ตร.ภูธรภาค7 แถลงปิดคดีคานปูนและเครนก่อสร้างถนนยกระดับบนถ.พระราม 2 ถล่ม เมื่อปลายปี 67 ดำเนินคดีอาญาวิศวกร-นายช่าง-ผู้คุมงาน-จนท.รัฐ-บ.ผู้รับเหมา
วันนี้ (5 ส.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่กองบัญชากาตำรวจภูธรภาค 7 จ.นครปฐม พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 แถลงปิดคดีคานปูนและเครนก่อสร้างถนนยกระดับบนถนนพระรามของโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน - บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย - บ้านแพ้ว ตอน 1 ช่วง กม.21+600 เขตพื้นที่หมู่ 1 และหมู่ 2 ต.คอกกระบือ อ.เมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร หล่นจากที่ติดตั้งลงมาเป็นเหตุให้มีคนงานเสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 9 คน
พล.ต.ต.อุทัย เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่กำหนดให้ผู้บังคับบัญชาส่งเสริมสนับสนุน และแก้ไขปัญหางานสอบสวนอันเป็นอำนวยความยุติธรรมทางอาญา ให้ตำรวจเป็นที่พึ่งพิงของประชาชนอย่างแท้จริง โดยตนได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบฝ่ายกฎหมายและสอบสวน เข้าควบคุม กำกับ ดูแลการสอบสวนในคดีดังกล่าว เพื่อสอบสวนถึงสาเหตุและนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในทำนองเดียวกันนี้เกิดขึ้นอีกต่อไป ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน ประชาชนผู้สัญจร ทั่วไป
ทั้งนี้ ตนพร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีระเดช อธิภัคกุล ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.ภคิน ศิวเมธากุล รองผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร และ พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร เห็นว่า เหตุดังกล่าวนี้ได้เกิดขึ้นซ้ำมาหลายครั้งแล้ว มีผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน ต่อเศรษฐกิจของประเทศในวงกว้าง จึงได้เร่งรัด กำชับ การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ในการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ให้มีความศักดิ์สิทธิ์เกิดความผาสุกแก่ประชาชนไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีกต่อไป ซึ่งได้เร่งรัดการทำงานสืบสวนสอบสวนมาโดยตลอด นั้น ในวันนี้จึงได้จัดประชุมเพื่อสรุปสำนวนปิดคดี
สรุปผลการสอบสวนได้ ดังนี้ ได้แยกดำเนินคดีแบ่ง เป็น 4 กลุ่ม คือ
1. กลุ่มอาญา บุคคลธรรมดา ส่งพนักงานอัยการดำเนินคดีฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และถึงแก่ความตาย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291 ,มาตรา 300 , มาตรา 390 ฐานเป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของผู้ประกอบวิชาชีพ เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 227, มาตรา 238 ดำเนินคดีกับ
1. นายจักรรินทร์ฯและนายพัทธ์ปพนฯ วิศวกรผู้ควบคุมงานของบริษัท อุดมศักดิ์ เชียงใหม่ จำกัด
2. นายธรรมรัตน์ฯ นายช่างฯผู้ควบคุมงานของกรมทางหลวง
3. นายประกิจฯ หัวหน้าคนงาน บริษัท พีเอซีไอ คอนสตรัคชั่น จำกัด
2.กลุ่มอาญานิติบุคคล บริษัท ฯ ผู้รับเหมาที่เป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นคู่สัญญากับรัฐ และบริษัท ฯ ผู้รับจ้างช่วง ฐานเป็นผู้กระทำความผิดในทางอาญา ส่งพนักงานอัยการดำเนินคดีฐาน กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และถึงแก่ความตาย ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 291 ,มาตรา 300 , มาตรา 390 ฐาน เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของผู้ประกอบวิชาชีพ เป็นเหตุให้ บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 227, มาตรา 238 พ.ร.บ.อาชีวอนามัย ฯ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว ฯ ดำเนินคดีกับ 1. บริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด ผู้รับจ้างหลัก 2. บริษัท พี เอส ซี ไอ คอนสตรัคชัน จำกัด ผู้รับจ้างช่วง
3.กลุ่มความผิดเกี่ยวกับการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของเจ้าพนักงาน (เจ้าหน้าที่ของรัฐ) ส่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช. ) ดำเนินการในอำนาจหน้าที่ ต่อไป ฐาน ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปี ถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐาน เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของผู้ประกอบวิชาชีพ เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 227, มาตรา 238 ดำเนินคดีกับ
1. นายนพดลฯ หัวหน้าโครงการที่เกิดเหตุของ กรมทางหลวง
4.กลุ่มผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิด คือ บริษัท ฯ ผู้รับเหมาที่เป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นคู่สัญญากับรัฐ และบริษัท ฯผู้รับจ้างช่วง ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานให้กระทำความผิด ส่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ดำเนินการในอำนาจหน้าที่ ต่อไปฐาน ผู้ใดเป็นผู้สนับสนุน เจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือ ปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปี ถึง สิบปี หรือ ปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบ มาตรา 86 ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำ ความผิด แม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวก นั้นก็ตาม ผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ต้องระวางโทษสอง ในสามส่วนของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุนนั้นดำเนินคดีกับ 1. บริษัท อุดมศักดิ์เชียงใหม่ จำกัด ผู้รับจ้างหลัก 2. บริษัท พี เอส ซี ไอ คอนสตรัคชัน จำกัด ผู้รับจ้างช่วง
พล.ต.ต.อุทัย กล่าวด้วยว่า ตำรวจภูธรภาค 7 ขอเรียนว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีสำคัญกระทบต่อความเชื่อมั่นในการบังคับใช้กฎหมายและกระทบต่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างยิ่งกระทบต่อมาตรฐานความปลอดภัยในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ กระทบต่อเศรษฐกิจความเชื่อมั่นของประเทศโดยรวม จึงได้ให้คำมั่นว่าจะทำให้เป็นคดีตัวอย่างในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มประสิทธิภาพและให้เกิด ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นซ้ำอีก ในเส้นทางพื้นที่รับผิดชอบ บนเส้นทางถนนพระราม 2 ต่อไป