อธืบดีอัยการศาลสูง ภาค 4 เผย ศาลฎีกาไม่ให้ประกัน"ลุงพล" คดีฆ่า"น้องชมพู่" หลังคัดค้านประกัน ศาลฎีกาชี้พฤติการณ์เป็นเรื่องร้ายเเรง เกรงจะหลบหนี
วันนี้ (14 ส.ค.) นายประยุทธ เพชรคุณ อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูงภาค4 ในฐานะผู้ควบคุมดูแลการดำเนินคดีในชั้นศาลสูง กล่าวถึงความคืบหนัาในคดีที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาเเก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล หรือ ลุงพล วิภา ในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณหรือน้องชมพู่ วงศ์ศรีชา อายุ 3 ปี เป็นรวม 26 ปีเมื่อวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมาซึ่งต่อมาจำเลยยื่นประกันตัวเเละศาลจังหวัดมุกดาหารส่งให้ศาลฎีกาพิจารณาเรื่องการปล่อยชั่วคราวว่า
คดีนี้ตนได้กำชับ น.ส.นฤมล วิเชียรเเสน อัยการศาลสูงจังหวัดมุกดาหาร ยื่นคัดค้านการประกันตัวนายไชย์พล หรือ ลุงพล
ซึ่งในวันนี้ ศาลฎีกาได้มีคำสั่งว่า พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรงกระทบต่อสังคมเป็นการลงโทษสถานหนักทั้งศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษให้จำคุก 26 ปี และเกรงว่าจำเลยจะหลบหนีจึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างฎีกา ยกคำร้องการประกันตัว ส่งผลให้นายไชย์พล หรือลุงพล จำเลย ต้องคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างฎีกา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำร้องคัดค้านการประกันตัวของอัยการศาลสูงจังหวัดมุกดาหาร ความว่าคดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากมาแก้เป็นเพิ่มโทษนายไชยพล หรือ ลุงพล จำเลยที่ 1 ให้หนักกว่าที่พิพากมาในศาลชั้นต้น เนื่องจากคดีนี้มีอัตราโทษสูงและจังหวัดมุกดาหาร อยู่ใกล้ชายแดนประกอบกับจำเลยที่ 1 มีฐานะทางการเงินดี และคดีเป็นที่สนใจของประชาชนโดยทั่วไป หากศาลอนุญาต ให้ปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นฎีกาแล้วจำเลยที่ 1 สามารถหลบหนีไปได้
โจทก์เกรงว่าจะเป็นการยากในการติดตามตัวซึ่งจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ผลและและทำให้กระบวนการยุติธรรมขาดความน่าเชื่อถือ
ด้วยเหตุผลดังกล่าว หากนายไชย์พล หรือ ลุงพล จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นฎีกา โจทก์จึงขอขัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวของจำเลยที่ 1 ขอศาลได้ไปรดพิจารณาไม่อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยที่ 1
ขณะที่มีรายงานว่า วันพรุ่งนี้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เตรียมจะย้ายนายไชย์พล หรือลุงพล ไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครพนม ภายหลังศาลฎีกามีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว เนื่องจากมีอัตราโทษสูงเกินกว่าที่จะคุมขังไว้ที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร