2) วันที่ 13 มิ.ย.68 กองร้อยทหารม้าที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 501 ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ และ ได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการฯ ประมาณ 6-8 คน บริเวณช่องทางเขาหัวนก บ้านขอบด้ง หมู่ที่ 14 ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ผลการปะทะกลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 4 ศพ และยึดยาบ้าได้จำนวน 400,000 เม็ด เฮโรอีน 360 กรัม ยาอี 27 เม็ด และฝิ่นดิบ 12 กรัม นอกจากนี้ยังมีอาวุธปืนลูกซองยาวไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน และอาวุธปืนพก 1 กระบอก นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรฝาง ดำเนินการตามกฎหมาย
(3) วันที่ 20 มิ.ย.68 กองร้อยทหารม้าที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 501 ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ และได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการฯ ประมาณ 6-8 คน บริเวณบ้านหนองเต่า ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ผลการปะทะกลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 2 ศพ และยึดยาบ้าได้ 400,000 เม็ด และอาวุธปืนลูกซองยาวไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรฝาง ดำเนินการตามกฎหมาย
(4) วันที่ 2 ส.ค.68 กองร้อยทหารม้าที่ 3 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ และได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการฯ ประมาณ 6-8 คน บริเวณเส้นทางแยกบ้านหลวง หมู่ที่ 5 ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ผลการปะทะกลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิตจำนวน 5 ศพ และยึดยาบ้าได้จำนวน 1,354,000 เม็ดอาวุธปืนลูกซองยาวไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์จำนวน 1 กระบอก และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรฝาง ดำเนินการตามกฎหมาย
(5) วันที่ 15 ส.ค.68 กองร้อยทหารม้าที่ 4 หน่วยเฉพาะกิจไชยานุภาพ ร่วมกับกองร้อยทหารพรานที่ 3207 กองบังคับการควบคุมทหารพราน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจและได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการฯ ประมาณ 30-40 คน บริเวณเส้นทางสันผักหวาน บ้านหนองเต่า ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ผลการปะทะกลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิตจำนวน 1 ศพ และยึดยาบ้าได้จำนวน 4,200,000 เม็ด อาวุธปืนยาว จำนวน 1 กระบอก นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรฝาง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
2.หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก จำนวน 3 ครั้ง (1) วันที่ 6 มิ.ย.68 กองร้อยทหารม้าที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ร่วมกับชุดปฏิบัติการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ และได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการฯ ประมาณ 15-20 คน บริเวณบ้านปางหนุนพัฒนา ตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ผลการปะทะกลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 1 ศพ และยึดยาบ้าได้จำนวน 4,200,000 เม็ด นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่ฟ้าหลวง ดำเนินการตามกฎหมาย
(2) วันที่ 20 มิ.ย.68 กองร้อยทหารม้าที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 504 ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ และได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการฯ ประมาณ 15-20 คน บริเวณช่องทางบ้านม้งเก้าหลัง 5 บ้านปางมะหัน หมู่ที่ 8 ตำบลเทอดไทย อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ผลการปะทะกลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 2 ศพ และยึดยาบ้าได้จำนวน 4,000,000 เม็ด นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีสถานีตำรวจภูธรแม่ฟ้าหลวง เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
(3) วันที่ 2 ก.ค.68 กองร้อยทหารม้าที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 504 และชุดปฏิบัติการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ และได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการฯ ประมาณ 25-30 คน บริเวณบ้านป่าซางนาเงิน ตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ผลการปะทะกลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิตจำนวน 2 ศพ และยึดยาบ้าได้จำนวน 7,790,000 เม็ด ไอซ์จำนวน 58 กิโลกรัม ลูกระเบิดขว้างจำนวน 1 ลูก ปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง วิทยุสื่อสาร (ICOM) จำนวน 3 เครื่อง และรถกระบะจำนวน 1 คัน นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่ฟ้าหลวง ดำเนินการตามกฎหมาย
3.กองบังคับการควบคุมทหารพราน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 จำนวน 2 ครั้ง (1) วันที่ 23 พ.ค.68 กองร้อยทหารพรานที่ 3207 กองบังคับการควบคุมทหารพราน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 501 ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ และได้เกิดการปะทะกับกลุ่มขบวนการฯประมาณ 5-8 คน บริเวณบ้านดอยแหลม หมู่ที่ 13 ตำบลแม่อาย อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ หลังเหตุการณ์สงบ ตรวจพบกลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต 2 ศพ และกระสอบดัดแปลงเป็นเป้สะพายหลัง จำนวน 5 ใบ ภายในบรรจุยาบ้ารวมจำนวน 500,000 เม็ด พร้อมด้วยอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก จึงได้ทำการตรวจยึดนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่อาย ดำเนินการตามกฎหมาย
(2) วันที่ 28 มิ.ย.68 กองร้อยทหารพรานที่ 3209 กองบังคับการควบคุมทหารพราน ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษที่ 503 ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ และได้ปะทะกับกลุ่มขบวนการฯ ประมาณ 4-6 คน บริเวณบ้านนามะอื้น หมู่ที่ 14 ตำบลแม่อาย อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ผลการปะทะกลุ่มขบวนการฯ เสียชีวิต จำนวน 1 ศพ และยึดยาบ้าได้จำนวน 500,000 เม็ด นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่อาย ดำเนินการตามกฎหมาย
ทั้งนี้ จากเหตุปะทะข้างต้นไม่มีรายงานเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ เลขาธิการ ป.ป.ส. และคณะ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมกำลังพล รับฟังรายงานสรุปเหตุการณ์ปะทะ และสถานการณ์ลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่ โดยเลขาธิการ ป.ป.ส. ยังคงเน้นย้ำว่า ขวัญกำลังใจเป็นกำลังรบที่ไม่ที่ตัวตนแต่ทรงอนุภาพ จึงได้เดินทางมาให้กำลังใจและมอบของบำรุงขวัญด้วยตนเอง นอกจากนี้ ยังต้องการรับฟังปัญหาอุปสรรคจากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เพื่อหาแนวทางแก้ไขในระดับนโยบายต่อไป และย้ำว่า สำนักงาน ป.ป.ส. ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและการเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดกั้นยาเสพติดให้ดียิ่งขึ้น จึงประสงค์ให้หน่วยงานในพื้นที่ร่วมจัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อถอดบทเรียน และพัฒนาการปฏิบัติต่อไป