MGR Online - เลขาฯ ป.ป.ส. พร้อมคณะ ประชุมร่วม อธิบดีกรมตำรวจปราบปรามยาเสพติดเวียดนาม ประสานร่วมมือ 8 ข้อ สกัดกั้นสารตั้งต้นไม่ให้เข้าสู่แหล่งผลิต
วันนี้ (15 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ส.ค.68 ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการสำนักงาน ป.ป.ส. นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมทวิภาคีไทย – เวียดนาม ว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 17 ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม โดยมี พล.ต.ต.โง แทง บิ่ญ (Pol.Maj.Gen. Ngo Thanh Binh) อธิบดีกรมตำรวจปราบปรามยาเสพติดเวียดนาม (The Counter Narcotics Police Department of Vietnam: CND) เป็นประธานการประชุมและหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายเวียดนาม
การประชุมครั้งนี้ ฝ่ายเวียดนามได้กล่าวต้อนรับและขอบคุณสำหรับความร่วมมืออันแน่นแฟ้นระหว่างทั้งสองประเทศในการเผชิญและแก้ไขปัญหายาเสพติดที่ซับซ้อนและท้าทาย ขณะที่เลขาธิการ ป.ป.ส. เน้นย้ำถึงการแก้ไขปัญหาจากต้นเหตุ โดยเฉพาะการลักลอบลำเลียงสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์เข้าสู่แหล่งผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ รวมถึงกาเฟอีน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของยาบ้าและก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งนี้ ฝ่ายไทยพร้อมประสานความร่วมมือ แลกเปลี่ยนข่าวกรอง สนับสนุนทรัพยากร และปฏิบัติการร่วมเชิงยุทธศาสตร์ เพื่อเป้าหมายสร้างสังคมปลอดภัยจากยาเสพติด ภายใต้หลัก “ครอบครัวอบอุ่น ชุมชนเข้มแข็ง”
นอกจากนี้ ฝ่ายไทยได้กล่าวถึงความสำเร็จของแผนปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ที่สามารถจับกุมยาเสพติดได้จำนวนมาก พร้อมทั้งผลักดันการสร้างความตระหนักรู้ถึงอันตรายจากยาบ้าและปัญหาในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ อีกทั้งเสนอร่างข้อมติหัวข้อ “ส่งเสริมการวิจัยเกี่ยวกับมาตรการที่อิงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ในการบำบัดรักษาและดูแลความผิดปกติจากการใช้สารกระตุ้น” ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนสูงสุดจากประเทศสมาชิก ในที่ประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติดแห่งสหประชาชาติ (CND) สมัยที่ 68 ณ กรุงเวียนนา รวมถึงการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมวิชาการสารเสพติดนานาชาติ เพื่อรวบรวมองค์ความรู้และแนวคิดใหม่จากนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก เพื่อนำไปต่อยอดร่างข้อมติดังกล่าว
โดยที่ประชุมฯ ได้เห็นชอบสนับสนุนความร่วมมือระหว่างกัน ดังนี้ 1.เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังการผลิต การส่งออก การนำเข้า และการผ่านแดนของสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตยาเสพติด โดยเฉพาะกาเฟอีน เพื่อป้องกันการนำไปใช้ผลิตยาเสพติด
2.แลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการปราบปราม รวมทั้งปฏิบัติการสืบสวนและติดตามปราบปรามเครือข่ายนักค้ายาเสพติดร่วมกัน โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนเวียดนาม–ลาว และไทย–ลาว ซึ่งเป็นจุดลักลอบลำเลียงยาเสพติดและเคมีภัณฑ์ รวมถึง การจัดตั้งชุดปฏิบัติการร่วม ทั้งนี้ รวมถึงในการควบคุมกัญชา เนื่องจากปัจจุบัน พบการลักลอบนำเข้ากัญชาจากไทยไปเวียดนามเป็นจำนวนมาก โดยราคากัญชาในเวียดนามสูงกว่าไทยถึง 10 เท่า
3.ส่งเสริมการจัดทำและการแลกเปลีย่นข้อมูลผลตรวจพิสูจน์ยาเสพติด (Drug Profiling) ซึ่งมีความสำคัญและจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการวิเคราะห์สถานการณ์ยาเสพติด การแพร่ระบาด แนวโน้มและเส้นทางลำเลียง รวมถึงการระบุกลุ่มเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง และช่วยสนับสนุนการวางแผนปฏิบัติการและกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ
4.ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันผ่านกลไกมีอยู่ในทุกระดับ ทั้งกรอบทวิภาคีและพหุภาคี รวมถึงการประสานงานอย่างทันท่วงทีผ่านช่องทาง อทป.ปปส. ณ กรุงฮานอย และศูนย์ประสานงานแม่น้ำโขงปลอดภัย ในโอกาสนี้ฝ่ายไทยได้มีการแนะนำ นายพรภณ พงษ์เพชร ซึ่งจะเข้ารับหน้าที่ อทป.ปปส. ณ กรุงฮานอย ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.68
5.ยินดีจัดการศึกษาดูงานในลักษณะเหย้าเยือน จำนวนฝ่ายละ 2 คณะ ทั้งนี้ ในเบื้องต้นเวียดนามแสดงความสนใจในการศึกษาดูงานด้านการบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด และด้านการตรวจสอบและยึดทรัพย์สิน
6.สนับสนุนงบประมาณและการดำเนินการแผนงานกิจกรรมภายใต้โครงการ LoA อย่างต่อเนื่อง สำหรับโครงการ LOA ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ไทยยินดีสนับสนุนปฏิบัติการสกัดกั้นยาเสพติดและเคมีภัณฑ์ในพื้นที่ชายแดนเป้าหมาย ตามแผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย (Safe Mekong Operation Plan) รวมถึงการเป็นเจ้าภาพแผนดังกล่าวของเวียดนาม ซึ่งไทยได้กล่าวชื่นชมการเสนอรับเป็นเจ้าภาพแผนฯ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในโอกาสแรกหรือในห้วงปี 2569 ต่อไป
7.สนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานในการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยฝ่ายไทยยินดีเชิญฝ่ายเวียดนามเข้าร่วมหลักสูตรประจำที่จัดในประเทศไทย จำนวน 2 หลักสูตร ได้แก่ โครงการพัฒนาเครือข่ายเยาวชนระหว่างประเทศเพื่อการป้องกันยาเสพติด (Youth Network on Drug Prevention Programme) และโครงการฝึกอบรมการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งต้น และเคมีภัณฑ์สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายยาเสพติดในกลุ่มประเทศอาเซียน (The Training of Narcotic, Precursor, and Chemical Interception and Suppression for ASEAN Narcotics Law Enforcement Officers) รวมถึงโครงการความร่วมมือที่จะจัดโดย อทป.ปปส. ณ กรุงฮานอย ประเทศเวียดนามอีก 2 โครงการ
8.ฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมทวิภาคีไทย–เวียดนาม ครั้งที่ 18 ณ ประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2569
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 13 ส.ค.68 เลขาธิการ ป.ป.ส. มอบหมายให้ น.ส.ศรีตระกูล เวลาดี ผู้อำนวยการสำนักการต่างประเทศ นำคณะผู้แทนไทยเยี่ยมชมศูนย์บำบัดผู้ติดยาเสพติดที่ 4 กรุงฮานอย โดยมี พ.ต.ท.เหงียน เวียด ลอง หัวหน้าศูนย์ ให้การต้อนรับ ปัจจุบันศูนย์ฯ รับผู้เข้าบำบัดจำนวน 611 คน โดยมีโครงการให้คำปรึกษาด้านกฎหมายและสังคม กระบวนการบำบัดแบ่งเป็น 5 ขั้นตอน ได้แก่ 1.การรับและจำแนกประเภทผู้เข้ารับการบำบัด 2.การถอนยา/การบำบัดพิษ และการรักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติทางจิต 3.การให้คำปรึกษาและฟื้นฟูพฤติกรรมและบุคลิกภาพ 4.การฝึกอาชีพและกิจกรรมบำบัด และ 5.การเตรียมความพร้อมเพื่อกลับสู่ชุมชน เพื่อให้ผู้เข้ารับการบำบัดมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ และลดความเสี่ยงต่อการกลับไปเสพซ้ำ